ตำรวจไซเบอร์เผยจับกุมวิศวกรขายซอฟต์แวร์โอนเงินโดยไม่ต้องพึ่งแอปธนาคาร ด้านแบงก์ชาติบอกช่องโหว่เก่า

Loading

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) เผยผลการจับกุมนายณัฐพงษ์ วิศวกรวัย 28 ปี ผู้ต้องหาในจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ขายซอฟต์แวร์ API Bypass Face Scan ที่สามารถนำไปใช้ถอนเงินจากบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งโดยไม่ต้องใช้แอปธนาคาร

อินเตอร์โพลเตือนอาวุธที่ตะวันตกส่งให้ยูเครนอาจตกอยู่ในมืออาชญากร

Loading

หัวหน้าอินเตอร์โพลสั่งประเทศสมาชิกติดตามอาวุธเพราะหลังสงครามยูเครน-รัสเซียสิ้นสุดมันอาจหลั่งไหลเข้าตลาดมืด The Guardian รายงานว่า เยอร์เกน สต็อก หัวหน้าตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพลเตือนว่า บรรดาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ชาติตะวันตกส่งไปยังยูเครนหลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา จะเข้าไปอยู่ในเศรษฐกิจใต้ดินทั่วโลกและตกไปอยู่ในมือของอาชญากร สต็อกกล่าวว่า เมื่อความขัดแย้งจบลงแล้วปืนและอาวุธหนักจะหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดทั่วโลก และขอความร่วมมือประเทศสมาชิกอินเตอร์โพล โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่ส่งอาวุธไปให้ยูเครน ร่วมมือกันติดตามอาวุธเหล่านี้ “เมื่อเสียงปืนเงียบลง (ในยูเครน) อาวุธเถื่อนจะเริ่มเข้ามา เรารู้เรื่องนี้จากความขัดแย้งหลายแห่งที่เกิดขึ้นแม้แต่ตอนนี้ที่เรากำลังพูดอยู่ เหล่าอาชญากรกำลังให้ความสนใจอาวุธพวกนี้” สต็อกกล่าว “แก๊งอาชญากรพยายามฉวยโอกาสที่สถานการณ์วุ่นวายและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่หาได้ง่าย รวมทั้งอาวุธสำหรับกองทัพและอาวุธหนัก อาวุธเหล่านี้จะหาได้ในตลาดมืดและจะสร้างความท้าทาย ไม่มีประเทศหรือภูมิภาคใดสามารถรับมือกับมันได้เพียงลำพัง เพราะแก๊งอาชญากรเหล่านี้ปฏิบัติในการระดับโลก” หัวหน้าอินเตอร์โพลเผยอีกว่า “เราอาจได้เห็นอาวุธหลั่งไหลเข้าสู่ยุโรปและประเทศอื่นๆ เราต้องตื่นตัวและต้องคาดการณ์ว่าอาวุธเหล่านี้จะถูกลำเลียงไปยังทวีปอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่เฉพาะแต่ในประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น” หัวหน้าอินเตอร์โพลเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกใช้ฐานข้อมูลของตัวเองช่วยติดตามแกะรอยอาวุธ “เรากำลังประสานงานกับประเทศสมาชิกเพื่อกระตุ้นให้ประเทศเหล่านั้นใช้อุปกรณ์เหล่านี้ อาชญากรให้ความสนใจกับอาวุธทุกชนิด โดยเฉพาะอาวุธที่สามารถถือได้อาจถูกนำมาใช้เพื่อก่ออาชญากรรม” ทั้งนี้ พันธมิตรในตะวันตกของยูเครนพากันส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยไปให้ยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯ จะส่งระบบขีปนาวุธล้ำสมัยและเครื่องกระสุนไปให้ยูเครน หลังจากสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานเมื่อปี 2021 หลังจากทำสงครามมากว่า 20 ปี อุปกรณ์ทางการทหารที่ทันสมัยจำนวนมากถูกทิ้งไว้ที่นั่นและตกไปอยู่ในมือกลุ่มตอลีบัน…

ทะเบียนประวัติอาชญากร (ทว.) ยุคใหม่ ใส่ใจให้บริการประชาชน

Loading

ทะเบียนประวัติอาชญากร (ทว.) ยุคใหม่ ใส่ใจให้บริการประชาชน ผบก.เตือน อย่าหลงเชื่อบุคคลภายนอกที่อ้างว่าสามารถลบประวัติให้ท่านได้ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 65 ที่กองบังคับการ กองทะเบียนประวัติอาชญากร (ทว.) พล.ต.ต.ฐากูร นิ่มสมบุญ ผบก.ทว. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องการให้กองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ปรับปรุงการการให้บริการประชาชน พล.ต.ต.ฐากูร เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้กองทะเบียนประวัติอาชญากร ได้ปรับปรุงการให้บริการประชาชน ด้วยบริการตรวจสอบประวัติ ด้วย ชื่อ-ชื่อสกุล ผ่านระบบออนไลน์ โดยยกเลิกการเดินทางเข้ามาเพื่อขอตรวจสอบประวัติที่ศูนย์บริการตรวจสอบประวัติบุคคล (walk in) ซึ่งเดิมต้องเดินทางมาตรวจสอบที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร กรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียว ปัจจุบัน สามารถยื่นคําร้องขอตรวจสอบประวัติด้วยตนเอง โดยการกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.crd-check.com หลังจากนั้น 1 – 2 วัน หากอนุมัติแล้ว สามารถติดต่อขอรับผลการตรวจสอบพร้อมชําระเงินทําการตามสถานที่ที่ระบุตอนกรอก ข้อมูลโดยขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที สามารถเลือกรับผล ได้ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1-10, พิสูจน์หลักฐานจังหวัดทั่วประเทศ และที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร…

เปิดโปง ‘ธนาคารสวิส’ ถูกใช้เป็นเส้นทางการเงินให้อาชญากรได้อย่างไร? ไทยแห่เปิดนับพันบัญชี

Loading

  ประเทศที่มีลูกค้าเป็นจำนวนมากที่สุดที่ใช้บริการเครดิตสวิสนั้นคือประเทศอย่างเวเนซุเอลาและประเทศอียิปต์ ซึ่งมีผู้เปิดบัญชีเครดิตสวิสประเทศละประมาณ 2,000 บัญชี และประเทศยูเครนกับประเทศไทย ที่มีผู้เปิดบัญชีอยู่ที่ประเทศละประมาณ 1,000 บัญชี สืบเนื่องจากที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักได้รายงานข่าวการเปิดโปงครั้งใหญ่อันเกี่ยวข้องกับธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของโลกอันได้แก่ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) โดยการเปิดโปงดังกล่าวนั้นได้บอกเล่าถึงวิธีการที่ลูกค้าผู้ร่ำรวยของธนาคารนั้นได้ดำเนินการปกปิดความมั่งคั่งของพวกเขา ซึ่งความมั่งคั่งดังกล่าวนั้นมีที่มาอันไม่ถูกกฎหมาย อาทิ มาจากการทรมาน การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการทุจริตเป็นต้น จากกรณีดังกล่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเอารายงานข่าวส่วนหนึ่งของสำนักข่าวการ์เดียน ซึ่งเป็นสำนักข่าวแรกๆที่รายงานการเปิดโปงนี้มานำเสนอมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การเปิดโปงข้อมูลบัญชีลูกค้าจำนวนกว่า 30,000 บัญชี ของธนาคารเครดิตสวัสจากทั่วโลกที่อยู่ในเอกสารที่รั่วไหลนั้นได้แสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านฟรังก์สวิส (3,538,151,085,000 บาท) ที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ในหนึ่งในสถาบันการเงินอันเป็นที่รู้จักดีที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และการเปิดโปงดังกล่าวนี้นั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับความล้มเหลวในกระบวนการตรวจสอบของธนาคารเครดิตสวิส แม้ว่าจะมีการให้คำมั่นสัญญาจากทางธนาคารมาโดยตลอดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาว่าจะขจัดลูกค้าและเงินทุนอันน่าสงสัยออกไป อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินงานของสำนักข่าวการ์เดี้ยนร่วมกับสำนักข่าวอื่นๆนั้นพบว่า เครดิตสวิสยังคงมีการคงบัญชีและเปิดบัญชีใหม่ให้กับลูกค้าที่มีความเสี่ยงในด้านอาชญากรรมทั่วโลก ซึ่งอาชญากรรมที่ว่านี้ก็รวมไปถึงกรณีการค้ามนุษย์ในประเทศฟิลิปปินส์,ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงที่ต้องโทษจำคุกเพราะกรณีการจ่ายสินบน,มหาเศรษฐีผู้สั่งให้ฆาตกรรมแฟนสาป๊อปสตาร์ชาวเลบานอนที่ตอนนี้กำลังต้องต่อสู้ในหลายคดี,ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจน้ำมันของเวเนซูเอลา รวมไปถึงนักการเมืองผู้ทุจริตในยูเครนไปจนถึงอียิปต์ มีรายงานต่อไปด้วยว่า หนึ่งในบัญชีที่ถูกเปิดนั้น เจ้าของบัญชีเป็นผู้อยู่ในนครรัฐวาติกัน และยังพบด้วยว่าบัญชีนี้มีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนกว่า 350 ล้านปอนด์ (15,403,082,194 บาท) อันเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ไม่โปรงใสในอสังหาริมทรัพย์ที่กรุงลอนดอน ซึ่งจากการสืบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีนี้นั้น ก็ทำให้เกิดกรณีการฟ้องร้องไปยังจำเลยหลายคนรวมไปถึงพระคาร์ดินัล อนึ่งที่ไปที่มาของการเปิดโปงข้อมูลจำนวนมหาศาลดังกล่าวนั้นมาจากผู้เปิดโปงอันไม่ระบุนามที่ได้ให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์สัญชาติเยอรมนีชื่อว่า Süddeutsche Zeitung ซึ่งทางด้านของผู้เปิดโปงได้กล่าวว่า ตัวเขาเชื่อว่ากฎระเบียบเรื่องความลับของธนาคารสวิสนั้นเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักศีลธรรมและข้ออ้างในเรื่องของการปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงินนั้นแท้จริงแล้วเป็นการปกปิดบทบาทของธนาคารสวิสในการทำงานร่วมกันกับผู้หลีกเลี่ยงภาษี…