“สคส.” เตือนประชาชนระวังข่าวปลอม ตรวจสอบข้อมูลก่อนโพสต์-แชร์ทุกครั้ง

Loading

สคส.เผย จากกรณีการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในประเทศเมียนมา และส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ส่งผลให้โลกออนไลน์มีการแชร์ข่าวปลอมเป็นจำนวนมาก และเหล่ามิจฉาชีพอาศัยสถานการณ์ดังกล่าวส่งลิงก์ผ่าน SMS และโพสต์ลิงก์ข่าวปลอม โดยหากประชาชนไม่ระมัดระวังและกดลิงก์ดังกล่าว อาจนำมาสู่ความไม่ปลอดภัยทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนตัว

ช็อก!”สปสช.-สวทช.”รับโดนจารกรรมข้อมูล1.3 แสนราย

Loading

สปสช. และ สวทช. แจงเหตุการณ์ข้อมูลที่โดนจารกรรม 1.3 แสนรายไม่ได้หลุดจากระบบ A-MED Care Plus แต่เป็นขั้นตอนคัดลอกข้อมูลเพื่อทำฐานข้อมูลชั่วคราวเพื่อทำรายงาน ซึ่งเป็นระบบเดี่ยวไม่ได้เชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ เป็นข้อมูลเฉพาะบริการในคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่นเท่านั้น ไม่กระทบต่อระบบ A-MED Care Plus และระบบที่มาเชื่อมโยง รวมถึงระบบการเบิกจ่ายกับ สปสช. พร้อมย้ายข้อมูลสู่คลาวด์ภาครัฐ (GDCC) แทน แจ้ง สคส. ติดตามหาผู้กระทำผิดและจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด พร้อมเตือนประชาชนระมัดระวังอย่าหลงเชื่อ SMS หลอกให้กดลิงก์

สคส.ผนึกกำลัง ตร. บูรณาการ3มาตรการเข้ม ปิดช่องโหว่ข้อมูลส่วนบุคคล

Loading

พ.ต.อ.สุรพงศ์ กล่าวว่า การยกระดับบูรณาการในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนอย่างจริงจัง เราให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อขจัดปัญหาการซื้อขายข้อมูลโดยมิชอบที่เป็นต้นเหตุของอาชญากรรมไซเบอร์ นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นสร้างมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลภายในองค์กรตำรวจ และขยายองค์ความรู้สู่ประชาชน เพื่อให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันและตระหนักถึงสิทธิของตนเอง

สคส. เดินหน้าสร้างความเข้าใจ PDPA แก่สื่อมวลชน มุ่งเน้นแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องและจริยธรรมในการใช้ข้อมูล

Loading

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC โดย นางสาว วีรินทร์ อรวัฒนพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ได้เดินสายพบปะสื่อมวลชน พร้อมมอบหนังสือ “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” และ “สาระน่ารู้เกี่ยวกับ PDPA” เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับสื่อมวลชนในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

PDPC ตรวจสอบเชิงรุก 2 เดือน สกัดการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 5,000 เคส

Loading

14 ม.ค. – PDPC เดินหน้าตรวจสอบเชิงรุกต่อเนื่อง ในรอบ 2 เดือน สกัดการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 5,000 เคส และร่วมตรวจสอบเพื่อขยายผลสู่การจับกุมผู้ต้องหาซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว 5 ราย โดยมีโทษหนักถึงจำคุก