สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเขม็งเกลียวขึ้นสู่ระดับสูงสุดอีกครั้งหนึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อกองทัพอิสราเอลเคลื่อนกำลังเข้าสู่ที่มั่นสุดท้ายของปาเลสไตน์ในดินแดนแคบเล็กริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่โลกรู้จักกันในชื่อ “ฉนวนกาซา”
อียิปต์กําลังสร้างรั้วตามแนวชายแดนติดต่อกับฉนวนกาซาเพื่อป้องกันการอพยพย้ายถิ่นของชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก หลังจากที่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล มีคำสั่งให้ขยายปฏิบัติการทางทหารมายังเมืองราฟาห์เพื่อปราบปรามกลุ่มฮามาส
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่าเมื่อวันศุกร์ (20 ต.ค.) สำนักงานประธานาธิบดีของอียิปต์รายงานว่า อับเดล-ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ประธานาธิบดีอียิปต์ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่อนุญาตให้พลเรือนที่ไหลทะลักออกจากฉนวนกาซา เข้ามายังเขตคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ ระหว่างการประชุมร่วมกับริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศ
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนทั่วโลก เมื่อมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายระเบิดโจมตีโรงพยาบาลอัลอาห์ลี (Al Ahli) ในฉนวนกาซา ทั้งที่โรงพยาบาลควรเป็นสถานที่ปลอดภัยในยามสงคราม จนเป็นเหตุให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตเกือบ 500 คน
บีบีซี รายงานว่า เครื่องบินแอร์ฟอร์ซ วันของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ลงจอดที่สนามบินนานาชาติเบนกูเรียน ในเมืองเทลอาวีฟ อิสราเอลเมื่อเวลา 11.01 น. ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น (ราว 15.01น.ตามเวลาของประเทศไทย) โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซอก พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงอื่น ๆ ของอิสราเอล รอต้อนรับ
ราฟาห์ เป็นจุดผ่านแดนของอียิปต์เพียงแห่งเดียวที่ติดกับฉนวนกาซา และไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่อียิปต์จะตัดสินใจเปิดพรมแดนให้กับชาวปาเลสไตน์ ด้วยเหตุผลหลายประการ อียิปต์รู้สึกผูกพันและพร้อมที่จะจัดให้มีความช่วยเหลือทางการแพทย์และมนุษยธรรม รวมถึงรับประกัน “สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย” ของชาวปาเลสไตน์ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว