ผลการสืบสวนระบุว่า ไม่พบผู้ต้องสงสัย กรณีพบโคเคนในทำเนียบขาว

Loading

ภาพจาก CNN   หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (The United States Secret Service – USSS) สรุปผลการสอบสวนกรณีพบโคเคนบรรจุถุงขนาดเล็กน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกรัมในตู้เก็บของหมายเลข 50 ซึ่งใกล้กับทางเข้าชั้นล่างบริเวณพื้นที่ปีกตะวันตกในทำเนียบขาว ว่า ไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ   ผู้เยี่ยมชมทำเนียบขาว รวมถึงเจ้าหน้าที่บางส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในพื้นที่ที่มีข้อมูลลับจะต้องฝากโทรศัพท์มือถือไว้ในตู้เก็บของดังกล่าว ซึ่งอยู่ใกล้กับห้องยุทธการ (Situation Room) ที่กำลังปรับปรุงและไม่ได้เปิดใช้งานมาหลายเดือนแล้ว   USSS ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมกับบัญชีรายชื่อผู้เยี่ยมชมทำเนียบขาวหลายร้อยคนที่เข้ามาวันก่อนหน้าการค้นพบ แต่เนื่องจากพื้นที่ที่พบโคเคนอยู่ในจุดบอดของรัศมีกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถเปรียบเทียบหลักฐานกับกลุ่มบุคคลที่ทราบได้ และผลจากห้องปฏิบัติการของ FBI ระบุว่า บรรจุภัณฑ์ไม่สามารถตรวจสอบลายนิ้วมือได้ เพราะมี DNA ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาหรือวันที่โคเคนนั้นถูกวางทิ้งไว้   โฆษก USSS กล่าวว่า เมื่อปี 2565 เจ้าหน้าที่เคยตรวจพบกัญชาจำนวนเล็กน้อยที่ทำเนียบขาวจำนวน 2 ครั้ง แต่ไม่มีการจับกุม เนื่องจากน้ำหนักของกัญชาที่ยึดได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด จึงไม่สามารถตั้งข้อหาหรือดำเนินคดีได้ และกัญชาเหล่านี้ได้ถูกนำไปทำลาย       ————————————————————————————————————————-…

กล้องวงจรปิดจับภาพชายจรจัดมุดลงใต้ทางเท้า อาศัยช่องใต้ดินเป็นบ้าน

Loading

  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในลอสแอนเจลิส พบภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะชายคนหนึ่งเปิดฝาปิดที่ทางเท้าหน้าอาคารแล้วมุดลงไป หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่า เขาใช้พื้นที่ว่างข้างใต้เป็นที่พักอาศัย   เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น-อเมริกันแห่งชาติ (JANM) ซึ่งอยู่ในย่าน ‘ลิตเติลโตเกียว’ ของเมืองลอสแอนเจลิส พบเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่ชายจรจัดคนหนึ่งเปิดฝาปิดช่องใต้ดินที่ทางเท้าใกล้กับอาคารพิพิธภัณฑ์ หย่อนข้าวของลงไปและมุดลงไปข้างใต้   เจ้าหน้าที่ รปภ. ของพิพิธภัณฑ์จึงแจ้งเหตุไปยังผู้อำนวยการหน่วยรักษาความปลอดภัย ซึ่งได้รีบรุดเข้ามาตรวจสอบในทันที ขณะที่ ดัก แวน เคิร์ก ประธานบริหารของพิพิธภัณฑ์ JANM กล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลว่าชายจรจัดคนนี้เข้ามาใช้ทางเข้าออกและพื้นที่ใต้ดินดังกล่าวมานานเท่าไหร่แล้ว และเข้า-ออกมาแล้วกี่ครั้ง แต่เป็นไปได้ว่าน่าจะนานพอสมควร     ปกติแล้ว พื้นที่ว่างโล่งใต้ดินบริเวณทางเท้าหรือนอกอาคารมีไว้เพื่อเก็บอุปกรณ์เพื่อซ่อมบำรุงสาธารณูปโภค เป็นที่รวมแผงสวิตช์ใช้งานและวาล์วท่อแก๊สต่าง ๆ รวมถึงระบบเคเบิลสื่อสาร ซึ่งจะต้องมีการปิดล็อกอย่างแน่นหนาและไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าไปได้   แต่เนื่องจากในระยะหลัง ลอสแอนเจลิสและอีกหลายเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐ เริ่มมีจำนวนคนจรจัดมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นไปได้ที่บางคนอาจหาทางเข้าไปใช้งานพื้นที่ว่างเหล่านี้ได้   ตามข้อมูลของการประปาและไฟฟ้าลอสแอนเจลิส ห้องหรือพื้นที่ใต้ดินที่ปิดล็อกในบริเวณนอกอาคารของ JANM ใช้สำหรับเก็บมิเตอร์น้ำ และไม่มีทางทะลุไปยังอาคารพิพิธภัณฑ์ กระนั้น เจ้าหน้าที่ก็ระบุว่าอาจเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ได้ หากชายคนดังกล่าวยังคงพักอาศัยอยู่ในนั้น เนื่องจากตำแหน่งของห้องมิเตอร์น้ำอยู่ใต้อาคารพิพิธภัณฑ์พอดี อีกทั้งยังมีท่อแก๊สพาดผ่าน…

อัยการ ตั้งข้อหาผู้ก่อตั้งสถาบันวิจัยสหรัฐฯ เป็นสายลับจีน ขายอาวุธ-น้ำมันให้อิหร่าน

Loading

  บีบีซี รายงานอ้างพนักงานอัยการของสหรัฐฯ ว่า วานนี้ (10 ก.ค.66) อัยการประจำเขตแมนแฮตตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ได้ฟ้องคดีต่อศาล กล่าวหา นายกัล ลุฟต์ (Gal Luft) บุคคลสองสัญชาติคือสหรัฐฯ และอิสราเอล วัย 57 ปี ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการวิเคราะห์ความมั่นคงทั่วโลก (IAGS)ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในความผิดฐานเป็นสายลับให้กับจีน และพยายามจะเป็นนายหน้าค้าอาวุธและน้ำมันอิหร่านโดยไม่ได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯและพยายามหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรสหรัฐฯ ที่ห้ามซื้อขายน้ำมันจากอิหร่านโดยการกำชับให้คนใกล้ชิดบอกกับลูกค้าว่า เป็นน้ำมันจากบราซิล   คำฟ้องระบุว่า นายลุฟท์ ยินยอมที่จะดำเนินการอย่างลับ ๆ เพื่อจ้างแหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำคนก่อนของสหรัฐฯมาแสดงความเห็นต่อสาธารณะในสหรัฐฯเพื่อสนับสนุนนโยบายบางเรื่องของรัฐบาลจีน นอกจากนี้ นายลุฟท์ ถูกกล่าวหาเขียนร่างบทความแสดงความเห็นในนามของแหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงดังกล่าวของสหรัฐฯ เพื่อลงพิมพ์ในสื่อของจีนและส่งไปถึงมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของสหรัฐฯ เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนในสหรัฐฯ   พนักงานอัยการสหรัฐฯ กล่าวหานายลุฟต์ พยายามจะทำหน้าที่นายหน้าค้าอาวุธ โดยมีลูกค้าอยู่ในประเทศจีน ลิเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเคนยา แต่นายลุฟท์ ทวีตข้อความปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่พ่อค้าอาวุธ ระบุว่าเขาถูกจับในไซปรัส เป็นคดีที่มีเหตุจูงใจทางการเมืองตามคำสั่งของสหรัฐฯ   นายลุฟท์…

หัวหน้าก่อการร้าย ISIL ดับ! สหรัฐฯ ใช้โดรนยิงถล่มยับคาซีเรีย

Loading

  กองทัพสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ในวันอาทิตย์ (9 ก.ค.) ระบุว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ก.ค.) กองทัพสหรัฐฯ ได้สังหาร โอซามา อัล-มูฮาเจอร์ ผู้นำกลุ่ม ISIL (ISIS) ในพื้นที่ทางตะวันออกของซีเรียจากการใช้โดรนโจมตี   “เราได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเรายังคงมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ ISIS ทั่วทั้งภูมิภาค” ไมเคิล คูริลลา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารสหรัฐฯ กลาง (CENTCOM) กล่าวโดยใช้ชื่อตัวย่อ ISIS ซึ่งหมายถึงกลุ่มติดอาวุธ ISIL “ISIS ยังคงเป็นภัยคุกคาม ไม่เพียงแต่ในภูมิภาคนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อประเทศอื่น ๆ ด้วย”   จากข้อมูลของ CENTCOM ระบุว่า ไม่มีพลเรือนเสียชีวิตจากปฏิบัติการการโจมตีในครั้งนี้ แต่กองกำลังพันธมิตรกำลัง “ประเมินรายงานการบาดเจ็บของพลเรือน” แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า โดรนสหรัฐฯ ที่นำมาใช้ในการโจมตีในครั้งนี้ ถูกเครื่องบินรบรัสเซียก่อกวนเมื่อช่วงเช้าวันปฏิบัติการ   CENTCOM ระบุว่า การโจมตีเมื่อวันศุกร์ “ดำเนินการโดย (โดรน) MQ-9 แบบเดียวกับที่……

สหรัฐอเมริกาเริ่มใช้หุ่นยนต์ AI ช่วยรักษาความปลอดภัย ป้องกันเหตุกราดยิงในสถานศึกษา

Loading

  โรงเรียนบางแห่งในสหรัฐฯ หันมาใช้หุ่นยนต์เพื่อช่วยเหลือในด้านความปลอดภัยและป้องกันผู้บุกรุก   ปัจจุบันมีความกังวลในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนมากขึ้น เนื่องจากมีเหตุการณ์กราดยิงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีรายงานว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมาสหรัฐฯเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนกว่า 146 ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงมากจาก 4 ปีที่ผ่านมา   โรงเรียนสหรัฐฯ ทดลองใช้หุ่นยนต์ ป้องกันเหตุกราดยิง   โรงเรียนมัธยม Santa Fe ในเมืองนิวเม็กซิโก เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ทดลองใช้หุ่นยนต์ AI เพื่อเรียนรู้เส้นทางรอบโรงเรียนและกิจวัตรของนักเรียน ซึ่งโรงเรียนได้เริ่มโครงการนำร่อง 60 วันเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของหุ่นยนต์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา   หุ่นยนต์นี้สร้างโดย Team 1st Technologies บริษัทหุ่นยนต์ในอัลบูเคอร์คี เป็นหุ่นยนต์สี่ล้อหนัก 400 ปอนด์ ประกอบไปด้วยกล้อง 7 ตัว ที่สามารถบันทึกวิดีโอได้ 360 องศา มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน 20 ชั่วโมง และใช้เวลาในการชาร์จแบตเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น   Andy Sanchez ผู้จัดการของ Team 1st เผยว่าหุ่นยนต์สามารถเตือนไปยังทีมรักษาความปลอดภัยในกรณีที่มีคนยิงปืนในพื้นที่และเคลื่อนตัวไปหาผู้ต้องสงสัยเพื่อส่งวิดีโอให้เจ้าหน้าที่ได้…

ข้อมูลลูกค้าสำนักงานกฎหมายระดับโลกอาจรั่ว หลัง CL0P อาละวาดหนัก

Loading

  ข้อมูลลูกค้าของ Kirkland & Ellis, K&L Gates และ Proskauer Rose สำนักงานกฎหมายชั้นนำของสหรัฐอเมริกาอาจหลุดรั่ว หลังโดนแฮ็กครั้งใหญ่   ผู้ที่อ้างว่าอยู่เบื้องหลังคือกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ชื่อว่า Lance Tempest ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับแฮ็กเกอร์ระดับโลกอย่าง CL0P ซึ่งอ้างว่าได้โจมตีบริษัทข้ามชาติอีก 50 แห่งไปด้วยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา   การแฮ็กดังกล่าวเกิดจากการเจาะผ่านช่องโหว่ของ MOVEit ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่หลายองค์กรทั่วโลกใช้ในการส่งไฟล์   สำหรับ CL0P เป็นกลุ่มที่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซีย มักจะรีดไถเงินจากเหยื่อเป็นจำนวนหลายล้านเหรียญ และมักจะโจมตีในช่วงวันหยุดยาว   เบรตต์ คัลโลว (Brett Callow) ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ชี้ว่าการแฮ็กครั้งนี้อาจมีผู้เสียหายสูงถึง 16 ล้านคน โดยบรรดาองค์กรที่ถูกแฮ็กมีทั้งมหาวิทยาลัย ธนาคาร และบริษัทประกัน   เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตั้งค่าหัวมูลค่า 10 ล้านเหรียญ (ราว 351 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแสของกลุ่มดังกล่าว     ที่มา…