โดรนบินอัตโนมัติติดตั้งไมโครโฟนที่ช่วยในการตรวจจับเสียงดังของปืนและป้องกันอาชญากรรม

Loading

  บริษัท Airobotics ประเทศอิสราเอลและ ShotSpotter ประเทศสหรัฐอเมริกาจับมือร่วมกันพัฒนาโดรนบินอัตโนมัติตรวจจับเสียงดังของปืนเพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรม ปัจจุบันโดรนบินอัตโนมัติถูกนำเข้ามาใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ล่าสุด 2 บริษัทเอกชน Airobotics ประเทศอิสราเอลและ ShotSpotter ประเทศสหรัฐอเมริกาได้จับมือร่วมกันพัฒนาโดรนบินอัตโนมัติที่สามารถใช้ตรวจสอบรักษาความปลอดภัยในตัวเมืองและป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดรนบินติดตั้งเทคโนโลยีไมโครโฟนแบบพิเศษสามารถทำงานได้ต่อเนื่องและมีความแม่นยำสูงในการระบุตำแหน่งของเสียงปืน ปัจจุบันมีการใช้งานระบบโดรนบินอัตโนมัติดังกล่าวแล้ว 120 เมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ และแคริบเบียน โดรนบินอัตโนมัติขนาดเล็กติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมใบพัด 4 ชุด บริเวณลำตัวติดตั้งกล้องบันทึกภาพความละเอียดสูงและติดตั้งอุปกรณ์ไมโครโฟนที่ช่วยในการตรวจจับเสียงดังของปืนหรือเสียงที่ดังผิดปกติในพื้นที่ต่าง ๆ ของเมือง ประมวลผลระบุตำแหน่งของเสียงปืนร่วมกับดาวเทียม GPS เชื่อมต่อข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ส่วนกลางที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมปฏิบัติงานเดินทางไปยังตำแหน่งที่ตรวจพบความผิดปกติทันทีที่ได้รับข้อมูล ทีมงานวิศวกรผู้พัฒนาโดรนบินอัตโนมัติกล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบไมโครโฟนตรวจสอบเสียงที่ติดตั้งบนตัวโดรนมีความละเอียดสูงสามารถแยกแยะความละเอียดของเสียงเป็นมิลลิวินาที นอกจากนี้ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนกลางยังได้รับการติดตั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ AI เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลว่าเป็นเสียงปืนหรืออาชญากรรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นมนุษย์ โดยปกติทุกเมืองสำคัญมักมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ การมีโดรนบินอัตโนมัติเหนือท้องฟ้าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ โดรนบินอัตโนมัติหลายลำสามารถบินสับเปลี่ยนหมุนเวียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง การบินของโดรนเกิดเสียงรบกวนน้อยกว่าเฮลิคอปเตอร์และหลีกเลี่ยงการตรวจพบโดรนโดยกลุ่มคนร้ายที่เตรียมก่ออาชญากรรม นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งมีปัญหาอาชญากรรมการก่อการร้ายหรือในบางพื้นที่ที่มีกรณีพิพาทระหว่างประเทศ   ข้อมูลจาก newatlas.com ภาพจาก shotspotter.com   ที่มา : ttnonline / วันที่เผยแพร่ 22 ธ.ค.2564 Link : https://www.tnnthailand.com/news/tech/100073/

“โทริหมะ” อาชญากรรมไม่เลือกหน้าในญี่ปุ่น

Loading

ภาพจาก www.sankei.com   สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน หลายท่านคงได้ข่าวหนุ่มญี่ปุ่นถือมีดไล่แทงผู้โดยสารบนรถไฟเมื่อวันฮาโลวีนที่ผ่านา อาชญากรรมแบบทำร้ายคนแบบไม่เลือกหน้าในที่สาธารณะเช่นนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วในญี่ปุ่น ทั้งที่ญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่แสนจะปลอดภัย เมื่อวันฮาโลวีนที่ผ่านมา (31 ต.ค.) เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญภายในรถไฟสายเคโอที่กรุงโตเกียว เมื่อหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งถือมีดแทงผู้คนภายในขบวนรถ ก่อนจุดไฟเผาตู้รถไฟ บรรดาผู้โดยสารต่างหนีเอาชีวิตรอด ปีนออกทางหน้าต่างกันจ้าละหวั่น เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บกว่า 10 ราย และมีคุณปู่วัย 70 ปีคนหนึ่งถูกคนร้ายแทงอาการสาหัส คนร้ายแต่งชุดคอสเพลย์เลียนแบบ “โจ๊กเกอร์” ตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง “แบทแมน” หลังก่อเหตุเขานั่งสูบบุหรี่ภายในตู้โดยสาร รอให้ตำรวจจับกุมอย่างไม่ประหวั่นพรั่นพรึง และยังบอกกับตำรวจว่าต้องการโดนประหารชีวิต พลางโอดครวญว่าตนเองมีปัญหาเรื่องงาน อีกทั้งความสัมพันธ์กับเพื่อนก็ไม่ดี ก่อนหน้านั้นไม่ถึง 3 เดือนก็มีคดีคล้ายกันเกิดขึ้นบนรถไฟสายโอดะคิว ซึ่งในคดีนั้นคนร้ายก็พยายามจะจุดไฟเผาขบวนรถไฟแต่ทำไม่สำเร็จ และในคดีโจ๊กเกอร์นี้คนร้ายก็บอกว่า คดีรถไฟสายโอดะคิวที่ผ่านมาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงมือของเขาในครั้งนี้ด้วย   ลักษณะเด่นของ “โทริหมะ” ผู้ก่ออาชญากรรมแบบไม่เลือกหน้า ญี่ปุ่นเรียกอาชญากรประเภทนี้ว่า “โท-ริ-หมะ” (通り魔) หมายถึงคนร้ายที่จู่โจมทำร้ายคนที่ผ่านไปมาทั้งที่ไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน แบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ก่อเหตุในจุดเดียว ก่อเหตุในหลายจุดภายในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน และก่อเหตุแบบต่อเนื่อง  …

คนร้ายอ้างตัวเป็นตอลิบานบุกโจมตีงานแต่งในอัฟกัน สั่งให้หยุดเล่นดนตรีก่อนกราดยิงสังหาร3ศพ

Loading

  กลุ่มมือปืนอ้างตัวว่าเป็นตอลิบาน ลงมือโจมตีงานแต่งแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน สั่งให้หยุดเล่นดนตรี ก่อนกราดยิงสังหารผู้คนอย่างน้อย 3 รายและบาดเจ็บอีกหลายคน จากการเปิดเผยของรัฐบาลเมื่อวันเสาร์(30ต.ค.) ซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกรัฐบาลตอลิบานกล่าวว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ 3 รายและ 2 ในนั้นถูกจับกุม พร้อมยืนยันว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ลงมือในนามของขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามิสต์ “เมื่อคืนนี้ ที่งานแต่งงานในหมู่บ้าน Shamspur Mar Ghundi จังหวัดนันการ์ฮาร์ มีบุคคล 3 ราย ประกาศตัวในฐานะตอลิบาน เข้าไปในพิธีสมรสและสั่งให้หยุดเล่นดนตรี” โฆษกระบุเมื่อวันเสาร์(30ต.ค.) “ผลของการกราดยิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายและหลายคนได้รับบาดเจ็บ มีผู้ต้องสงสัย 2 คนถูกนำตัวไปคุมขังโดยตอลิบาน ในความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และยังอยู่ระหว่างการไล่ล่าผู้ต้องสงสัยอีกคนที่หลบหนี ผู้กระทำผิดในเหตุการณ์นี้ ซึ่งใช้ชื่อเอมิเรตอิสลาม(Islamic Emirate) ลงมือในความอาฆาตส่วนตัว ได้ถูกส่งตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายชารีอะห์แล้ว” โฆษกผู้ว่าราชการจังหวัดนันกาฮาร์ของตอลิบาน ยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ขณะที่ญาติคนหนึ่งของเหยื่อเล่าว่าพวกนักรบตอลิบานเปิดฉากยิงขณะกำลังเล่นดนตรี ดนตรีเป็นสิ่งต้องห้ามครั้งที่ตอลิบานก้าวขึ้นปกครองอัฟกานิสถานคราวก่อน และในขณะที่รัฐบาลใหม่ยังไม่ได้มีคำสั่งลักษณะดังกล่าว แต่บรรดาผู้นำของพวกเขายังคงมีท่าทีไม่เคยชินกับความบันเทิง และมองความบันเทิงว่าเป็นการละเมิดกฎหมายอิสลาม “พวกคนหนุ่มกำลังเล่นดนตรีในอีกห้อง จากนั้นนักรบตอลิบาน 3 คนก็เข้ามาและเปิดฉากยิงใส่พวกเขา ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น…

FBIนำทีมแทรกซึมแก๊งอาชญากรรมทั่วโลก หลอกให้ใช้แอปโทรศัพท์ที่จนท.แฮ็กได้ นำไปสู่ปฏิบัติการบุกรวบวายร้ายเฉียดพันใน18ปท.

Loading

    เอฟบีไอหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของออสเตรเลีย ยุโรป นิวซีแลนด์ และอเมริกา ทยอยออกมาแถลงเมื่อวันอังคาร (8 มิ.ย.) เกี่ยวกับ “ปฏิบัติการเกราะเมืองทรอย” (Operation Trojan Shield) โดยใช้โทรศัพท์ที่เปิดใช้งานในระบบ “เอนอม” (AN0M) ซึ่งทำให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายใน 18 ประเทศสามารถติดตามดักฟังสมาชิกแก๊งมาเฟีย องค์กรอาชญากรรมในออสเตรเลีย เอเชีย อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง ที่พูดคุยเกี่ยวกับการซื้อขายยาเสพติด การฟอกเงิน และแม้แต่การต่อสู้ระหว่างแก๊ง   เฉพาะที่ออสเตรเลียมีผู้ถูกจับกุมแล้ว 224 คน โดยนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวว่า ปฏิบัติการนี้ส่งผลกระทบรุนแรงมากต่อแก๊งอาชญากรไม่เพียงในออสเตรเลีย แต่รวมถึงทั่วโลก   ฌอง-ฟิลิปป์ เลอคูฟฟ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของตำรวจยุโรป (ยูโรโพล) แถลงว่า ปฏิบัติการนี้ทำให้สามารถจับกุมเหล่าอาชญากรได้กว่า 800 คนทั่วโลก บุกค้นสถานที่กว่า 700 แห่ง และยึดโคเคนได้กว่า 8 ตัน   ทั้งนี้ องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล)…

ถอดรหัสเหตุร้ายในห้างสรรพสินค้า แรงจูงใจ 3 ด้านอาชญากร

Loading

    เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนจู่โจมก่อเหตุ “ชิงทรัพย์ธนาคาร หรือร้านทอง” ในสถานที่ที่คนพลุกพล่านตาม “ห้างสรรพสินค้า” เริ่มเกิดถี่มากยิ่งขึ้นใน “ยุคเศรษฐกิจตกต่ำ” จากผลกระทบโรคระบาดโควิด-19 ที่มีโอกาสนำสู่เกิดการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินได้อยู่เสมอ ทำให้ประชาชนต่างรู้สึก “ไม่ปลอดภัย” อย่างเคยเกิดขึ้นมาแล้วใน “เหตุคนร้ายจี้ชิงทอง ในห้างฯดัง จ.ลพบุรี” กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่อาจไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้ายก็ได้ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต บอกว่า     ทุกคนมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามอันเป็นอันตรายแก่ชีวิต และทรัพย์สินแบบคาดไม่ถึงได้ทุกที่ทุกเวลา “คนร้าย” มีโอกาสก่อเหตุร้ายแรงได้เสมอ นับแต่ปี 1990 มีการขยายตัวของสังคมเมืองมากขึ้น มีผลให้เหตุอาชญากรรมเพิ่มตามมาด้วย ทั้งคดีฆ่าผู้อื่น หรือคดีพยายามฆ่า ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา…นักอาชญาวิทยามีการศึกษาเกี่ยวกับคดีฆ่าผู้อื่น ที่มีจุดเริ่มต้นของการก่ออาชญากรรมนี้เกิดจากจุดเล็กน้อยของความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม ตั้งแต่การขีดเขียนบนฝาผนังทั่วไป การทิ้งขยะเรี่ยราดไม่เป็นที่เป็นทาง ไม่ว่าจะเป็นที่สวนสาธารณะ ถนนที่ทำงาน โรงเรียน ที่เรียกว่า…“ทฤษฎีหน้าต่างแตก” (Broken windows) ซึ่งเป็นทฤษฎีทางอาชญาวิทยาของการสร้างมาตรฐาน ในการเปรียบเทียบจุดเริ่มต้นของ “การก่อเหตุอาชญากรรม” เสมือนกับ “หน้าต่างร้าว” เมื่อปล่อยไม่ซ่อมแซมแก้ไข ทำให้หน้าต่างบานนี้แตกได้…