เทคโนโลยีจดจำใบหน้าทำงานพลาด! ส่งชายอเมริกันเข้าคุกทั้งที่ไม่ผิด

Loading

Facial Recognition   นักกฎหมายผู้หนึ่งกล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีระบบการจดจำใบหน้าของทางการรัฐหลุยเซียนานำไปสู่การจับกุมที่ผิดพลาด โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้หมายจับในการจับกุมตัวชายชาวจอร์เจีย ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่รื้อฟื้นความสนใจในเรื่องของความไม่เสมอภาคทางเชื้อชาติในการใช้เครื่องมือดิจิทัล   รายงานจากหนังสือพิมพ์ The Times-Picayune และ The New Orleans Advocate ระบุว่า แรนดัล เรด (Randall Reid) ชายวัย 28 ปี ต้องถูกจำคุกเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ ดีคัล์บ เคาน์ตี้ (DeKalb County) รัฐจอร์เจีย   โดยทอมมี่ คาโลเจอโร (Tommy Calogero) ทนายความของเขากล่าวว่าเจ้าหน้าได้ที่เชื่อมโยงใบหน้าของเรดกับการขโมยกระเป๋าแบรนด์หรูที่เขตเจฟเฟอร์สัน แพริช (Jefferson Parish) และเมือง แบตัน รูจ (Baton Rouge) ด้วยความผิดพลาด ทำให้เขาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน และได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 1 ธ.ค.   เรดเป็นชายผิวดำและการที่เขาถูกจับกุมนี้ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจในการใช้เทคโนโลยีที่บรรดาผู้คัดค้านกล่าวว่าส่งผลให้อัตราการระบุตัวคนผิวสีผิดพลาดสูงกว่าคนผิวขาว   เรดเล่าว่า…

หลายรัฐในอเมริกา หันมาแบนแอป ‘TikTok” มากขึ้น

Loading

USA-CONGRESS/TIKTOK   มีอย่างน้อย 22 รัฐในอเมริกาที่ได้ประกาศห้ามใช้แอปพลิเคชันยอดนิยม “ติ๊กตอก” (TikTok) บนอุปกรณ์ของรัฐ หลังจากที่รัฐสภาสหรัฐฯ​ เพิ่งออกกฎแบนแอปดังกล่าวเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย จากรายงานของสำนักข่าวเอพี   รัฐวิสคอนซิน และนอร์ธ แคโรไลนา เป็นสองรัฐล่าสุดที่ออกมาแบน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ รัฐมิสซิสซิปปี อินเดียนา หลุยส์เซียนา และเซาธ์ดาโกตา ได้ออกกฎห้ามไปแล้ว   TikTok เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดย ไบท์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทสัญชาติจีนที่ย้ายสำนักงานใหญ่ไปตั้งที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อสามปีก่อน ไบท์แดนซ์ ได้ตกเป็นเป้าการโจมตีของผู้ที่มองว่า รัฐบาลจีนสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลผู้ใช้ TikTok ของบริษัทได้ เช่น ข้อมูลประวัติการท่องเว็บ (browsing history) และพิกัดของผู้ใช้ ซึ่งทำให้กองทัพสหรัฐฯ ได้ห้ามไม่ให้มีการใช้ TikTok บนอุปกรณ์สื่อสารของกองทัพ   TikTok เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก และมีประมาณสองในสามของวัยรุ่นอเมริกันที่ใช้ TikTok อย่างไรก็ตาม มีความกังวลจากผู้แทนรัฐสภาจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันที่มองว่ารัฐบาลกรุงปักกิ่งอาจจะใช้อำนาจทางกฎหมายยึดเอาฐานข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกัน หรือจะพยายามผลักดันข้อมูลที่บิดเบือน หรือเนื้อหาที่มีลักษณะเชียร์จีนให้กับผู้ใช้ TikTok   FILE PHOTO:…

เปรียบเทียบกรณีเอกสารลับ “ไบเดน-ทรัมป์” ใครร้ายแรงกว่า

Loading

  กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เริ่มสอบสวนกรณีพบเอกสารลับของทางการที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีไบเดนสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีภายใต้รัฐบาลโอบามา โดยเอกสารลับที่พบมี 2 ชุด ชุดแรกเจอที่สำนักงานของไบเดนที่วอชิงตันดีซีซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำงานหลังจากหมดวาระในฐานะรองประธานาธิบดีส่วนอีกชุดเจอที่บ้านของไบเดนที่รัฐเดลาแวร์ และในวันนี้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเริ่มสอบสวนกรณีพบเอกสารลับนี้แล้ว   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมอร์ริค การ์แลนด์ ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาพิเศษด้านกฎหมาย ให้ทำหน้าที่สอบสวนไบเดนว่าได้ดูแลจัดการเอกสารลับของทางการอย่างเหมาะสมหรือไม่   โดยการสอบสวนครั้งนี้นำโดยโรเบิร์ต เฮอร์ ซึ่งเคยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นอัยการของรัฐฯ ในรัฐแมรีแลนด์สมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2017 และดำรงตำแหน่งมาจนถึงปี 2021   ในการสอบสวนนี้เขาจะทำหน้าที่กึ่งอัยการอิสระเพื่อตรวจสอบว่า เอกสารของทางการที่พบทั้ง 2 จุดได้รับการจัดเก็บอย่างถูกต้องหรือไม่และมีใครที่ทำผิดกฎหมายในกรณีนี้หรือไม่อย่างไร     ทั้งนี้เอกสารลับชุดแรกซึ่งมีทั้งหมด 10 รายการถูกพบที่สำนักงานคลังสมองในกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไบเดนใช้ทำงานหลังจากที่หมดวาระจากการดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในสมัยของประธานาธิบดีโอบามา   โดยเรื่องนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เอกสารส่วนใหญ่ที่พบเป็นข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐฯ รวมถึงมีรายงานสรุปเกี่ยวกับยูเครน อิหร่านและสหราชอาณาจักร   เอกสารลับบางส่วนเป็นข้อมูลลับสุดยอดของสหรัฐฯ และมีเอกสารที่ไม่ระบุประเภทซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐบัญญัติว่าด้วยบันทึกของประธานาธิบดี (Presidential Records Act)   ด้านประธานาธิบดีไบเดนได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากที่ทนายความของเขาค้นพบเอกสารลับชุดแรก ก็ได้รีบติดต่อหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ ทันที และส่งเอกสารลับทั้งหมดให้หอจดหมายเหตุตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว   ไบเดน ระบุด้วยว่า รู้สึกประหลาดใจที่มีเอกสารลับดังกล่าวอยู่ในสำนักงานเก่าของเขา…

ทำเนียบขาวคอนเฟิร์ม พบเอกสารลับชุดที่ 2 ในโรงรถบ้านไบเดนที่เดลาแวร์

Loading

  ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ยืนยัน พบเอกสารลับยุครัฐบาลโอบามาชุดที่ 2 ภายในโรงจอดรถที่บ้านของ โจ ไบเดน ในรัฐเดลาแวร์ ย้ำให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบเต็มที่   เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ม.ค. 2566 สำนักงานที่ปรึกษากฎหมายของทำเนียบขาวสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ผู้ช่วยของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ค้นพบเอกสารราชการที่ประทับตราว่าเป็นความลับในพื้นที่เก็บของภายในโรงจอดรถและภายในห้องติดกันที่บ้านของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์   แถลงการณ์ระบุอีกว่า เอกสารดังกล่าวถูกพบอยู่รวมกับเอกสารทางการเมืองและเอกสารส่วนตัวหลายฉบับ ระหว่างการค้นบ้านของประธานาธิบดีไบเดนในเมืองวิลมิงตันและเมืองเรโฮโบธ บีช โดยไม่พบเอกสารลับที่บ้านในเมืองเรโฮโบธแต่อย่างใด   ด้านนายไบเดนเจอผู้สื่อข่าวถามว่า เขาคิดอะไรอยู่จึงเก็บเอกสารลับไว้ในโรงจอดรถใกล้กับรถคอร์เวตต์ของเขา ซึ่งไบเดนตอบว่า “รถคอร์เวตต์ของผมอยู่ในโรงจอดรถที่ถูกปิดล็อก โอเคนะ? เอกสารเหล่านั้นไม่ได้วางอยู่กลางถนนเสียหน่อย”   นี่นับเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการค้นพบเอกสารลับทางราชการซึ่งถูกนำไปเก็บไว้ในสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน หลังจากเมื่อวันอังคารเพิ่งมีการเปิดเผยว่า นักกฎหมายของไบเดนพบเอกสารลับ 10 ฉบับ ภายในออฟฟิศของคณะวิจัย ‘เพนน์-ไบเดน เซ็นเตอร์’ (Penn-Biden Center) ที่เขาเคยใช้ในช่วงปี 2560-2563…

ทนายความหุ่นยนต์ DoNotPay เตรียมสู้คดีในศาลสหรัฐฯ ครั้งแรก

Loading

  ทนายความหุ่นยนต์ DoNotPay เตรียมสู้คดีจำเลยโดนใบสั่ง ณ ศาลสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ นับว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่ใช้ AI ตัดสินความยุติธรรม   DoNotPay เป็นแชทบอตที่ถูกพัฒนาเพื่อช่วยผู้ใช้ในการแก้ปัญหาระบบราชการและกฎหมาย ก่อตั้งเมื่อปี 2558 โดยโจชัว บราวเดอร์ (Joshua Browder) และเริ่มให้บริการแอปพลิเคชัน ทนายความแชทบอตในปี 2563   สำนักข่าว Gizmodo รายงานว่า ทางทีมผู้สร้าง อธิบายตัวเองว่าเป็น “ทนายหุ่นยนต์คนแรกของโลก” และได้นำ AI ดังกล่าวมาทดสอบในห้องพิจารณาคดีจริงครั้งแรก ณ ศาลสหรัฐฯ เป็นคดีที่จำเลยโดนใบสั่งจราจร โดยจะเริ่มสู้คดีในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้   การทำงานของทนายความหุ่นยนต์ เริ่มต้นด้วยการ ถามถึงรูปคดี ข้อมูลส่วนตัว และร่างคำฟ้องให้จำเลย ถ้าต้องขึ้นศาลอย่างคดีดังกล่าว จะแนะนำแก่จำเลยว่าควรพูดหรือไม่พูดอะไรในศาล ผ่านทางหูฟัง ที่เชื่อมต่อกับระบบ AI   ซึ่งทางบริษัทไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีได้ เนื่องจากต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของจำเลย และป้องกันการละเมิดกฎระเบียบของห้องพิจารณาคดี…

FAA ระบบล่ม ทำเที่ยวบินสหรัฐป่วนนับหมื่นไฟล์ท

Loading

  ภาคการบินของสหรัฐฯ กำลังพยายามที่จะกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ Federal Aviation Administration (FAA) ได้สั่งหยุดการบินของสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 90 นาทีในวันพุธ   เที่ยวบินมากกว่า 8,775 เที่ยวบินล่าช้าจนถึงขณะนี้และมากกว่า 1,270 เที่ยวบินถูกยกเลิก ตามข้อมูลของ FlightAware ถือเป็นการสั่งระงับของเที่ยวบินระดับชาติครั้งแรกในรอบสองทศวรรษของสหรัฐอเมริกา     เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจำนวนมากเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับการก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001   จำนวนเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดสูงถึง 10,000 เที่ยวบินและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เจ้าหน้าที่สายการบินแสดงความเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานปกติจะกลับมาภายในวันพฤหัสบดี   สายการบินหลัก ๆ เช่น บริษัท เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ , ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ , เดลต้า แอร์ไลน์ ( และ อเมริกัน แอร์ไลน์ ทั้งหมดรายงานว่าเที่ยวบินในวันพุธ 40% หรือมากกว่าล่าช้าหรือยกเลิก     สาเหตุของปัญหาครั้งนี้เกี่ยวกับระบบส่งข้อความแจ้งเตือนนักบินขัดข้อง แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่าจนถึงขณะนี้พวกเขายังไม่พบหลักฐานของการโจมตีทางไซเบอร์…