ตำรวจออสเตรเลียจับกุมชาวรัสเซียข้อหาจารกรรมข้อมูลให้กับรัสเซีย

Loading

เว็บไซต์ The Straits Times รายงานเมื่อ 12 ก.ค.67 ว่า สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลียแถลงถึงการจับกุมคู่สามีภรรยาชาวรัสเซียในข้อหาเป็นสายลับให้กับรัสเซีย จากการเข้าถึงเอกสารลับด้านความมั่นคงของกองทัพออสเตรเลีย

เปิดใจเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรัสเซีย ผู้แปรพักตร์และหนีออกนอกประเทศ

Loading

  อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยงานป้องกันกลางเปิดเผยเรื่องราวการหลบหนีออกจากประเทศหลังทนไม่ไหวกับสงครามยูเครน พร้อมเรื่องเล่าเกี่ยวกับปูติน   นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. 2022 มีชาวรัสเซียหลายคนที่ตัดสินใจหลบหนีออกจากประเทศตัวเอง อาจจะด้วยเหตุผลเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร เพื่อหนีจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ หรืออาจจะลี้ภัยเพื่อความปลอดภัย โดยจากการประเมินเชื่อว่ามีชาวรัสเซียมากถึง 900,000 คนที่หนีออกจากประเทศตัวเอง   ที่น่าสนใจคือ ในจำนวนชาวรัสเซียที่หลบหนีออกมา มีส่วนเล็ก ๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้วย หนึ่งในนั้นคือ “เกล็บ คาราคูลอฟ” วิศวกรผู้ตัดสินใจหอบภรรยาและลูกหลบหนีไปยังตุรกี     แต่คาราคูลอฟไม่ใช่ผู้แปรพักตร์ธรรมดา เพราะเขายังมีสถานะเป็นถึง “เจ้าหน้าที่หน่วยงานป้องกันกลาง (FSO)” ของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานย่อยของหน่วยความมั่นคงกลางรัสเซีย โดยเป็นผู้รับผิดชอบด้านการสื่อสาร ซึ่งรู้รายละเอียดในชีวิตของปูตินและข้อมูลที่อาจเป็นความลับ   คาราคูลอฟหนีไปยังตุรกีเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2022 พร้อมกับภรรยาและลูกสาว เขาปิดโทรศัพท์เพื่อปิดกั้นข้อความที่ส่งมาหาเขาด้วยความเกรี้ยวกราด   คาราคูลอฟเล่าว่า เขาตัดสินใจออกมา เพราะเขาต่อต้านการรุกรานยูเครน รวมกับความกลัวที่จะตาย ทำให้เขาต้องออกมา และเลือกที่จะออกมาพูดแม้ว่าจะมีความเสี่ยงต่อตัวเขาเองและครอบครัวก็ตาม   เขาบอกว่า เขาหวังว่าตัวเองจะเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวรัสเซียคนอื่น ๆ ออกมาพูดเช่นกัน…

สหรัฐฯ และอังกฤษ แจ้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัสเซียในข้อหาการแฮ็กป่วนโลก

Loading

  กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาและกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักรแถลงว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย 4 คน และเหล่าแฮ็กเกอร์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองของรัสเซียด้วยข้อหาการแฮ็กโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในองค์กรด้านพลังงานและการบิน ในช่วงระหว่างปี 2555 จนถึง 2561 ตามข้อกล่าวหาดังกล่าว แฮ็กเกอร์ของรัสเซียได้โจมตีคอมพิวเตอร์หลายพันเครื่องใน 135 ประเทศ หนึ่งในนั้นคือโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในรัฐแคนซัสของสหรัฐฯ และโรงผลิตปิโตรเคมีของซาอุดีอาระเบีย จนสร้างความเสียหายที่ปั่นป่วนไปทั่วโลก นอกจากนี้ จำเลยยังถูกกล่าวหาว่า ได้ติดตั้งมัลแวร์ยังกว่า 17,000 อุปกรณ์ทั่วโลก ที่มุ่งเน้นโจมตีบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โรงผลิตไฟฟ้า และแหล่งผลิตพลังงานสำคัญ ๆ อีกทั้งยังมีการผสมผสานการโจมตีด้วยวิธีการสเปียร์ฟิชชิ่งหรือการฟิชชิ่งโดยเน้นเป้าหมาย ทั้งต่อหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนทั่วโลก ทางสหราชอาณาจักรระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั่วโลกของรัสเซียเกี่ยวพันโดยตรงกับ ‘สงครามผิดกฎหมายที่ปราศจากการยั่วยุในยูเครน’ ของวลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีของรัสเซีย อย่างไรก็ดี จำเลยทั้ง 4 คนไม่ได้อยู่ในการควบคุมตัวของทั้งสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร แต่ก็มีการประกาศมอบเงินรางวัลให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสที่อยู่ของบุคคลเหล่านี้ ที่มา AP News     ที่มา : beartai / วันที่เผยแพร่ 26 มี.ค.65…