ESET เผยปฏิบัติการมัลแวร์เรียกค่าไถ่โจมตียูเครน ที่เชื่อว่าเป็นฝีมือหน่วยข่าวกรองรัสเซีย

Loading

  ESET บริษัทด้านไซเบอร์จากสโลวาเกียเผยรายละเอียดของปฏิบัติการแพร่มัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่ทางบริษัทเรียกว่า RansomBoggs ที่มุ่งโจมตีองค์กรหลายแห่งของยูเครน โดยตรวจพบครั้งแรกเมื่อ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา   ทางบริษัทชี้ว่ารูปแบบของมัลแวร์ที่ RansomBoggs ใช้มีความคล้ายคลึงกับปฏิบัติการของกลุ่มแฮกเกอร์ใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ตระกูล Sandworm จากรัสเซีย   ศูนย์เผชิญเหตุฉุกเฉินทางคอมพิวเตอร์ยูเครน (CERT-UA) องค์กรหลักที่ทำหน้าที่เผชิญการโจมตีทางไซเบอร์ของประเทศ ชี้ว่า RansomBoggs ใช้สคริปต์ PowerShell (โปรแกรมจัดการระบบ) ที่เรียกว่า POWERGAP ในการปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ และมัลแวร์ลบข้อมูล (data wiper) ตระกูล CaddyWiper   สำหรับ Sandworm เป็นที่เชื่อกันว่าเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงและอยู่ในสังกัดหน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย (GRU) โดยเน้นโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของหลายประเทศในช่วงที่ผ่านมา   Sandworm ยังถูกนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ NotPetya ในปี 2017 ที่เป็นการมุ่งเป้าโจมตีโรงพยาบาลและสถาบันทางการแพทย์ทั่วโลก โดยเฉพาะยูเครน รวมถึงเหตุโจมตีระบบผลิตไฟฟ้าของยูเครนในช่วงปี 2015 – 2016 ด้วย     ที่มา thehackernews  …

กองทัพแฮ็กเกอร์อาสาอ้างว่าได้แฮ็กระบบของธนาคารกลางรัสเซีย เพื่อสนับสนุนการรบของยูเครน

Loading

  IT Army of Ukraine กลุ่มอาสาสมัครแฮ็กเกอร์เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของยูเครนอ้างว่าได้ขโมย 27,000 ไฟล์จากธนาคารกลางของรัสเซีย ขนาดรวมกัน 2.6 กิกะไบต์ และนำไปปล่อยในเว็บไซต์ Anonfile   มิไคโล เฟโดรอฟ (Mykhailo Fedorov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลของยูเครนชี้ว่าข้อมูลที่ IT Army of Ukraine ได้มานั้นมีทั้งข้อมูลบุคลากร ระบบธนาคารอัตโนมัติ การสื่อสารภายในองค์กร ระบบ KPI และข้อมูลอื่น ๆ ที่สำคัญต่อการบริหารธนาคาร   ในจำนวนนี้ยังมีข้อมูลการทำธุรกรรมของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย และข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรในกองทัพรัสเซียด้วย   ทางด้านสำนักข่าว TASS ของรัฐบาลรัสเซียได้ออกข่าวปฏิเสธการแฮกในครั้งนี้ พร้อมระบุด้วยว่าเอกสารที่ยูเครนอ้างว่าแฮ็กไปได้นั้น เป็นสิ่งที่หาได้ทั่วไปบนโลกออนไลน์     ที่มา GovInfoSecurity         ——————————————————————————————————————————- ที่มา :         …

นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟเตือนพลเมืองเตรียมอพยพ หากไฟฟ้าดับทั้งระบบ

Loading

  นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟเตือนพลเมืองเตรียมอพยพออกนอกพื้นที่ หากไฟฟ้าดับทั้งระบบ หลังตลอดหลายสัปดาห์ที่รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในเมืองอย่างหนักหน่วง   นาย วิตาลี คลิทช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังทุกวิถีทางเพื่อให้ประชาชนยังคงมีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ พร้อมทั้งยืนยันว่าได้เตรียมแผนรับมือสถานการณ์ต่างๆไว้แล้ว รวมทั้งจุดพักพิงฉุกเฉิก 1,000 จุด ที่ติดตั้งเครื่องทำความร้อน เพื่อให้ประชาชนพักอาศัย หากเกิดกรณีฉุกเฉิน   ขณะเดียวกัน คลิตชโก แนะนำประชาชนในกรุงเคียฟที่มีอยู่ราว 3 ล้านคน เตรียมความพร้อมย้ายไปอยู่กับเพื่อน หรือ ญาติ ในย่านชานเมืองที่ระบบไฟฟ้าและน้ำประปายังคงใช้การได้     โดย คลิตชโก ยังเตือนประชาชนเร่งสำรองของใช้จำเป็นโดยเฉพาะเชื้อเพลิง อาหาร และ น้ำ   คำเตือนของ คลิทช์โก เกิดขึ้นหลัง ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศที่มีเป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและไฟฟ้าในกรุงเคียฟ ทำให้ระบบผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ประมาณ 40% ถูกทำลาย หรือได้รับความเสียหาย และ ทางการต้องใช้วิธีดับไฟในบางช่วงเวลา เพื่อไม่ให้ระบบที่เหลืออยู่ทำงานหนักจนเกินไป     ขณะที่สื่อมวลชนหลายสำนักของรัสเซีย รายงานโดยอ้างคำพูดของหน่วยฉุกเฉินเมื่อวานนี้ ว่า…

ไฟย้อนศรยุโรป! พบอาวุธที่ตะวันตกมอบให้ยูเครนสู้รัสเซีย หลุดถึงมืออาชญากรในหลายชาติ

Loading

  พวกอาชญากรในฟินแลนด์ ครอบครองอาวุธบางส่วนที่ตะวันตกมอบให้แก่ยูเครน ท่ามกลางความขัดแย้งกับรัสเซีย จากการเปิดเผยของสำนักงานสืบสวนสอบสวนแห่งชาติฟินแลนด์ (เอ็นบีไอ) เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังพบปัญหาเดียวกันในหลายชาติสมาชิกอียูอีกด้วย   “เราพบเห็นสัญญาณต่าง ๆ ว่าอาวุธเหล่านี้พบช่องทางเข้ามายังฟินแลนด์แล้ว” คริสเตอร์ อาห์ลเกรน หัวหน้าฝ่ายสืบสวนกลุ่มงานอาชญากรรมสำนักงานตำรวจแห่งฟินแลนด์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นเมื่อวันอาทิตย์ (30 ต.ค.)   อาห์ลเกรน เผยว่า ปืนไรเฟิลจู่โจมเป็นหนึ่งในอาวุธเหล่านั้น แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาวุธที่ลักลอบเข้ามาในฟินแลนด์ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสืบสวน โดยเขากล่าวเพียงว่า ทางการเชื่อว่าการลักลอบขนอาวุธเถื่อนนี้มีแก๊งจักรยานยนต์อยู่เบื้องหลัง   หัวหน้าฝ่ายสืบสวนรายนี้เผยต่อว่า พวกอาชญากรได้ลงมือจัดทำเส้นทางการลักลอบลำเลียงอาวุธจากยูเครนมายังฟินแลนด์ “มีแก๊งจักรยานยนต์ใหญ่ที่สุดของโลก 3 แก๊ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรข้ามชาติที่มีขนาดใหญ่กว่า เคลื่อนไหวในฟินแลนด์ หนึ่งในนั้นคือแก๊ง Bandidos MC ซึ่งจะมีกลุ่มอยู่ในทุก ๆ เมืองใหญ่ของยูเครน”   “องค์กรอาชญากรรมเหล่านี้มีเครือข่ายของพวกเขาตามท่าเรือพาณิชย์ของฟินแลนด์” อาห์ลเกรน ระบุ พร้อมบอกว่าการตรวจตราด้านความมั่นคงที่บังคับใช้กับพนักงานของสนามบิน ไม่ได้ครอบคลุมถึงพวกคนงานตามท่าเรือต่าง ๆ   ฟินแลนด์ไม่ได้เป็นชาติสมาชิกอียูเพียงประเทศเดียวที่เจอปัญหาลักษณะดังกล่าว ในขณะที่อาวุธที่ขนส่งไปยังยูเครน ถูกพบในสวีเดน เดนมาร์ก และฟินแลนด์เช่นกัน “ยูเครนได้รับอาวุธปริมาณมหาศาล นั่นเป็นเรื่องดี…

รัสเซีย-ยูเครน : รู้จัก Dirty Bomb

Loading

GETTY IMAGES   กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมากล่าวหาว่ายูเครนอาจใช้ “dirty bomb” หรือระเบิดกัมมันตรังสี ในการทำสงครามกับรัสเซีย แต่รัสเซียไม่ได้นำเสนอหลักฐานใด ๆ มายืนยันตามที่กล่าวอ้าง ขณะที่ยูเครน ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ต่างปฏิเสธว่าไม่จริง และประธานาธิบดีวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ยังกล่าวหารัสเซียกลับว่าเป็นต้นตอของความสกปรกทั้งหลายทั้งปวงที่จะจินตนาการได้ในสงครามครั้งนี้   ว่าแต่ว่า dirty bomb คืออะไร จะใช่ระเบิดสกปรกรึเปล่า เรามาทำความเข้าใจกัน   เราคงไม่อาจแปลความหมายของคำว่า dirty bomb ตามตัวอักษรภาษาอังกฤษว่าเป็นระเบิดสกปรก และถ้าดูคำแปลตามที่สมาคมนิวเคลียร์แห่งประเทศไทยใช้เรียก dirty bomb ก็คือคำว่าระเบิดกัมมันตรังสี โดยสมาคมนิวเคลียร์แห่งประเทศไทยบอกว่าระเบิดกัมมันตรังสีนี้ ในทางเทคนิคไม่ใช่อาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้าง แต่ความเสี่ยงของผู้ที่อยู่ในระยะใกล้จะมาจากวัตถุระเบิดอื่นที่ใช้มากกว่าจะเป็นการแพร่กระจายของวัสดุกัมมันตรังสี   ยังไงก็ตาม dirty bomb นั้นมีวัสดุกัมมันตรังสี เช่น ยูเรเนียม รวมอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อเกิดระเบิดวัสดุกัมมันตรังสีเหล่านั้นก็จะถูกปลดปล่อยออกมาในอากาศ และจริง ๆ แล้ววัสดุกัมมันตรังสีที่อยู่ใน dirty bomb ก็ไม่ใช่วัสดุอย่างที่ใช้ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่แค่วัสดุกัมมันตรังสีที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างที่ใช้ในโรงพยาบาล โรงไฟฟ้า…

‘เซเลนสกี’ โวยรัสเซียจ้อง ‘ระเบิดเขื่อน’ เสี่ยงทำภาคใต้ยูเครนน้ำท่วมใหญ่ จี้ตะวันตกลงโทษเทียบเท่าใช้ ‘นิวเคลียร์-อาวุธเคมี’

Loading

  ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเรียกร้องให้ชาติตะวันตกช่วยยับยั้งรัสเซียไม่ให้ระเบิดทำลายเขื่อนแห่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ภาคใต้ยูเครนต้องเผชิญ “น้ำท่วม” ครั้งใหญ่ ขณะที่กองกำลังเคียฟเตรียมรุกคืบขับไล่ทหารรัสเซียออกจากภูมิภาคเคียร์ซอน (Kherson)   เซเลนสกี แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์วานนี้ (20 ต.ค.) ว่า กองทัพรัสเซียได้วางทุ่นระเบิดเอาไว้ภายในเขื่อนโนวาคาคอฟกา (Nova Kakhovka ) ซึ่งกั้นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และมีแผนที่จะระเบิดทำลายมันทิ้ง   “ตอนนี้ทุกคนทั่วโลกต้องร่วมมืออย่างแข็งขันเพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียก่อการร้ายครั้งใหม่ เพราะการทำลายเขื่อนแห่งนี้ย่อมหมายถึงหายนะในวงกว้าง” ผู้นำยูเครนกล่าว   รัสเซียเคยออกมากล่าวหายูเครนว่ายิงจรวดโจมตี และวางแผนที่จะทำลายเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแห่งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยูเครนชี้ว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามอสโกกำลังคิดที่จะระเบิดเขื่อน และโยนความผิดให้เคียฟ   แม่น้ำดนีโปร (Dnipro) ซึ่งแบ่งยูเครนออกเป็น 2 ส่วนมีความกว้างหลายกิโลเมตร ในบางจุด และการระเบิดทำลายเขื่อนโนวาคาคอฟกาจะส่งผลให้มีมวลน้ำมหาศาลไหลหลากเข้าท่วมชุมชนที่อยู่เบื้องล่าง รวมถึงเมืองเคียร์ซอนซึ่งกองกำลังยูเครนตั้งเป้าว่าจะต้องยึดคืนจากรัสเซียให้ได้ นอกจากนี้ ยังจะส่งผลกระทบต่อระบบคลองชลประทานที่หล่อเลี้ยงพื้นที่ภาคใต้ของยูเครน ตลอดจน “คาบสมุทรไครเมีย” ซึ่งรัสเซียใช้กำลังผนวกไปเมื่อปี 2014   เซเลนสกี เรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกประกาศชัดเจนว่า การระเบิดทำลายเขื่อนมีค่าเท่ากับ “การใช้อาวุธทำลายล้างสูง” และจะต้องได้รับบทลงโทษเช่นเดียวกับในกรณีที่รัสเซียใช้ “ระเบิดนิวเคลียร์” หรือ “อาวุธเคมี”…