เกาหลีใต้ จับพลเรือน-ร้อยเอก ใช้อุปกรณ์ให้ โสมแดง ล้วงความลับทหาร

Loading

  วันที่ 28 เม.ย. บีบีซี รายงานว่า ตำรวจใน เกาหลีใต้ จับกุม 2 คน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในข้อหาแพร่งพรายความลับทางทหารแก่คนที่เชื่อว่าเป็นสายลับเกาหลีเหนือ ถือเป็นกรณีแรกที่พบว่าเจ้าหน้าที่ประจำการและพลเรือนภายใต้คำสั่งของสายลับเกาหลีเหนือสมรู้ร่วมคิดและสืบหาความลับทางทหาร   ตำรวจระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คน ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี และนายทหาร ซึ่งเปิดเผยรายละเอียดการเข้าสู่ระบบสำหรับหน่วยบัญชาการทหารร่วมของ เกาหลีใต้ และทั้งสองถูกกล่าวหาได้รับได้รับเงินจำนวนมหาศาลเป็นการแลกเปลี่ยน   ทั้งสองถูกจับเมื่อต้นเดือนเม.ย. 65 ซึ่งใช้นาฬิกากล้องถ่ายภาพ และอุปกรณ์ยูเอสบี เพื่อให้สายลับเข้าถึงข้อมูลระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. 65 ส่วนที่อยู่และตัวตนของสายลับเกาหลีเหนือคนดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน     อัยการและตำรวจเกาหลีใต้ประกาศการจับกุมเจ้าของบริษัทคริปโตเคอเรนซีซึ่งมีชื่อเพียง “นายลี” และนายทหาร “ร้อยเอกบี” ในวันพฤหัสบดี 28 เม.ย. ทั้งสองถูกตั้งข้อหาละเมิดรัฐบัญญัติความมั่นคงแห่งชาติของประเทศ   เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวหานายลีได้รับการติดต่อครั้งแรกในเดือนก.ค. 64 เพื่อพยายาม “จ้างเจ้าหน้าที่ประจำการเพื่อตรวจสอบความลับทางการทหาร”   เดือนต่อมาคือ ส.ค. 64 นายอีเข้าหาร้อยเอกบี โดยสัญญาจะจ่ายบิตคอยน์แก่ร้อยโทบี เพื่อแลกกับความลับทางทหาร ตามคำสั่งของสายลับเกาหลีเหนือ…

เกาหลีเหนือ : อดีตพันเอกผู้แปรพักตร์เผยความลับอันดำมืดใต้การปกครองของตระกูลคิม

Loading

  คิม กุก-ซอง ยังคงไม่ทิ้งนิสัยเดิมที่มักทำตัวลึกลับซับซ้อน   ทีมข่าวบีบีซีต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการหารือเพื่อขอสัมภาษณ์อดีตเจ้าที่ระดับสูงของหน่วยสายลับเกาหลีเหนือผู้นี้ ซึ่งเขายังคงมีท่าทางกังวลว่าจะมีคนแอบดักฟัง เขาสวมแว่นตาดำเมื่ออยู่หน้ากล้อง และมีเพียงทีมงานของบีบีซีเพียง 2 คนเท่านั้น ที่รู้ชื่อจริงของเขา   นายคิม ใช้เวลา 30 ปีในการไต่เต้าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในหน่วยงานสายลับอันทรงอิทธิพลของเกาหลีเหนือ เขากล่าวว่า หน่วยงานเหล่านี้ถือเป็น “ตา หู และสมองของท่านผู้นำสูงสุด“ เขาอ้างว่าตัวเองคือผู้กุมความลับของหน่วยงานเหล่านี้ เป็นผู้ส่งนักฆ่าไปลอบสังหารนักวิจารณ์ฝ่ายตรงข้าม และแม้แต่สร้างห้องแล็บผลิตยาเสพติดเพื่อช่วยหาเงินทุน “เพื่อการปฏิวัติ“ ตอนนี้ อดีตพันเอกชาวเกาหลีเหนือได้ตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองกับบีบีซี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นายทหารระดับสูงจากกรุงเปียงยางให้สัมภาษณ์กับสื่อรายใหญ่ของโลก   ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซี นายทหารผู้แปรพักตร์คนนี้บอกว่าตนเองเป็นคน “แดงเข้มที่สุดในบรรดาสีแดงทั้งปวง” เป็นผู้รับใช้ที่จงรักภักดีต่อลัทธิคอมมิวนิสต์ ทว่ายศตำแหน่งและความจงรักภักดีก็ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยในเกาหลีเหนือได้   เขาหลบหนีออกมาในปี 2014 และนับแต่นั้นก็อาศัยอยู่ในกรุงโซล โดยทำงานให้หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ นายคิมเล่าว่า คณะผู้นำเกาหลีเหนือพยายามที่จะหาเงินเข้าประเทศด้วยสารพัดวิธี ตั้งแต่ค้ายาเสพติดไปจนถึงอาวุธให้ชาติในตะวันออกกลางและแอฟริกา เขายังเผยกับบีบีซีถึงยุทธศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจต่าง ๆ ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมทั้งการโจมตีเกาหลีใต้ และคำกล่าวอ้างว่าสายลับและเครือข่ายทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือได้ปฏิบัติภารกิจไปทั่วทุกมุมโลก   แม้บีบีซีจะไม่สามารถหาแหล่งข้อมูลอิสระในการยืนยันคำกล่าวอ้างเหล่านี้ได้แน่ชัด แต่ก็สามารถยืนยันตัวตนของนายคิม และพบหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวอ้างต่าง ๆ ของเขา บีบีซีได้ติดต่อไปยังสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงลอนดอน…