‘จีน’ จี้สหรัฐ หยุดโจมตีทางไซเบอร์รัฐบาลทั่วโลก ตราหน้าเป็น ‘อาณาจักรแฮ็กเกอร์’

Loading

    เมื่อวานนี้ นาง เหมาหนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกโรงเรียกร้องให้ทางการสหรัฐหยุดการสอดแนม และโจมตีทางไซเบอร์ไปทั่วโลกที่สหรัฐดำเนินการมาตลอด   โดยท่าทีของจีนครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ศูนย์ตอบโต้ไวรัสคอมพิวเตอร์แห่งชาติจีน และบริษัท อินเตอร์เน็ต ซิเคียวริตี้ 360 ของจีน ได้เผยรายงานระบุว่า สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐ หรือ ซีไอเอ ได้ใช้วิธีการสอดแนม และการโจมตีทางไซเบอร์ต่อรัฐบาล และองค์กรต่าง ๆ ในต่างประเทศ ทั่วโลก พร้อมกับตราหน้าสหรัฐว่าเป็น “อาณาจักรของแฮ็กเกอร์”   ตามรายงานระบุว่า ซีไอเอ ได้โจรกรรมข้อมูลจากรัฐบาล บริษัทเอกชน องค์กร ข้อมูลประชาชนผ่านปฏิบัติการลับนี้ โดยที่ ซีไอเอ เป็นผู้จัดหาการเข้ารหัส และระบบโทรคมนาคมให้กับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง รวมถึงบริการเชื่อมต่อ และเครื่องมือสื่อสารในเหตุการณ์ชุมนุมและการประท้วงต่างๆ อีกทั้ง ซีไอเอ ยัง มีส่วนร่วมในกิจกรรมจารกรรมอย่างต่อเนื่อง ประชาคมระหว่างประเทศควรระแวดระวังอย่างสูงต่อการเคลื่อนไหวเหล่านี้   นาง เหมาหนิง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้มีเคสที่สหรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง และเปิดการโจมตีทางไซเบอร์มาแล้วมากมาย ทั้งในจีน และในอีกหลายประเทศทั่วโลก สหรัฐควรจะตระหนักถึงความวิตกของนานาชาติต่อเรื่องนี้…

T-Mobile ผู้ให้บริการสัญญาณมือถือเจ้าใหญ่ของสหรัฐฯ ถูกแฮ็ก (อีกแล้ว)

Loading

    T-Mobile หนึ่งในผู้ให้บริการสัญญาณมือถือรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกาเผยว่าบริษัทถูกแฮ็กเป็นครั้งที่ 9 ในรอบ 6 ปี   สำหรับครั้งนี้ บริษัทระบุว่าแฮ็กเกอร์อาจสามารถขโมยเลขที่บัญชี เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลการติดต่อ รหัส PIN เลขที่รัฐบาลออกให้ วันเกิด และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ของลูกค้า 836 คน ออกไปได้   โดยได้รีเซตรหัส PIN ของลูกค้าแล้ว และยังเสนอให้บริการเฝ้าระวังและติดตามความเคลื่อนไหวบัญชีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 2 ปี   จากข้อมูลในเอกสารของสำนักงานอัยการรัฐเมน ที่ได้รับการเผยแพร่โดยเว็บไซต์ Bleeping Computer ชี้ว่าการแฮ็กครั้งนี้เริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์แล้ว บริษัทพบการแฮ็กในวันที่ 27 มีนาคม และสามารถจัดการปัญหาได้ในวันที่ 30 มีนาคม   แต่กว่าจะแจ้งให้ลูกค้ารับรู้ก็ปาเข้าไปวันที่ 28 เมษายนแล้ว   ขณะที่เว็บไซต์ The Verge ชี้ว่านี่เป็นเหตุการณ์แฮ็กครั้งที่ 9 แล้วที่เกิดขึ้นกับ…

สหรัฐฯ อพยพพลเมืองอเมริกันชุดแรกหนีสงครามกลางเมืองซูดาน

Loading

    ชาวอเมริกันหลายร้อยคนเดินทางออกจากซูดานผ่านทางท่าเรือเมื่อวันเสาร์ ถือเป็นพลเมืองอเมริกันชุดแรกที่อพยพออกจากซูดานโดยความช่วยเหลือของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากเกิดการสู้รบกลางเมืองในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างกองทัพบกซูดานกับกองกำลังกึ่งทหาร   เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ของสหรัฐฯ เฝ้าจับตาและคุ้มกันการอพยพประชาชนอเมริกันจำนวน 200-300 คนดังกล่าว ซึ่งเริ่มต้นจากการเดินทางด้วยขบวนรถโดยสารเป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตรไปยังพอร์ตซูดาน เพื่อขึ้นเรือโดยสารข้ามทะเลแดงมุ่งหน้าไปยังซาอุดิอาระเบียที่ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่การทูตของรัฐบาลสหรัฐฯ รอให้ความช่วยเหลือ   ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของชาวอเมริกันที่ติดอยู่ในซูดานวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลกรุงวอชิงตันที่ไม่ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังซูดานเพื่อช่วยอพยพพลเมืองอเมริกันออกมา โดยคาดว่ามีชาวอเมริกันอาศัยอยู่ในซูดานราว 16,000 คนที่ต้องการลี้ภัยหนีสงครามกลางเมือง   เมื่อวันที่ 22 เมษายน กองกำลังพิเศษของอเมริกาเดินทางไปยังกรุงคาร์ทูมเพื่อช่วยเหลือนำบรรดาเจ้าหน้าที่การทูตและเจ้าหน้าที่รัฐบาลอเมริกันออกจากซูดานไปล่วงหน้าแล้ว พร้อมสั่งปิดสถานทูตสหรัฐฯ ในซูดาน แต่ยังมีพลเมืองอเมริกันจำนวนมากที่ตกค้างอยู่ในซูดาน     จนถึงขณะนี้ มากกว่าสิบประเทศ ได้นำตัวพลเมืองของตนออกมาจากซูดานแล้ว โดยใช้หลายวิธีด้วยกัน รวมถึงขบวนรถโดยสาร เครื่องบินทหาร เรือของกองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน รวมทั้งประเทศไทยที่ได้ส่งเครื่องบินไปรับตัวพลเมืองชาวไทยออกจากซูดานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา   นับตั้งแต่การสู้รบของกองทัพบกซูดานและกองกำลังกึ่งทหารเคลื่อนที่เร็ว หรือ อาร์เอสเอฟ ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน สหรัฐฯ ได้ประกาศเตือนพลเมืองของตนให้หาทางหนีออกมาจากซูดาน รวมทั้งพยายามติดต่อไปยังประเทศอื่นเพื่อช่วยเหลือในการอพยพชาวอเมริกันออกจากพื้นที่สู้รบ ก่อนที่จะตัดสินใจจัดขบวนรถโดยสารไปรับพบเมืองอเมริกันกลับบ้าน…

ผู้นำเกาหลีใต้ฟุ้งความสัมพันธ์กับมะกันแน่นแฟ้น ไม่หวั่นอีกฝ่ายสอดแนม

Loading

    ผู้นำเกาหลีใต้ฟุ้งความสัมพันธ์กับมะกันแน่นแฟ้น ไม่หวั่นอีกฝ่ายสอดแนม ขณะเตรียมหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือประเด็นเกาหลีเหนือ จีน และปัญหาอื่นๆ   สัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้จะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่ สหรัฐสอดแนมเกาหลีใต้ อย่างแน่นอน โดยการลอบดักฟังพันธมิตรของสหรัฐนั้นถูกเปิดโปงต่อสาธารณชน หลังเอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐรั่วไหลบนโลกออนไลน์   ทั้งนี้ การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุนซอกยอล และ ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน มีกำหนดพบปะกันในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือประเด็นเกาหลีเหนือ จีน และปัญหาอื่นๆ   เจ้าหน้าที่สหรัฐ และเกาหลีเหนือ ระบุว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ในเอกสารลับที่รั่วไหลบนโลกออนไลน์นั้นไม่ถูกต้องและอาจถูกดัดแปลงแก้ไข แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเพิ่มเติม   “ผมเชื่อว่าประเด็นนี้จะไม่สั่นคลอนความไว้วางใจที่แข็งแกร่งที่สนับสนุนความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐ และเกาหลีใต้ เพราะความไว้วางใจดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่ทั้งสองประเทศต่างก็ให้คุณค่า เช่น เสรีภาพ” ประธานาธิบดี ยุนซอกยอล กล่าวเมื่อวันจันทร์ (24 เม.ย.)   ประธานาธิบดี ยุนซอกยอล กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และเกาหลีใต้ตั้งอยู่บนความไว้เนื้อเชื่อใจระดับสูง “หากคุณมีความเชื่อใจในระดับนี้แล้ว คุณก็จะไม่สั่นคลอน”  …

ห้ามหรือยุ? สหรัฐฯ เตือนรัสเซียอย่าแตะต้อง ‘เทคโนโลยีเซนซิทีฟ’ ของอเมริกาในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน

Loading

    กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังรัฐวิสาหกิจพลังงานนิวเคลียร์ Rosatom ของรัสเซียว่า “อย่าได้แตะต้อง” เทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีความเปราะบางของอเมริกาภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียของยูเครน ซึ่งถูกกองทัพรัสเซียเข้าไปยึดเอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อน   สำนักข่าว CNN รายงานว่า แอนเดรีย เฟอร์ไคล์ ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานนโยบายไม่แพร่กระจายนิวเคลียร์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายลงวันที่ 17 มี.ค. ปี 2023 ไปถึงผู้อำนวยการใหญ่ของ Rosatom โดยระบุว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย “มีฐานข้อมูลทางเทคนิคด้านนิวเคลียร์ที่ผลิตในสหรัฐฯ และถูกส่งออก (ไปยังยูเครน) ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา”   ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีกฎหมายควบคุมเข้มงวดสำหรับการส่งออกสินค้า ซอฟต์แวร์ หรือเทคโนโลยีใด ๆ ก็ตามซึ่งอาจจะถูกนำไปใช้งานในลักษณะที่บ่อนทำลายความมั่นคงของอเมริกา   โรงไฟฟ้าซาปอริซเซียซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปถูกกองกำลังรัสเซียบุกยึดไว้ตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว และเคยถูกตัดการเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนบ่อยครั้งเนื่องจากรัสเซียยิงถล่มอย่างหนักในพื้นที่ จนทำให้ทั่วยุโรปหวาดกลัวว่าอาจจะเกิดหายนะนิวเคลียร์ขึ้น   แม้รัสเซียจะยังคงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ยูเครนปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงไฟฟ้าได้ตามเดิม ทว่าการบริหารจัดการทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของ Rosatom   กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เตือน Rosatom ว่า การอนุญาตให้พลเมืองหรือองค์กรของรัสเซียเข้าไปจัดการเทคโนโลยีของสหรัฐฯ จะถือว่า “ผิดกฎหมาย”  …

มีผู้บุกรุกทำเนียบขาว เจ้าหน้าที่พบ เป็น “เด็ก 2 ขวบ”

Loading

    เกิดเหตุผู้บุกรุกทำเนียบขาว เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับเร่งเข้าควบคุมตัว พบเป็น “เด็กชายวัย 2 ขวบ” ที่คลานลอดรั้วเข้ามา   เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) เกิดเหตุมีผู้บุกรุกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับเร่งเข้าควบคุมตัวผู้บุกรุกอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อไปถึง ก็พบว่า ผู้ที่บุกรุกเข้ามาเป็นเพียง “เด็กชายวัย 2 ขวบ” เท่านั้น และสั่งยกเลิกระบบแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยทันที   แอนโทนี กูกลิเอลมี หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของหน่วยสืบราชการลับ รายงานว่า ผู้บุกรุกตัวน้อยแทรกซึมเข้ามาในบริเวณทำเนียบขาวโดยการคลานผ่านช่องว่างของรั้วทางด้านทิศเหนือของทำเนียบขาว     “วันนี้หน่วยสืบราชการลับในเครื่องแบบพบอาคันตุกะอายุน้อยที่อยากรู้อยากเห็นบริเวณแนวรั้วด้านทิศเหนือของทำเนียบขาว โดยรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ทำเนียบขาวเพียงช่วงสั้น ๆ” กูกลิเอลมีกล่าว   เขาเสริมว่า หลังจากพบตัวเด็กน้อย ก็ได้ดำเนินการส่งคืนให้กับพ่อแม่ซึ่งอยู่ที่ถนนเพนซิลเวเนียติดกับทำเนียบขาวอย่างรวดเร็ว พ่อแม่ของเด็กชายถูกสอบปากคำสั้น ๆ ก่อนจะถูกปล่อยตัวไป   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุมีเด็กน้อยคลานผ่านรั้วของทำเนียบขาว เคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้ในปี 2014 เมื่อเด็กวัยหัดเดินเบียดตัวผ่านรั้วทำเนียบขาวก่อนที่ประธานาธิบดี บารัก โอบามา จะกล่าวปราศรัย การบุกรุกนั้นทำให้ต้องปิดทำเนียบขาวชั่วคราว และทำให้การปราศรัยล่าช้า   รั้วของทำเนียบขาวที่เด็กวัยหัดคลานผ่านเข้าไปได้นี้มีความสูงเกือบ 4…