องค์กรการบินสหรัฐฯ ชี้ว่าที่ระบบการบินล่ม เพราะเจ้าหน้าที่ ‘ลบไฟล์ระบบโดยไม่ได้ตั้งใจ’

Loading

  สำนักงานการบินกลางของสหรัฐอเมริกา (FAA) ระบุว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเจ้าหน้าที่สัญญาจ้างได้ลบไฟล์บางส่วนในระบบโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้อง ส่งผลให้กว่า 11,000 เที่ยวบินทั่วประเทศมีปัญหาเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา   FAA ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากการที่บุคลากรรายดังกล่าวลบไฟล์ระหว่างพยายามแก้ไข ‘การซิงโครไนซ์ฐานข้อมูลหลักกับฐานข้อมูลสำรอง’ โดยไม่พบหลักฐานการโจมตีทางไซเบอร์หรือความพยายามก่ออาชญากรรม   เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ทาง FAA เผยว่าความขัดข้องของระบบการสื่อสาร Notice to Air Missions (NOTAM) เกิดจากความผิดพลาดที่เกี่ยวกับไฟล์ข้อมูลที่มีปัญหา โดยระบบ NOTAM นี้มีหน้าที่ในการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยสำคัญ ๆ ให้กับนักบิน ลูกเรือ และผู้ใช้อื่น ๆ ที่อยู่ในห้วงอากาศของสหรัฐฯ   ทั้งนี้ FAA ระบุว่าได้ซ่อมแซมระบบในส่วนที่สำคัญแล้ว และยังทำให้ระบบการส่งข้อความมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นอีก   ก่อนหน้านี้ สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ได้ออกมาบอกว่าความขัดข้องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และ FAA ต้องออกมาอธิบายว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นซ้ำอีก     ที่มา Reuters    …

FAA ระบบล่ม ทำเที่ยวบินสหรัฐป่วนนับหมื่นไฟล์ท

Loading

  ภาคการบินของสหรัฐฯ กำลังพยายามที่จะกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ Federal Aviation Administration (FAA) ได้สั่งหยุดการบินของสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 90 นาทีในวันพุธ   เที่ยวบินมากกว่า 8,775 เที่ยวบินล่าช้าจนถึงขณะนี้และมากกว่า 1,270 เที่ยวบินถูกยกเลิก ตามข้อมูลของ FlightAware ถือเป็นการสั่งระงับของเที่ยวบินระดับชาติครั้งแรกในรอบสองทศวรรษของสหรัฐอเมริกา     เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจำนวนมากเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับการก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001   จำนวนเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดสูงถึง 10,000 เที่ยวบินและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เจ้าหน้าที่สายการบินแสดงความเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานปกติจะกลับมาภายในวันพฤหัสบดี   สายการบินหลัก ๆ เช่น บริษัท เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ , ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ , เดลต้า แอร์ไลน์ ( และ อเมริกัน แอร์ไลน์ ทั้งหมดรายงานว่าเที่ยวบินในวันพุธ 40% หรือมากกว่าล่าช้าหรือยกเลิก     สาเหตุของปัญหาครั้งนี้เกี่ยวกับระบบส่งข้อความแจ้งเตือนนักบินขัดข้อง แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่าจนถึงขณะนี้พวกเขายังไม่พบหลักฐานของการโจมตีทางไซเบอร์…

LockBit อ้างความรับผิดชอบโจมตีไซเบอร์ต่อท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป

Loading

  ท่าเรือลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งท่าเรือทางทะเลที่คับคั่งมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ จนระบบดิจิทัลหลายตัวล่ม แต่ไม่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานภายในท่าเรือแต่อย่างใด   สำนักงานท่าเรือลิสบอน (APL) ออกมาเผยว่าได้นำมาตรการตอบโต้ที่เตรียมไว้มาใช้บังคับแล้ว โดยศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติและตำรวจศาลได้เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด   ทั้งนี้ ด้านกลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ LockBit ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้เพิ่มชุดข้อมูลที่อ้างว่าขโมยมาจาก APL เข้าไปยังเว็บไซต์ของทางกลุ่ม   ชุดข้อมูลนี้มีทั้งรายงานการเงิน ข้อมูลการตรวจสอบ งบประมาณ สัญญาจ้าง ข้อมูลสินค้า ข้อมูลเรือ รายละเอียดลูกเรือ ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เอกสารท่าเรือ รายละเอียดเนื้อหาอีเมล และอีกมากมาย   LockBit ออกมาตั้งค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 1.5 ล้านเหรียญ (ราว 51.9 ล้านบาท) พร้อมขู่ว่าหากไม่ได้รับเงินค่าไถ่ภายในวันที่ 18 มกราคม ทางกลุ่มจะปล่อยข้อมูลบนโลกออนไลน์ แต่มีตัวเลือกให้ชะลอวันปล่อยข้อมูล 1 วัน ด้วยการจ่ายเงินครั้งละ 1,000 เหรียญ (ราว 34,439 บาท)   ท่าเรือลิสบอนไม่ได้มีความสำคัญต่อโปรตุเกสเท่านั้น…

โครงข่ายรัฐบาลวานูอาตูที่ล่มนานกว่า 1 เดือนเต็ม หลังจากถูกโจมตีทางไซเบอร์ ค่อย ๆ ฟื้นตัวแล้ว

Loading

  เว็บไซต์ Techspot เผยว่าระบบโครงข่ายของรัฐบาลวานูอาตู ประเทศเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ล่มมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน หลังจากถูกโจมตีทางไซเบอร์   การโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลต้องกลับไปใช้ระบบเอกสารแบบกระดาษ จนถึงขณะนี้มีเพียงร้อยละ 70 ของระบบที่กลับมาใช้งานได้แล้ว   ย้อนกลับไปขณะเกิดเหตุ รัฐบาลวานูอาตูที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อ 13 ตุลาคม เริ่มสังเกตเห็นปัญหาทันทีตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 6 พฤศจิกายน เหตุการณ์ในตอนนั้นทำให้ระบบโครงข่ายของรัฐบาลล่มไปทั้งหมด   เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถเข้าใช้ระบบอีเมลของรัฐบาล ประชาชนไม่สามารถทำเรื่องต่อใบขับขี่หรือจ่ายภาษีได้ เช่นเดียวกับระบบให้บริการข้อมูลสาธารณสุขและการแพทย์ฉุกเฉินก็ไม่สามารถใช้งานได้เช่นกัน   ออสเตรเลียได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยกู้และซ่อมแซมระบบ โดยสำนักข่าว Sydney Morning Herald เชื่อว่ากรณีที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ แต่รัฐบาลวานูอาตูยังไม่เคยออกมาเผยรายละเอียดในเรื่องนี้     ที่มา TechSpot       ——————————————————————————————————————————————————————— ที่มา :                         …

แฮ็กเกอร์รัสเซียอ้างตัวว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีไซเบอร์ต่อรัฐบาลญี่ปุ่น

Loading

  กองบัญชาการตำรวจนครบาลกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นกำลังวางแผนสืบสวนการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นต่อเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลญี่ปุ่นและองค์กรต่าง ๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวรัสเซีย   การโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้เว็บไซต์และการให้บริการประชาชนบนโลกออนไลน์ของหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งใช้งานไม่ได้ชั่วคราว อาทิ ระบบการตรวจสอบภาษี และฐานข้อมูลประชาชน   ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Killnet ที่สนับสนุนรัฐบาลรัสเซียได้โพสต์ข้อความบน Telegram ซึ่งอ้างว่าได้โจมตีระบบการให้บริการสาธารณะของญี่ปุ่น ตั้งแต่ระบบภาษีออนไลน์ ไปจนถึงเครือข่ายไอทีของระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยมุ่งหวังให้เครือข่ายดังกล่าวใช้งานไม่ได้   ในการโจมตีแต่ละครั้งยังมีข้อความต่อต้าน ‘ลัทธิทหารนิยม’ ของญี่ปุ่น บางข้อความก็เป็นการหยามแนวคิดชาตินิยมญี่ปุ่นด้วย   ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเคยสันนิษฐานว่า Killnet อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ต่อประเทศที่สนับสนุนยูเครนในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย   ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นกำลังพิสูจน์ทราบว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นต่อระบบไอทีของรัฐบาลนั้นได้กระทบต่อการให้บริการทางสารสนเทศขององค์กรต่าง ๆ ทั้งของรัฐและเอกชนหรือไม่ โดยจะร่วมมือกับตำรวจของโตเกียวต่อไป     ที่มา The Japan Times       ——————————————————————————————————————————- ที่มา :    แบไต๋             …