เม็กซิโกตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับเอกวาดอร์หลังตำรวจบุกสถานทูตในกีโต

Loading

เม็กซิโกระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเอกวาดอร์ หลังจากตำรวจเอกวาดอร์บุกเข้าไปในสถานทูตเม็กซิโกในเมืองกีโต และจับกุมนายจอร์จ กลาส อดีตรองประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ซึ่งลี้ภัยอยู่ในสถานทูตเม็กซิโกตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว

ปากีสถานเอาคืน บอกถล่ม‘ผู้ก่อการร้าย’ในอิหร่าน เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ด้านอเมริกาเปิดฉากโจมตีที่มั่นฮูตีในเยเมนอีกระลอก

Loading

ภาพถ่ายจากคลิปเผยแพร่ทางสื่อสังคม แสดงให้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลังการโจมตีของปากีสถานใส่หมู่บ้านในอิหร่านแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เมืองซาราวัน จังหวัดซิสถานและบาลูจิสถาน ของอิหร่าน เมื่อวันพฤหัสฯ (18 ม.ค.)

ยามฝั่งปินส์โวยถูกเรือรบจีนคุกคาม ฉายแสงเลเซอร์ทางทหารใส่จนหน้ามืด

Loading

    ยามฝั่งปินส์โวยถูกเรือรบจีนคุกคาม – วันที่ 13 ก.พ. เอพีรายงานว่า ทางการฟิลิปปินส์เปิดเผยว่าเรือยามฝั่งถูกเรือรบของจีนฉายแสงเลเซอร์ทางทหารใส่เพื่อคุกคามในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของฟิลิปปินส์อย่างชัดเจน   แถลงการณ์ของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ ระบุว่า เรือรบลำดังกล่าวของจีนยังแล่นเข้ามาใกล้ในระดับอันตราย โดยห่างจากเรือลาดตระเวนของยามฝั่งฟิลิปปินส์ไปเพียง 137 เมตร เพื่อขัดขวางไม่ให้เรือยามฝั่งปฏิบัติหน้าที่ต่อ     เหตุข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อ 6 ก.พ. บริเวณแนวสันดอนโทมัสที่ 2 เป็นแนวปะการังใต้น้ำที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพฟิลิปปินส์ โดยพฤติกรรมรุกล้ำของจีนนั้นทางการฟิลิปปินส์เคยยื่นจดหมายประท้วงไปแล้วเกือบ 200 ครั้ง เฉพาะเมื่อปี 2565   รายงานระบุว่า ทางการจีนอ้างว่าทะเลจีนใต้ทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของจีนส่งผลให้เกิดข้อพิพาทกับชาติใกล้เคียงหลายชาติ แม้ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มากอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์จะมีจุดยืนส่งเสริมความสัมพันธ์กับจีน แต่ก็ยังรักษาสมดุลสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาไว้   พลเรือจัตวาอาร์มันด์ บาลิโล โฆษกยามฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เรือของฝ่ายจีนเคยพยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเรือยามฝั่งฟิลิปปินส์มาตลอดหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เรือจีนใช้แสงเลเซอร์ทางทหารฉายเข้าใส่ทำให้เจ้าหน้าที่ยามฝั่งได้รับผลกระทบทางร่างกาย       “เรือจีนฉายแสงเลเซอร์สีเขียวเข้าใส่เรือ บีอาร์พี มาลาปาสกัว เป็นจำนวน 2 ครั้ง…

ละเมิดอธิปไตย?

Loading

    ถ้าคนไทยไปประท้วงหน้าสถานทูต เรียกร้องให้ยุติการทำสงครามกับยูเครน หรือเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครน เราเห็นเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ยังเป็นการประท้วงโดยสันติและไม่ทำผิดกฎหมาย   ถ้าคนไทยประท้วงหน้าสถานทูตอเมริกัน เรียกร้องให้ถอนทหารออกจากซีเรีย อิรัก อัฟกานิสถาน เราก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ผู้ประท้วงไม่ใช้ความรุนแรง   ถ้าเราเห็นคนไทยประท้วงสถานทูตจีนไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับนักศึกษาฮ่องกง ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ผู้ประท้วงไม่ใช้ความรุนแรง   หรือจะมีกลุ่มสิทธิมนุษยชนในไทยไปประท้วงหน้าสถานทูตพม่า ต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าในการปราบปรามผู้ประท้วง เราก็เห็นเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ผู้ประท้วงไม่ใช้ความรุนแรง   แต่เราเริ่มรู้สึกแปลก ๆ เมื่อเห็นคนไทยกลุ่มหนึ่งไปหน้าสถานทูตเยอรมนี อังกฤษ สถานทูตฝรั่งในไทย หรือองค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติหรือสถานทูตเหล่านี้กดดันประเทศไทยในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง   สถานทูตหรือองค์การระหว่างประเทศจะส่งเจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือของผู้ประท้วง จากนั้นผู้ประท้วงก็เดินทางกลับ โดยทั่วไปสถานทูตต่างประเทศในไทยจะส่งเจ้าหน้าที่ระดับกลางมารับหนังสือ และปฏิบัติเท่าเทียมกันกับทุกกลุ่มที่มายื่นหนังสือ   โดยทั่วไป สถานทูตมักจะส่งเลขานุการตรี หรือผู้ช่วยเลขานุการมารับหนังสือจากผู้ประท้วงคนไทยทั่วไป แต่ระยะหลังพบว่า มีบางสถานทูตที่พอผู้ประท้วงเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลไทยมายื่นหนังสือ สถานทูตนั้นกลับส่งเลขานุการเอก หรือที่ปรึกษา ลงมารับหนังสือ ซึ่งสื่อความหมายว่า สถานทูตนั้นสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาล แบบนี้ถือว่าเสียมรรยาท   แต่วันนี้ คนไทยรู้สึกแปลก ๆ เมื่อเห็นนักการทูตต่างประเทศกว่า 20 คนจากสถานทูตสหรัฐและสถานทูตสหภาพยุโรปตะวันตก…