มุกใหม่โจรออนไลน์ อ้างเป็นค่ายมือถือ แก้เน็ตช้า

Loading

เพจ Drama-addict เผยกลโกงมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ “ใครใช้มือถือแล้วมีปัญหา แล้วไปคอมเมนต์ไว้ในเพจผู้ให้บริการ ระวังด้วย เพราะมิจฉาชีพอาจทำเพจปลอมทักไปหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นตัวแทนจากผู้ให้บริการ แล้วหลอกลวงเหยื่อ ผู้ใช้งานส่วนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าอินเทอร์เน็ตที่ตนใช้งานอยู่มีความเร็วลดลง จนทำให้มีเพจปลอมทักเข้ามา

กสทช. จ่อออกประกาศคนที่มีซิมการ์ดเกิน 5 หมายเลขต้องไปยืนยันตัวตนผู้ครอบครอง

Loading

กสทช. เตรียมออกประกาศเพื่อบังคับให้ผู้ครอบครองหมายเลขหรือซิมการ์ด ตั้งแต่ 5 เลขหมายขึ้นไป ต้องมาลงทะเบียนแจ้งการครอบครองกับผู้ให้บริการ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการนำซิมการ์ดไปใช้ในการหลอกลวงออนไลน์ หรือโอนเงินออกจากบัญชี หรือที่เรียกว่าซิมผี โดยจะมีการจัดเปิดรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่มหรือโฟกัสกรุ๊ปอีกครั้ง

ช่วงเกษียณระวังมิจฉาชีพ! ตร.ไซเบอร์เตือน 3 ภัยออนไลน์คนร้ายนิยมใช้หลอกเหยื่อ

Loading

ตำรวจไซเบอร์เตือน 3 ภัยออนไลน์ ที่มิจฉาชีพใช้ ‘การเกษียณอายุราชการ’ มาใช้ในการหลอกลวงเหยื่อ ตามที่ในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี จะมีข้าราชการต่าง ๆ ครบกำหนดอายุการรับราชการ หรือที่เรียกว่าเกษียณอายุราชการ นั้น ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มีมิจฉาชีพมักนำมาใช้หลอกลวงประชาชน หรือนำมาแสวงหาผลประโยชน์โดยผิดกฎหมาย

รัฐสภาสิงคโปร์ผ่านร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทางออนไลน์ที่เป็นอันตราย

Loading

    เมื่อ 5 ก.ค.66 รัฐสภาสิงคโปร์ผ่านร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทางออนไลน์ที่เป็นอันตราย (The Online Criminal Harms Act – OCHA) กำหนดให้รัฐบาลมีอำนาจสั่งลบเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และบัญชีออนไลน์ที่ต้องสงสัยว่าใช้ในกิจกรรมทางไซเบอร์ที่เป็นอันตราย เช่น การหลอกลวง การให้กู้ยืมเงินที่ผิดกฎหมาย การพนันที่ผิดกฎหมาย ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวมถึงความผิดอื่น ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปรองดองของคนในชาติ และความปลอดภัยของบุคคล   หากมีข้อสงสัยหรือมีเหตุให้เชื่อว่ากิจกรรมออนไลน์นั้นกำลังดำเนินการเพื่อเตรียมการหรือเป็นส่วนหนึ่งในการกระทำความผิด แม้ว่าความผิดจะยังไม่เกิดขึ้น รัฐบาลสามารถออกคำสั่งให้บุคคลหรือบริการออนไลน์หยุดการสื่อสารเนื้อหาออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย อาทิ ปิดกั้นการใช้งานหรือการเข้าถึงเนื้อหา ระงับบัญชี บล็อกการเข้าถึงโดเมนเว็บไซต์ หรือลบแอปพลิเคชันออกจากร้านค้าออนไลน์ หรือกรณีเว็บไซต์ที่มีโดเมนคล้ายกับธนาคารอาจถูกลบออกหากมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะถูกใช้เพื่อปลอมแปลงเป็นธนาคาร โดยภารกิจดังกล่าวจะใช้กลไกของศูนย์ต่อต้านการหลอกลวง (Anti-Scam Center) ซึ่งสามารถปฏิบัติงานทั้งในเชิงรับและเชิงรุกอย่างรวดเร็วเพื่อลดผลกระทบและป้องกันไม่ให้มีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเพิ่มมากขึ้น   รัฐบาลจะสร้างสมดุลระหว่างการป้องกันอันตรายและความเป็นส่วนตัว เช่น ยังคงอนุญาตให้บริษัทออนไลน์ใช้การเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางในการส่งข้อความส่วนตัว รวมถึงให้เสรีภาพในการพูด ซึ่งจะต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลและสังคม หรือใช้คำพูดแสดงความเกลียดชัง   อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้เฉพาะกับเนื้อหาออนไลน์และกิจกรรมที่ถือเป็นความผิดทางอาญาในสิงคโปร์เท่านั้น แต่ยังอนุญาตให้รัฐบาลออกคำสั่งแก่หน่วยงานและบุคคล แม้จะไม่ได้อยู่ในสิงคโปร์ แต่มีข้อจำกัดที่บางประเทศอาจเลือกที่จะไม่ปฏิบัติตาม    …

ตร. ชวน ปชช.ทำแบบทดสอบสร้างวัคซีนไซเบอร์

Loading

  ตร. ชวน ปชช.ทำแบบทดสอบสร้างวัคซีนไซเบอร์ป้องกันปัญหาอาชญากรรมออนไลน์   เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท. ธ เทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ขอเชิญชวนให้ประชาชนทำแบบทดสอบความรู้เบื้องต้นเพื่อการป้องกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและหลอกลวงออนไลน์ ตร. เป็นการทดสอบและเพิ่มพูนระดับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ แม้ว่าหลังจากที่ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ได้ประกาศบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.66 ที่ผ่านมา สถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีลดลงได้ระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ยังพบปัญหาในทางปฏิบัติ และประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก จึงต้องเร่งบูรณาการทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมในทิศทางเดียวกัน ทั้งวิธีการรับแจ้งจากผู้เสียหาย การอายัด การระงับธุรกรรม การส่งต่อข้อมูล ตลอดจนการดำเนินคดีให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด   พ.ต.ท. ธ เทพ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้จัดทำแบบทดสอบ Cyber Vaccine จำนวน 80 ข้อ โดยจัดทำเป็นลิงก์ออนไลน์ให้ประชาชนสแกน QR Code ทำบททดสอบ เป็นการฉีดวัคซีนไซเบอร์ เพื่อสร้างความรู้…

ตำรวจไซเบอร์ เตือนมิจฉาชีพขโมยข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่นไปใช้ โทษหนักจำคุกสูงสุด 5 ปี

Loading

  โฆษก บช.สอท. เตือนมิจฉาชีพขโมยข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่นไปใช้ โทษหนักจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000- 100,000 บาท   วันนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่ง ได้นำหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ของตนไปตรวจสอบในระบบ หรือแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ พบว่า หมายเลขบัตรประชาชนของตนได้ถูกนำไปเปิดใช้บริการกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือกว่า 30 หมายเลข โดยที่ตนไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการแต่อย่างใดนั้น ว่า   ในปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจสอบข้อมูล ขอเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยสะดวก รวมไปถึงการเปิดใช้งานลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางหนึ่งให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสนำข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่ได้มาด้วยวิธีการต่าง ๆ มาแสวงหาผลประโยชน์โดยผิดกฎหมาย   การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน “นำบัตร หรือใบรับหรือใบแทนใบรับของผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526…