FBI ส่งทีมช่วยเอกวาดอร์หาตัวผู้อยู่เบื้องหลังลอบสังหารแคนดิเดตประธานาธิบดี

Loading

  เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ของสหรัฐได้เข้าร่วมประชุมกับตำรวจและอัยการของเอกวาดอร์เมื่อวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมสืบสวนหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนายเฟอร์นานโด วิลลาวิเซนซิโอ ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเอกวาดอร์   ข่าวการลอบสังหารนายวิลลาวิเซนซิโอ วัย 59 ปีในวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 ส.ค.นั้น ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วประเทศ โดยเอกวาดอร์ซึ่งมีประชาชน 18 ล้านคนได้รับผลกระทบจากแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และนายวิลลาวิเซนซิโอก็ถูกขู่หลายครั้ง แต่เขาประกาศว่าไม่เกรงกลัวแก๊งอาชญากรรมเหล่านี้   ทั้งนี้ นายฮวน ซาปาตา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของเอกวาดอร์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ FBI ได้ประชุมร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจเอกวาดอร์และคณะอัยการ เพื่อสืบสวนไปให้ถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอกวาดอร์ได้จับกุมตัวชาวโคลอมเบียจำนวน 6 รายและตั้งข้อหาอาชญากรรม ขณะที่ผู้ต้องสงสัยอีกรายหนึ่งได้เสียชีวิตหลังจากถูกยิงบาดเจ็บสาหัสภายหลังจากเกิดเหตุลอบยิงนายวิลลาวิเซนซิโอ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าชาวโคลอมเบียเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรม   นายพลมานูเอล อินีกูส ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเอกวาดอร์เปิดเผยว่า นายวิลลาวิเซนซิโอถูกยิงหลายครั้งในขณะที่เขากำลังเดินทางออกจากพื้นที่หาเสียงที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองกีโต นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย   ทั้งนี้ นายวิลลาวิเซนซิโอเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกสมัชชาแห่งชาติเอกวาดอร์ก่อนที่สมัชชาแห่งนี้จะถูกปิดตัวลงในเดือนพ.ค. และเขาเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งรอบแรกวันที่ 20 ส.ค.นี้ เพื่อรับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีกิเยร์โม ลาสโซ ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นที่เพิ่งเผยแพร่สู่สาธารณชนก่อนเกิดเหตุลอบสังหารไม่นานนั้นได้แสดงให้เห็นว่า นายวิลลาวิเซนซิโอมีคะแนนนิยมอยู่ในอันดับ…

ไบเดนลงนามคำสั่งห้ามการลงทุนด้านเทคโนโลยีบางอย่างในจีน

Loading

  ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ลงนามในคำสั่งที่จะห้ามการลงทุนบางอย่างของสหรัฐฯ ในเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนในจีน และกำหนดให้รัฐบาลแจ้งการระดมทุนในภาคส่วนเทคโนโลยีอื่น ๆ   คำสั่งที่รอคอยมานานอนุญาตให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ห้ามหรือจำกัดการลงทุนบางอย่างของสหรัฐฯ ในหน่วยงานของจีนใน 3 ภาคส่วน ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศควอนตัม และระบบปัญญาประดิษฐ์บางระบบ   ไบเดน กล่าวในจดหมายถึงสภาคองเกรสว่าเขากำลังประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อจัดการกับภัยคุกคามจากความก้าวหน้าของประเทศต่าง ๆ เช่น จีน “ในด้านเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนและผลิตภัณฑ์ที่สำคัญต่อการทหาร หน่วยข่าวกรอง การเฝ้าระวัง หรือความสามารถทางไซเบอร์”   ข้อเสนอกำหนดเป้าหมายการลงทุนในบริษัทจีนที่พัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อออกแบบชิปและเครื่องมือเพื่อผลิต ซึ่งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ครองพื้นที่เหล่านั้น และรัฐบาลจีนกำลังเร่งทำงานเพื่อสร้างทางเลือกที่พัฒนาขึ้นเอง   ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจุดชนวนความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าข้อห้ามดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศที่ “รุนแรงที่สุด” และไม่แบ่งแยกเศรษฐกิจที่พึ่งพาซึ่งกันและกันสูงของทั้งสองประเทศ   ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภายกย่องคำสั่งของไบเดน โดยกล่าวว่า “เป็นเวลานานเกินไปแล้ว ที่เงินของอเมริกาได้ช่วยกระตุ้นการเติบโตของกองทัพจีน ทุกวันนี้ สหรัฐฯ กำลังดำเนินขั้นตอนแรกเชิงกลยุทธ์เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนของอเมริกาไม่ได้ให้ทุนแก่ความก้าวหน้าทางทหารของจีน” เขากล่าวว่าสภาคองเกรสต้องรักษาข้อจำกัดในกฎหมายและปรับปรุงขึ้นเรื่อยๆ   แต่นักการเมืองพรรครีพับลิกันกล่าวว่าคำสั่งของ…

หนักกว่าที่คิด!! FBI ผงะพบมือปล่อยข่าวกรองลับเพนตากอน “แชร์ข้อมูล” กับคนอาศัยในต่างประเทศ

Loading

  เอเจนซีส์/เอพี – FBI สอบปากคำพบทหารเนชันแนลการ์ดรัฐแมสซาชูเซตส์ วัย 21 ปี จ่าอากาศเอกแจ็ค ทาเซียรา (Jack Teixeira) ยอมรับว่าได้แชร์ความลับทางการทหารสหรัฐฯ ให้ไม่ต่ำกว่า 1 คนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศผ่านกลุ่มแชตแพลตฟอร์ม Discord ท่ามกลางวิตกว่า ความลับสุดยอดทางการทหารจะรั่วไปถึงคนต่างชาติที่อาจเป็นอริกับอเมริการะหว่างสงครามยูเครนกำลังระอุ เกิดขึ้นหลังเมื่อต้นปีอัยการสหรัฐฯ พบ ทาเซียราเคยพูดว่าต้องการสังหารหมู่หากมีหนทาง   CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า คำฟ้องที่ยื่นต่อศาลเมื่อไม่นานมานี้พบว่า จ่าอากาศเอกแจ็ค ทาเซียรา (Jack Teixeira) วัย 21 ปี มือปล่อยข่าวกรองลับสหรัฐฯ จนกลายเป็นข่าวไปทั่วโลกได้รับสารภาพในการสอบสวนของ FBI ว่า เขาได้เปิดเผยความลับให้คนที่อาศัยอยู่ในต่างแดนไม่ต่ำกว่า 1 คนได้รู้ระหว่างการแชตในกลุ่ม   ทั้งนี้ พบว่าไม่ต่ำกว่า 3 เซิร์ฟเวอร์ของแพลตฟอร์มแชต Discord ที่ทาเซียราได้เผยความลับข่าวกรองทางทหารสหรัฐฯ นั้นพบว่า มี 1 เซิร์ฟเวอร์มียูสเซอร์เป็นชาวต่างชาติรวมอยู่ในกลุ่มแชตจำนวน…

ก.ล.ต.สหรัฐฯ สั่งปรับหมื่นล้าน แบงก์-โบรกเกอร์ ใช้แชตส่วนตัวคุยงาน

Loading

  ตำรวจตลาดหุ้น หรือ ก.ล.ต.สหรัฐฯ สั่งปรับ แบงก์-โบรกเกอร์ นับสิบเพราะใช้แชตส่วนตัวคุยงาน รวมค่าปรับทั้งหมดร่วมหมื่นล้าน   สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (ก.ล.ต.สหรัฐฯ) สั่งปรับธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) เป็นเงินราว 10,088 ล้านบาท (289 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โทษฐานละเมิด กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ (Securities Exchange Act of 1934)   ตำรวจตลาดหุ้น (ก.ล.ต.สหรัฐฯ) สืบพบว่า บริษัทในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ 11 แห่ง ใช้แชตส่วนตัวคุยงานกับลูกค้า โดยใช้แอปฯ อย่าง iMessage และ WhatsApp     ใช้แชตส่วนตัวคุยงานมันผิดอะไร ?   ก.ล.ต.สหรัฐฯ ระบุว่า ธนาคารและบริษัทโบรเกอร์ที่ถูกปรับ ละเมิดกฎหมายของตลาดหลักทรัพย์ ที่ว่าด้วยการใช้ระบบติดต่อสื่อสารที่ไม่สามารถตรวจสอบและเก็บประวัติการคุยตามที่กฎหมายกำหนด   โดยผู้ปฎิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ถูกบังคับด้วยกฎหมายที่จะต้องเก็บประวัติการคุยกับลูกค้าไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้ผู้ตรวจสอบสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่า มีการทุจริตในการสื่อสารกับลูกค้าหรือไม่ ? และเป็นหลักฐานในการป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นด้วย  …

สหรัฐฯ ลั่นยังพร้อมแชร์ข่าวกรองให้ ‘ญี่ปุ่น’ หลังมีข่าวถูก ‘แฮ็กเกอร์จีน’ เจาะเครือข่ายไซเบอร์ทางทหาร

Loading

  กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้ (8 ส.ค.) ว่ายังคงเชื่อมั่นและพร้อมที่จะแบ่งปันข่าวกรองให้ญี่ปุ่น หลังสื่อดังในอเมริกาออกมาแฉว่าหน่วยแฮ็กเกอร์ทางทหารของจีนได้ทำการเจาะเครือข่ายข้อมูลด้านกลาโหมที่เปราะบางที่สุดของญี่ปุ่นได้แล้ว   หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เผยแพร่รายงานเมื่อวันจันทร์ (7) โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นทั้งอดีตและปัจจุบันซึ่งระบุว่า แฮ็กเกอร์ของกองทัพจีนได้เจาะเครือข่ายกลาโหมชั้นความลับของญี่ปุ่นเมื่อปี 2020 และสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับแสนยานุภาพทางทหารของกองกำลังญี่ปุ่น ตลอดจนแผนงาน และผลการประเมินข้อบกพร่องต่าง ๆ   ฮิโรคาซุ มัตสึโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าววานนี้ (8 ส.ค.) ว่า ญี่ปุ่นไม่สามารถยืนยันได้มีข้อมูลด้านความมั่นคงใด ๆ รั่วไหลออกไปหรือไม่   อย่างไรก็ตาม วอชิงตันโพสต์อ้างข้อมูลจากอดีตนายทหารสหรัฐฯ คนหนึ่งซึ่งยอมรับว่า ปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้จัดว่า “รุนแรงและเลวร้ายอย่างน่าตกตะลึง” และผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ถึงขั้นต้องบินไปโตเกียวเพื่อหารือกับรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ซึ่งขอให้ทางสหรัฐฯ แจ้งเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นทราบ   วอชิงตันโพสต์ระบุด้วยว่า แม้ญี่ปุ่นจะยกระดับป้องกันความปลอดภัยของเครือข่ายข้อมูลกลาโหม แต่เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามหลายคนเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้ “ยังไม่เพียงพอ” ที่จะสกัดหน่วยจารกรรมจีน และอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการแชร์ข้อมูลข่าวกรองที่มากยิ่งขึ้นระหว่างเพนตากอนกับกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นในอนาคต   ล่าสุด ซาบรีนา ซิงห์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานของวอชิงตันโพสต์ โดยขอให้โตเกียวเป็นฝ่ายชี้แจงเอง แต่ย้ำว่าสหรัฐฯ…

สหรัฐฯ เพิ่มการ รปภ. ให้แก่ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

Loading

นาง Tanya Chutkan ผู้พิพากษา และ นายโดนัลด์ ทรัมป์  ภาพจาก CNN   สหรัฐฯ เพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้แก่ นาง Tanya Chutkan หัวหน้าคณะผู้พิพากษาที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในคดีพยายามล้มผลการเลือกตั้งปี 2563   ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ได้กล่าวว่าจะขอให้ นาง Chutkan ถอนตัวจากคดีนี้ โดยโพสต์ข้อความผ่าน Truth สื่อสังคมออนไลน์ของเขา ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดว่า “ไม่มีทางที่ฉัน (ทรัมป์) จะได้รับการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมกับผู้พิพากษาที่ ‘ถูกมอบหมาย’ ให้มีเสรีภาพทางการพูดที่ไร้สาระ ในคดีการเลือกตั้ง” ด้านอัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ชี้ว่าถ้อยแถลงต่อสาธารณะของทรัมป์ในกรณีนี้ อาจส่งผลเสียต่อพยานหรือต่อกระบวนการยุติธรรม   นาย Drew J. Wade โฆษกตำรวจของศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (U.S. Marshals Service – USMS) หน่วยงานรับผิดชอบการรักษาความปลอดภัย กล่าวว่า “USMS ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าผู้พิพากษาสามารถดำเนินการตัดสินได้อย่างอิสระและปราศจากอันตรายหรือการข่มขู่ใด…