“หุ่นยนต์ป้องกันไฟไหม้” นวัตกรรมเกาหลีใต้-ลดภัยพิบัติในโรงงาน

Loading

  บริษัท Hyundai Steel ประเทศเกาหลีใต้ พัฒนา “หุ่นยนต์สี่ขาคล้ายสุนัขและงู” ช่วยป้องกันสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกินความสามารถของมนุษย์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติ   อัคคีภัยเป็นภยันตรายที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างมากมาย จากเหตุเพลิงไหม้หลากหลายกรณี ซึ่งสามารถเกิดได้ในชีวิตประจำวันบางครั้งอาจไม่ทันตั้งตัวและคาดคิดมาก่อน หากโรงงานอุตสาหกรรมไม่มีโซลูชันที่ป้องกันและรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ ก็จะทำให้คร่าชีวิตของพนังงานและผู้คนในละแวกนั้นนับไม่ถ้วน   ขณะเดียวกัน หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม ก็เป็นที่นิยมกันมากขึ้น เนื่องจากเป็นการทำงานโดยปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาด สามารถคาดคะเนเหตุการณ์ ทนทานต่อ “ไฟ” หรือ “แก๊ส” ได้มากกว่าร่างกายของมนุษย์   บริษัท ฮุนไดสตีล จำกัด พัฒนาหุ่นยนต์ช่วยป้องกันเกิดอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติที่ส่งความเสียหายให้กับมนุษย์ ใช้ชื่อว่า “Spot และ Guardian S” ซึ่งหุ่นยนต์สองตัวนี้สามารถตรวจสอบว่าวาล์วแก๊สปิดหรือเปิดอยู่ และสามารถตรวจสอบพื้นที่ที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ดังนั้น มันจึงสามารถช่วยป้องกันการเกิดภัยพิบัติ อย่างเช่น การระเบิดหรือไฟไหม้   สำหรับเรื่องของความปลอดภัย หุ่นยนต์ทางฮุนไดสตีลได้รับรางวัลการจัดการความปลอดภัยในกระบวนการผลิตจาก World Steel Association (Worldsteel) และได้ตั้งเป้าหมายว่า จะใช้หุ่นยนต์ในโรงงานก๊าซ 156 แห่ง และโรงงานปิด 2,927…

วิเคราะห์สาเหตุโศกนาฏกรรมอิแทวอน และแนวทางรับมือ

Loading

  –   ผู้เชี่ยวชาญชี้เหตุโศกนาฏกรรมอิแทวอนสามารถป้องกันได้ แต่ต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดและจำกัดจำนวนคนในพื้นที่ที่จำกัด   –   แรงบีบอัดจากฝูงชนจำนวนมาก เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ง่าย เพราะแรงบีบอัดดังกล่าวมีพลังมหาศาลมากพอที่จะทำให้แท่งเหล็กหักหรืองอได้ด้วย   –   ล่าสุดผบ.ตร.เกาหลีใต้ยอมรับ ตำรวจบกพร่องในการดูแลและป้องกันเหตุจนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมฮาโลวีนอิแทวอน พร้อมสั่งให้เร่งสืบสวนสาเหตุอย่างเร่งด่วน     เหตุโศกนาฏกรรมอิแทวอนในเกาหลีใต้ สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก จนทำให้หลายประเทศต่างเร่งถอดบทเรียน เพื่อใช้เป็นแนวทางป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นที่ใดก็ได้ในโลก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้สามารถป้องกันได้ แต่ต้องมีการดูแลฝูงชนอย่างใกล้ชิดและต้องจำกัดจำนวนคนในการเข้าไปร่วมงานในพื้นที่ที่จำกัด นอกจากนี้การให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นด้วยเช่นกัน     ศาสตราจารย์ คีธ สติล แห่งมหาวิทยาลัยซัฟฟอร์กของประเทศอังกฤษผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยฝูงชน และเป็นนักวิเคราะห์ความเสี่ยงฝูงชนมานานกว่า 30 ปี ระบุว่าการเคลื่อนที่เพียงแค่เล็กน้อยของฝูงชนที่อัดกันแน่นไปตามตรอกแคบๆ เพียงแค่ 4 เมตร เป็นสาเหตุที่ทำให้ฝูงชนจำนวนมากล้มตามๆ กันเหมือนโดมิโนได้ โดยภายใต้สถานการณ์เช่นนั้นเมื่อมีคนล้มลง ผู้คนต่างก็พยายามที่จะลุกขึ้น ทำให้แขนขาพันกันไปมาและยิ่งเกิดความยากลำบากที่จะลุกขึ้นได้ และเมื่อผ่านไปราว 30 วินาที เลือดจะหยุดไหลไปเลี้ยงสมอง ทำให้หมดสติและตามมาด้วยอาการขาดออกซิเจนภายใน 4 ถึง 6 นาที ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ทำให้เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก     ในวันที่เกิดเหตุที่อิแทวอน…

แตกตื่น! โสมใต้แจ้งเตือนภัยทางอากาศ หลังโสมเหนือรัวขีปนาวุธ 3 ลูก ตกห่างฝั่งแค่ 57 กม.

Loading

  แตกตื่น! โสมใต้แจ้งเตือนภัยทางอากาศ หลังโสมเหนือรัวขีปนาวุธ 3 ลูก ตกห่างฝั่งแค่ 57 กม.   เกาหลีใต้ประกาศแจ้งเตือนภัยการโจมตีทางอากาศสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูกตกลงสู่ทะเลในวันที่ 2 พฤศจิกายน   เสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 3 ลูกในช่วงเช้าวันนี้ จากพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของเมืองวอนซอน ในจ.คังวอนของเกาหลีเหนือ โดยขีปนาวุธลูกหนึ่งตกลงใกล้กับพรมแดนทะเลตะวันออกของเกาหลี ห่างจากชายฝั่งไม่ถึง 60 กิโลเมตร   เสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ได้ออกคำเตือนการโจมตีทางอากาศสำหรับเกาะอุลลึงในช่วงที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ โดยขีปนาวุธอย่างน้อย 1 ลูกตกลงห่างจาก Northern Limit Line เส้นพรมแดนทางทะเบระหว่างเกาหลีเพียง 26 กิโลเมตร และตกลงห่างจากเมืองซกโชของเกาหลีใต้บนชายฝั่งตะวันออกเพียง 57 กิโลเมตร   ด้านสำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ของรัฐในอุลลึงว่า เมื่อเสียงเตือนภัยดังขึ้น พวกเขาได้พากันอพยพไปยังชั้นใต้ดิน   การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เกาหลีเหนือออกมาขู่ว่า จะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อให้สหรัฐและเกาหลีเหนือต้องจ่ายด้วยราคาที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ หากสหรัฐและเกาหลีใต้ไม่ยุติการซ้อมรบร่วมทางอากาศระหว่างกันที่กำลังมีขึ้นในสัปดาห์นี้       ————————————————————————————————————————————————— ที่มา : …

ผู้นำเกาหลีใต้ถอดบทเรียน “อิแทวอน” สั่งจัดทำแผนควบคุมฝูงชน

Loading

  ประธานาธิบดีเกาหลีใต้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำมาตรการควบคุมฝูงชนที่เกิดขึ้นจำนวนมากอย่างฉับพลัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำรอย โศกนาฏกรรมที่ย่านอิแทวอน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ว่า นายอี แจ-มยอง รองโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่า ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล มีคำสั่งให้หน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำมาตรการควบคุมฝูงชนอย่างเป็นระบบ สำหรับงานเทศกาลใดก็ตาม หรือพื้นที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและมีปัจจัยส่งผลให้เกิดความยากลำบาก ด้านการบริหารจัดการ   ประชาชนร่วมแสดงความไว้อาลัย ให้แก่ผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมที่ย่านอิแทวอน ที่จุดไว้อาลัย หน้าศาลาว่าการกรุงโซล   Yoon calls for crowd control system for spontaneous events https://t.co/00vXy6hZAf — Yonhap News Agency (@YonhapNews) October 31, 2022   สำหรับงานที่จัดขึ้นโดยมีการประกาศล่วงหน้าว่า จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน ฝ่ายจัดงานต้องเสนอแผนการควบคุมฝูงชนให้แก่หน่วยงานรัฐในท้องถิ่น ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง โดยหน่วยงานทั้งสามแห่งต้องร่วมกันพิจารณาและอนุมัติแผนการ  …

ถอดบทเรียนเหยียบกันตาย เอาตัวรอดอย่างไร ถ้าอยู่ในสถานการณ์นี้

Loading

  โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นย่านอิแทวอน แหล่งท่องเที่ยวยามราตรีชื่อดังใจกลางกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ในค่ำคืนวันเสาร์ (29 ต.ค.) หลังจากที่คนนับหมื่นไปรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองวันฮาโลวีน จนเป็นเหตุให้เกิดการเบียดเสียด มีคนเป็นลมล้มพับทับกันจนขาดอากาศหายใจ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 153 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 82 ราย ทำให้บรรยากาศความสุขในเวลาแห่งการเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปีกลายมาเป็นความเศร้าสลดไปทั่วโลก   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิแทวอน เป็นโศกนาฏกรรมเหยียบกันตายที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลักร้อยคนเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาแค่ 1 เดือน หากยังจำกันได้เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ก็มีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นที่สนามฟุตบอลในอินโดนีเซีย หลังจากที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อควบคุมฝูงชนที่ก่อจลาจลหลังจบเกมการแข่งขัน ทำให้ผู้ที่อยู่ร่วมในสนามพากันแตกฮือหนีเอาตัวรอดจนเกิดการชุลมุน เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 120 ราย   โศกนาฏกรรมใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและเกิดขึ้นในแบบที่เรียกว่าแทบจะไล่เลี่ยกัน ในช่วงเวลาที่โลกเพิ่งจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังทุกอย่างแทบจะหยุดชะงักไปนานกว่า 2 ปีจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความอัดอั้นของผู้คนที่ต้องการความสุขความบันเทิงหลังจากห่างหายมาเป็นเวลานาน และดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวไปอีกต่อไป   หากวันใดวันหนึ่งต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร workpointTODAY จะพาไปเข้าใจสาเหตุ และวิธีการเอาตัวรอดถ้าต้องเจอกับสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้   คนตายเพราะขาดอากาศหายใจ ไม่ใช่ถูกเหยียบ   ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า สาเหตุที่คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เรียกว่า ‘เหยียบกันตาย’ หรือในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Stampede ไม่ได้เกิดจากการเหยียบกันด้วยเท้า…

โศกนาฏกรรม “อิแทวอน” ป้องกันได้ไหม บทเรียนอีเวนต์ไม่มีเจ้าภาพ-คนรับผิดชอบ

Loading

  เกาหลีใต้เผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ในเหตุการณ์เลวร้ายที่ “อิแทวอน” อย่างไม่มีใครคิด คำถามใหญ่ โศกนากรรมครั้งนี้ ป้องกันได้หรือไม่ แล้วใครต้องรับผิดชอบ   บรรยากาศเฉลิมฉลองช่วงใกล้สิ้นปีในเกาหลีใต้ มีอันต้องพลิกผันเป็นความช็อก และเศร้าสลดทั้งประเทศ งานรื่นเริงต่าง ๆ ที่มีแผนจัดขึ้นในช่วงฮาโลวีน มีอันต้องยกเลิก เพื่อร่วมไว้อาลัยเหตุการณ์คลื่นมหาชนเบียดเสียดจนขาดอากาศหายใจ ในอิแทวอน ย่านสถานบันเทิงโด่งดังของกรุงโซล ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 153 ราย จำนวนมากเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ในผู้เสียชีวิต มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 19 คน ขณะเดียวกัน คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นในใจของหลายคนก็คือว่า ความสูญเสียในชีวิตเช่นนี้ ป้องกันได้หรือไม่ มาตรการความปลอดภัยและการบริหารจัดการฝูงชน อยู่ที่ไหน และใครควรรับผิดชอบ   ซอยที่เกิดโศกนาฏกรรมอิแทวอน   โศกนาฏกรรมช็อกโลก เกิดขึ้นขณะผู้คนแออัดกันแน่นในทางเดินแคบ ๆ เชื่อมระหว่างทางออกที่ 1 สถานีรถไฟอิแทวอน กับเวิล์ด ฟู้ด สตรีต ด้านหลังโรงแรมฮามิลตัน ผู้อยู่ในเหตุการณ์หลายคน ให้ภาพว่า ผู้คนผลักกันไปผลักกันมา ขณะพยายามเดินขึ้นหรือเดินลงในซอยแคบ ที่มีความยาว 45 เมตร…