เผาวอด บก.น.5 ไหม้เกลี้ยงตึก 3 ชั้น ไฟลัดวงจรตอนดึก ผบ.ตร.สอบด่วน

Loading

    เพลิงพิโรธเผาอาคาร 3 ชั้น กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) ริมถนนสาทร วอดทั้งหลังรถเสียหาย 7 คัน ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เผยช่วงเกิดเหตุตำรวจรักษาการณ์ได้ยินเสียงคล้ายไฟฟ้าลัดวงจรที่ห้องเก็บเอกสารชั้นล่าง ก่อนจะมีแสงเพลิงลุกไหม้ ใช้ถังดับเพลิง 2 ถังสกัดไม่อยู่ ไฟลามขึ้นชั้น 2 และ 3 อย่างรวดเร็วเพราะโครงสร้างเป็นอาคารเก่าทำด้วยไม้และมีอายุมากกว่า 60 ปี ผบก.น.5 ยัน เอกสารสำคัญคดีต่างๆ ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนตึกที่เกิดเหตุรอกองโยธาฯประเมิน ขณะที่โฆษก ตร. เผย ผบ.ตร.สั่งกองโยธาฯ เร่งปรับปรุงอาคาร 9 ชั้น หลังที่เกิดเหตุเป็นที่ทำการชั่วคราว ส่วนสาเหตุ พฐ.รายงานมาจากคอมเพรสเซอร์แอร์ลัดวงจร   เหตุไฟไหม้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 4 มี.ค. ร.ต.อ.มัสโรจน์ เมฆวิเชียรเจริญ รอง สว.…

คืบหน้าเหตุระเบิดที่ ศอ.สรรพาวุธ ทบ. สารเคมีทำชนวนระเบิดรอทำลายเกิดทำงาน

Loading

  กรณีชาวบ้านแตกตื่นเสียงระเบิดใน ศอ.สรรพาวุธ ทบ. ที่ ต.หันตรา ล่าสุด สาเหตุจากสารเคมีทำชนวนวัตถุระเบิดที่ไม่ได้ใช้แล้วรอนำไปทำลายเกิดระเบิด โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ ควบคุมสถานการณ์ได้ไม่ต้องอพยพ   เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 ก.พ. 2566 กรณีเหตุระเบิดยังไม่ทราบสาเหตุ ภายในโรงงานผลิตชนวนระเบิดกองโรงงานวัตถุระเบิดศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพร้อมมีรถดับเพลิงจากหลายพื้นที่จำนวนหลายคันและรถดับเพลิงภายในกรมสรรพาวุธต่างวิ่งเข้าไปดับเพลิงภายใน โดยห้ามให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือบุคคลภายนอกเข้าไปเนื่องจากเป็นเขตของทหาร   สอบถาม เจ้าหน้าที่หญิงรายหนึ่ง เปิดเผยด้วยความตกใจเบื้องต้นว่า ขณะนั้นก่อนจะเที่ยงกำลังจะพักรับประทานอาหารและก็มีเสียงระเบิดขึ้นหลายครั้งจากนั้นก็มีกลุ่มควันตนเองจึงรีบสตาร์ตรถขับออกมาด้วยความตกใจและเป็นห่วงคนที่อยู่ข้างในส่วนสาเหตุที่ระเบิดยังไม่ทราบ แต่เสียงระเบิดนั้นเป็นดิน แต่ไม่ทราบเป็นดินอะไร     ด้านนายสาลี ทรัพย์มาก อายุ 42 ปี ควาญช้างที่เห็นเหตุการณ์และถ่ายภาพไว้ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงดังพึ่บ 2-3 ครั้ง แล้วเห็นควันสีขาวขึ้นเป็นรูปดอกเห็ด ตนกับช้างตกใจและตื่นเล็กน้อย แต่ไม่รู้อะไรระเบิด จึงถ่ายรูปไว้ เสียงดัง แต่ไม่สะเทือนมาก   ขณะที่นายมาโนช จันทร์เกตุ ผู้ใหญ่บ้าน ม.2…

โดมยักษ์มัสยิดอินโดฯ พังถล่มหลังไฟไหม้ระหว่างบูรณะซ่อมแซม

Loading

  โดมยักษ์ของมัสยิดในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย พังถล่มลงมา หลังเหตุไฟไหม้ครั้งรุนแรง เคราะห์ดี ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต   โซเชียลมีเดียแห่แชร์คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ระทึกขณะโดมยักษ์ของมัสยิดแห่งศูนย์อิสลามในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย พังถล่มลงมา หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งรุนแรง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (19 ต.ค.) สร้างความตกใจให้กับผู้อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก     เคราะห์ดี ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้แต่อย่างใด   ด้านตำรวจนครบาลจาการ์ตาเหนือ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการสอบสวนเหตุไฟไหม้ที่โดมยักษ์ของมัสยิดแห่งนี้แล้ว     เบื้องต้นคาดการณ์ว่า ต้นเพลิงเกิดจากประกายไฟระหว่างงานซ่อมบำรุงมัสยิด เนื่องจากคนงานใช้ไม้อัดในการปรับปรุงหลังคา และใช้ไฟละลายยางมะตอยชนิดม้วน เพื่อติดวัสดุมุงหลังคา   เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ประกายไฟจากเครื่องมือช่างอาจจะกระเด็นไปถูกฉนวนหลังคาใยแก้ว จนทำให้เกิดไฟไหม้รุนแรงในที่สุด และแม้ว่าคนงานจะพยายามดับไฟด้วยการใช้ถังดับเพลิง แต่เปลวไฟลุกลามเผาผลาญเป็นบริเวณกว้างอย่างรวดเร็ว จนทำให้โดมยักษ์พังถล่มลงมา   หน่วยดับเพลิง พร้อมรถดับเพลิง 9 คันระดมกำลังกันฉีดน้ำเข้าสกัดและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลาต่อมา ขณะที่ยังไม่มีการประเมินความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์ครั้งนี้     ทั้งนี้ มัสยิดดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในอาคารหลายหลังในศูนย์อิสลามจาการ์ตา และโดมของมัสยิดแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้ระหว่างการบูรณะปรับปรุง เมื่อเดือนตุลาคมปี 2002 ที่ผ่านมา ครั้งนั้นใช้เวลาในการดับไฟราว 5 ชั่วโมง  …

นักท่องเที่ยวในเมืองพัทยาพากันอพยพ​หนีตายกลางดึก หลังเกิดกลุ่มควันทั่วโรงแรมริมหาดจอมเทียน

Loading

  ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา ​- นัก​ท่องเที่ยว​นับ 100 ชีวิต พากันแตกตื่นหนีตายออกจากโรงแรมริมชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังเกิดกลุ่มควันคละคลุ้ง​ แต่สัญญาณเตือนไฟไหม้ไม่ทำงาน หวั่นซ้ำรอยโศกนาฏกรรมปี 40   เมื่อเวลา 23.00 น.วานนี้ (1 พ.ค.)​ พ.ต.ต.พิชิต ฉ่ำฮวบ สวป.สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงแรมจอมเทียน ปาล์ม บีช เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงเร่งประสานเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยทางบก เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าตรวจสอบ   โดยพบเจ้าหน้าที่ และพนักงาน รวมทั้ง​นักท่องเที่ยวที่พักอาศัยอยู่ภายในโรงแรม ซึ่งมีทั้งเด็ก คนชรา และคนพิการรวมกว่า 100 ชีวิต ได้พากันอพยพ​ออกมาอยู่ด้านนอกอาคารอย่างโกลาหล   จากการตรวจสอบพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณปล่องระบายควันภายในห้องครัว แต่ไม่พบเปลวเพลิง ขณะที่ด้านหน้าตัวอาคารโรงแรมมีนักท่องเที่ยวพากันยืนรวมตัวรอดูสถานการณ์​ด้วยความกังวล และไม่กล้ากลับเข้าไปยังห้องพัก แม้เจ้าหน้าที่จะควบคุมสถานการณ์​ไว้ได้แล้วก็ตาม     โดยนักท่องเที่ยว​บางส่วนได้พยายามสอบถามถึงสาเหตุการเกิดกลุ่มควันจากพนักงานโรงแรม รวมถึงสอบถามถึงสาเหตุ​ที่ไม่มีสัญญาณเตือนไฟ แต่ไม่ได้รับ​คำตอบอย่างใด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องตรึงกำลังเพื่อป้องกันสถานการณ์​บานปลาย…

ระทึก!! ไฟไหม้ตึกสูงระฟ้า 33 ชั้นใน “เกาหลีใต้” ไหม้ตั้งแต่เมื่อคืนมาจนถึงเช้า มีไม่ต่ำกว่า 91 คน ถูกหามส่ง รพ.

Loading

เอเจนซีส์ – เกิดเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์สูง 33 ชั้น ในเมืองอุลซาน (Ulsan) ของเกาหลีใต้ โดยเพลิงได้เริ่มต้นในเวลา 23.00 น.ของวานนี้ (8 ต.ค.) และยังคงไหม้อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเช้าวันศุกร์ (9 ต.ค.) ล่าสุด ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีจำนวน 91 คน ถูกส่งตัวโรงพยาบาล CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (9 ต.ค.) ว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงที่อาคารอพาร์ตเมนต์สูง 33 ชั้น ในเมืองอุลซาน (Ulsan) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ โดยไฟเริ่มไหม้ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวานนี้ (8 ต.ค.) และเพลิงยังคงไหม้ต่อเนื่องตลอดทั้งช่วงเช้าวันศุกร์ (9) เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ภาพข่าวแสดงให้เห็นถึงลูกไฟสีแดงฉานลามอยู่ด้านบนของอาคารและเปลวไฟโชนลุกขึ้นสู่ฟ้าที่ยังคงมืดมิด ส่วนถนนด้านล่างเต็มไปด้วยเศษซากที่ติดเขม่าดำกระจายไปทั่วท้องถนน พบว่า มีคนจำนวน 77 คน ได้รับการอพยพให้ออกมาจากอาคาร และอีกจำนวน 82 คน ถูกอพยพจากโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง อ้างอิงจากกระทรวงมหาดไทยและความปลอดภัยเกาหลีใต้ ซึ่งล่าสุดไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีจำนวน…

9 เทคนิค วิธีป้องกันไฟไหม้บ้าน ฉบับเชิงรุก รับรองไม่หมดตัวแน่!

Loading

โดย :  earlgreylady หน้าร้อนย่างกรายมาเยือนไทยอย่างเต็มรูปแบบแล้ว แถมยังเกิดเหตุเพลิงไหม้กันแทบทุกวัน จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะศึกษาเทคนิค วิธีป้องกันไฟไหม้บ้าน ฉบับเชิงรุก ในแบบคนรู้จักวางแผน ไม่ประมาทในการใช้ชีวิตกันให้ดีเสียก่อน ที่เหตุการณ์มันจะเกิด เพราะคำเล่าที่เขากล่าวขานกันมาช้านานว่า “โจรปล้นบ้าน 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้บ้านครั้งเดียว” นั้น ไม่ใช่คำพูดเล่นๆ ลอยๆ เลยค่ะ 1.ติดตั้ง เครื่องตรวจจับควัน  เครื่องตรวจจับควัน ( smoke detector ) ทำงานจากการวัดความโปร่งแสงโดยเครื่องจะมีหัวส่งแสงชึ่งอาจเป็นชนิดอินฟราเรด หรือ แบบแอลอีดีก็ได้พูดง่ายๆ คือมีแหล่งกำเนิดแสงอ้างอิง และ อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นตัวเซ็นเซอร์วัดแสง โดยในสภาวะปกติ แสงจะสามารถทะลุผ่านอากาศมายังหัวรับแสงซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น โฟโต้ทรานซิสเตอร์ แต่เมื่อมีควันหรือ ไฟไหม้ อนุภาคของควันไฟ จะบดบังทำให้เกิดสภาวะทึบหรือไม่โปร่งแสง ดังนั้นระบบก็จะสามารถบอกได้ว่าตอนนี้เกิดไฟไหม้ได้ ดังนั้น การทำงานของเครื่องจึงไม่ซับซ้อนเหมือนเครื่องวัดแก๊สรั่ว ซึ่งมีข้อดี คือ ตรวจจับไฟฟ้าได้เร็วเพราะเมื่อเกิดไฟไหม้ครั้งแรกๆ จะเกิดควันไฟก่อนหลังจากนั้นจึงจะเกิดก่ารเผาไหม้หรือติดไฟลุกลาม ดังนั้นเครื่องจะเตือนไม่เหตุหรือแจ้งเหตุได้เร็วกว่า แบบตรวจจับความร้อน Heat Detector เราจะสังเกตเห็นว่าเป็นเครื่องนี้หรือเปล่า ดูง่ายๆ จะมีหลอด…