ปส.แจงเพลิงไหม้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ‘ยูเครน’ ดับแล้วไร้ผลกระทบ

Loading

  สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) แจ้งรายงานหน่วยงานกำกับดูแลทางนิวเคลียร์ของประเทศยูเครน ระบุเหตุเพลิงไหม้โรงไฟฟ้า “ซาโปริเซีย” ประเทศยูเครน ซึ่งเป็นโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ขณะนี้เพลิงดับหมดแล้ว มีการเฝ้าระวังกัมมันตภาพรังสีในอากาศต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย   เมื่อวันที่ 4 มี.ค. มีรายงานเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซีย (Zaporizhzhya) ประเทศยูเครน โดย สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้รับแจ้งจากหน่วยงานกำกับดูแลทางนิวเคลียร์ของประเทศยูเครน ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการแจ้งเหตุทางนิวเคลียร์โดยเร็ว ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency, IAEA) และจากการแถลงข่าวของ IAEA โดยมีรายละเอียด ดังนี้   เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 65 เวลา 01.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.40 น. ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดเพลิงไหม้ที่อาคารแห่งหนึ่งในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศยูเครน ขณะนี้เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ดับเพลิงไหม้ดังกล่าวแล้ว   เพลิงไหม้ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ รวมทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือที่สำคัญอื่น ๆ ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อีกทั้ง ระดับรังสีพื้นหลัง…

‘กูเกิล แมป’ ระงับให้บริการใน ‘ยูเครน’ กังวลความปลอดภัยพลเมือง

Loading

  ‘กูเกิล แมป’ ระงับการใช้ฟังก์ชันบางส่วน ห่วงความปลอดภัยพลเมืองยูเครน เผยนักวิจัยเคยส่องกูเกิล แมป สังเกตความเคลื่อนไหวรัสเซียมาแล้ว บริษัท กูเกิล ระบุว่า ได้ระงับการให้บริการแผนที่บางส่วนในประเทศยูเครนชั่วคราว โดยจะระงับการรายงานข้อมูลการจราจร และความหนาแน่นของประชาชนในแต่ละพื้นที่ เช่น ร้านค้า และร้านอาหาร เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยของชุมชน แต่ผู้ใช้งานยังคงสามารถใช้บริการของ กูเกิล เพื่อการค้นหาเส้นทางได้ การเคลื่อนไหวของ กูเกิล นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายรายได้ปรับปรุงนโยบายของบริษัทเพื่อปกป้องผู้ใช้งานที่อยู่ในยูเครน ขณะที่ฝ่ายรัสเซียยังคงยิงขีปนาวุธถล่มยูเครนและพยายามบุกเข้ายึดกรุงเคียฟอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พลเมืองเกือบ 4 แสนคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กเล็ก ต้องลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน     ก่อนหน้านี้ นักวิจัยได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือในการจับต้นชนปลายความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับสงคราม โดยศาสตราจารย์ จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมิดเดิลบูรี ระบุว่า กูเกิล แมป ช่วยให้เห็นความเคลื่อนไหวของรัสเซียบริเวณชายแดน ก่อนที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน จะสั่งการบุกยูเครน ที่มา: CNN     ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์    /   วันที่เผยแพร่ 28 ก.พ.65…

ยูเครนประกาศสร้างกองทัพไอทีต่อสู้ทางไซเบอร์กับรัสเซีย

Loading

  มิไคโล เฟโดรอฟ (Mikhailo Fedorov) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงปฏิรูปดิจิทัลยูเครน ระบุผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า รัฐบาลกำลังจัดตั้งกองทัพเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อต่อสู้ทางไซเบอร์กับรัสเซีย   We are creating an IT army. We need digital talents. All operational tasks will be given here: https://t.co/Ie4ESfxoSn. There will be tasks for everyone. We continue to fight on the cyber front. The first task is on the channel for cyber specialists. — Mykhailo Fedorov (@FedorovMykhailo)…

ยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉิน-แจ้งพลเมืองกลับประเทศ ผวารัสเซียจู่โจมเต็มรูปแบบ

Loading

ยูเครนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันพุธ (23 ก.พ.) และแจ้งให้พลเมืองที่อยู่ในรัสเซียเดินทางกลับมาตุภูมิทันที หลังจากมอสโกเริ่มอพยพเจ้าหน้าที่ในสถานทูตประจำกรุงเคียฟ ในสัญญาณลางร้ายล่าสุดสำหรับชาวยูเครนที่หวั่นเกรงว่ารัสเซียอาจเปิดปฏิบัติการโจมตีเต็มรูปแบบ เหตุยิงระเบิดโจมตีกันไปมาตามแนวชายแดนทางภาคตะวันออกของยูเครนเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เมื่อวันอังคาร (22 ก.พ.) ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เพิ่งประกาศรับรองเอกราชของ 2 เขตกบฏที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซีย และสั่งให้กองกำลังมอสโกเข้าประจำการในดินแดนดังกล่าวในฐานะ “กองกำลังรักษาสันติภาพ” ผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ขบวนยุทโธปกรณ์ทางทหาร ในนั้นรวมถึงรถถัง 9 คัน ได้เคลื่อนจากชายแดนของรัสเซีย เข้าสู่เมืองโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า ปูติน จะลงมือโจมตีครั้งใหญ่เล่นงานยูเครนหรือไม่ แม้ระดมกองกำลังมากกว่า 100,000 นายตามแนวชายแดนติดกับยูเครน ในขณะที่เจ้าหน้าที่กลาโหมรายหนึ่งของสหรัฐฯ เชื่อว่ากองกำลังรัสเซียพร้อมแล้วสำหรับการลงมือโจมตี “ให้คาดเดาว่าก้าวย่างต่อไปของรัสเซียคืออะไร ให้เดาการตัดสินใจของพวกแบ่งแยกดินแดนหรือการตัดสินใจส่วนตัวของประธานาธิบดีรัสเซีย ผมไม่อาจล่วงรู้ได้” ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ โซเลนสกี แห่งยูเครนกล่าว ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 30 วันผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาในวันพุธ (23 ก.พ.) โดยมีเป้าหมายช่วยหล่อหลอมแนวทางตอบสนองต่อภัยคุกคามจากการรุกรานของรัสเซีย มาตรการที่ได้รับความเห็นชอบอย่างท่วมท้นนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่มอสโกเริ่มต้นอพยพบรรดาเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตในกรุงเคียฟ และวอชิงตันยกระดับคำเตือนเกี่ยวกับโอกาสที่รัสเซียจะลงมือโจมตีเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะเปิดทางให้รัฐบาลเขตต่างๆ ของยูเครน บังคับใช้มาตรการความมั่นคงขั้นสูงสุด ไล่ตั้งแต่ค้นเอกสารสำคัญประจำตัวของประชาชนและตรวจค้นยานพาหนะเข้มข้นขึ้น…

ทูตลงพื้นที่ยูเครน สำรวจความพร้อมเตรียมทำแผนอพยพคนไทย ท่ามกลางวิกฤต

Loading

  ทูตลงพื้นที่ยูเครน-วันที่ 17 ก.พ.นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงการเตรียมการสำหรับคนไทยในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียว่า จากเหตุการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครนนั้น สถานทูตไทยในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งดูแลประเทศยูเครนด้วย ได้ดำเนินการเพื่อดูแลความปลอดภัยของคนไทยในยูเครน อาทิ การลงพื้นที่สำรวจเมืองเพื่อใช้เป็นฐานในการอพยพ การตั้งกลุ่มไลน์พิเศษสำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างสถานทูต และกลุ่มคนไทยในยูเครน ซึ่งมีประมาณ 230 คน   คณะของสถานทูตหารือกับทีมร้านสปา Wai Thai (ภาพจากสถานทูตไทยในโปแลนด์) นายธานีกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตได้หารือกับฝ่ายรัฐบาลยูเครน รัฐบาลโปแลนด์และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยในการเตรียมแผนอพยพคนไทยในกรณีฉุกเฉินและยังได้ออกประกาศเตือนร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ขอให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยูเครนในระยะนี้   นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (ภาพจากกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวอีกว่า เมื่อ 13 – 15 กุมภาพันธ์ 2565 นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์และทีมเจ้าหน้าที่ทูตได้เดินทางลงพื้นที่โดยรถยนต์ไปยังเมืองลวิฟ ( Lviv) ประเทศยูเครน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของยูเครน ใกล้ชายแดนโปแลนด์ เพื่อสำรวจความพร้อมในการที่จะใช้เมืองลวิฟเป็นฐานในการอพยพคนไทยกลับประเทศไทยโดยเครื่องบินหรือเดินทางเข้าโปแลนด์เพื่อเดินทางกลับไทย ซึ่งคณะของสถานทูตได้พบหารือกับผู้จัดการสนามบินนานาชาติเมืองลวิฟ และสำรวจเส้นทางจากเมืองลวิฟไปยังกรุงวอร์ซอ รวมทั้งสำรวจโรงแรมที่พัก…

เว็บไซต์กระทรวงกลาโหมยูเครนและธนาคาร 2 แห่ง ถูกโจมตีทางไซเบอร์

Loading

  หน่วยงานการสื่อสารพิเศษและปกป้องข้อมูลแห่งรัฐของยูเครน (SSSCIP) รายงานว่า เมื่อวันอังคาร (15 ก.พ.) ที่ผ่านมา มีผู้ไม่ประสงค์ดีใช้การโจมตีทางไซเบอร์จู่โจมเว็บไซต์ของกระทรวงกลาโหมและกองทัพของยูเครน และเว็บไซต์ธนาคารยูเครน 2 แห่ง   วิกเตอร์ โซรา รองผู้อำนวยการ SSSCIP กล่าวว่า ยังไม่มีความไม่ชัดเจนว่าใครหรือฝ่ายไหนเป็นผู้โจมตี โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว “ยังเร็วเกินไปที่จะระบุตัวคนทำและเหตุผลที่ทำ”   เหตุการณ์ดังกล่าเกิดขึ้นขณะที่ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังไม่ดับมอดไปซะทีเดียว โดยล่าสุดแม้รัสเซียประกาศว่าสั่งถอนกำลังทหารออกจากชายแดนยูเครนไปจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ทางการยูเครนยังไม่ปีกใจเชื่อ 100% ว่ารัสเซียถอนกำลังไปจริง   ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ เตือนว่า การรุกรานของรัสเซียครั้งใหม่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ขณะที่รัสเซียก็ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้วางแผนที่จะบุกยูเครน   SSSCIP ระบุว่า เหตุการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้น มีลักษณะเป็นการโจมตีเพื่อทำให้ระบบเป้าหมายปฏิเสธหรือหยุดการให้บริการ (DDoS) โดยทำให้เว็บไซต์มีปริมาณการใช้ข้อมูลปลอมจำนวนมากเพื่อทำให้เว็บไซต์เข้าถึงไม่ได้ การโจมตีแบบ DDoS นั้นค่อนข้างง่ายต่อการดำเนินการ ไม่มีความซับซ้อน และเป็นการก่อกวนที่พบเห็นได้บ่อย   เจ้าหน้าที่ยูเครนบอกว่า การโจมตีแบบ DDoS เป็นเรื่องยากที่จะติดตามหาแหล่งที่มาหรือตัวคนทำ เนื่องจากแฮกเกอร์สามารถปลอมแปลงตำแหน่งของตนเพื่อให้ดูเหมือนว่าอยู่ในประเทศใดก็ได้  …