พัสดุบึม ส่งหน้าเรือนจำอินเส่ง ในย่างกุ้ง ระเบิดรุนแรงดับ 8 ศพ เจ็บนับสิบ

Loading

  เกิดเหตุระเบิดรุนแรง บริเวณด้านหน้าเรือนจำอินเส่ง ในนครย่างกุ้ง ของเมียนมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ บาดเจ็บ 18 ราย ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลัง   สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ได้เกิดเหตุระเบิดรุนแรงบริเวณจุดรับพัสดุ ใกล้กับประตูเหล็กด้านหน้า ของเรือนจำอินเส่ง ในเมืองย่างกุ้ง ของเมียนมา แรงระเบิดส่งผลให้ตัวอาคาร กระจก ประตูหน้าต่าง ได้รับความเสียหาย พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ศพ ในจำนวนนี้เป็นญาติผู้ต้องขัง และผู้มาติดต่องาน รวมไปถึงเด็กหญิงวัย 10 ปี จำนวน 5 ศพ และเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ 3 ศพ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บ 18 ราย ในจำนวนนี้รวมไปถึงเด็กชายวัย 9 ขวบ   ด้านเว็บไซต์ข่าวอิรวดี รายงานว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตยังรวมไปถึงดอว์ จี มินต์ วัย…

บังกลาเทศไม่ใช่ศัตรู แต่ก็ไม่ใช่มิตรสำหรับพม่า

Loading

  พม่ามีพรมแดนที่ติดกับบังกลาเทศยาว 271 กิโลเมตร แม้จะเป็นพรมแดนที่สั้น เมื่อเทียบกับเขตแดนระหว่างไทยกับพม่าที่ยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร แต่บังกลาเทศก็มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพม่า โดยเฉพาะในทางภูมิรัฐศาสตร์ เพราะบังกลาเทศมีชายแดนทางตอนเหนือใกล้กับเนปาล ภูฏาน และอินเดีย และทั้งสองประเทศยังเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งอ่าวเบงกอล หรือ The Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation (BIMSTEC)   เรียกได้ว่าบังกลาเทศเป็นตัวเชื่อมระหว่างอาเซียนทั้งภูมิภาคกับเอเชียใต้ทั้งหมด และที่ผ่านมาบังกลาเทศก็พยายามเข้าหาพม่า อาเซียน และจีนมากขึ้น เพราะต้องการลดการพึ่งพาอินเดียลง เรียกว่าความสัมพันธ์ระหว่างพม่ากับบังกลาเทศเรียบง่าย ไม่หวือหวา ในส่วนของพม่า ต้องยอมรับว่าพม่าไม่ได้มองว่าบังกลาเทศมีความสำคัญสำหรับตนมากนัก ด้วยบังกลาเทศเป็นเพียงประเทศที่มีขนาดเล็ก เป็นประเทศกำลังพัฒนา และไม่ได้มีทรัพยากรที่พม่าต้องการเป็นพิเศษ และที่สำคัญเป็นประเทศของคน “เบงกาลี” (Bengali) ที่ถูกมองโดยสังคมพม่าพุทธว่าเป็นทั้งคนต่างชาติต่างศาสนา และยังเป็นแหล่งส่งออกประชากรชาวโรฮีนจา (คนพม่าจำนวนมากยังเรียกชาวโรฮีนจาว่า “เบงกาลี” เพราะเชื่อว่าเป็นผู้อพยพมาจากบังกลาเทศ ไม่ใช่ประชากรที่อยู่ในรัฐยะไข่มาแต่เดิม) ทำให้ทัศนคติของพม่าที่มีต่อบังกลาเทศไม่ค่อยดีนัก   ในวันที่ 4 กันยายน รัฐบาลบังกลาเทศเรียก…

เมียนมาจับกุมอดีตทูตอังกฤษ ฐานผิดกฎหมายคนเข้าเมือง

Loading

Vicky Bowman (MCRB) ทางการเมียนมาจับกุมอดีตทูตอังกฤษพร้อมสามี ซึ่งเป็นศิลปินและอดีตนักโทษทางการเมือง เข้าเรือนจำอินเส่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามรายงานของรอยเตอร์และอัลจาซีราห์ สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างแถลงการณ์ของรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ทางการเมียนมาอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า วิคกี โบว์แมน (Vicky Bowman) อดีตเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเมียนมา ละเมิดกฎหมายคนเข้าเมืองหรือไม่ หลังมีรายงานข่าวการจับกุมอดีตทูตโบแมนและสามี เตียน ลิน (Htein Lin) ผู้เป็นศิลปินและอดีตนักโทษการเมืองเมื่อวันพุธ สื่อต่างประเทศหลายสำนักรวมทั้งเอเอฟพีและรอยเตอร์ ในรายงานตรงกันว่า วิคกี โบว์แมน ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหาร Myanmar Centre for Responsible Business (MCRB) ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายคนเข้าเมือง หลังจากถูกจับกุมโดยทางเมียนมาที่นครย่างกุ้ง ขณะที่โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาไม่ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมกับรอยเตอร์ในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้ โบว์แมน วัย 56 ปี ปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเมียนมา เมื่อปี 2002-2006 และมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในเมียนมามากกว่า 30 ปี ส่วนสามีเตียน ลิน วัย 55 ปี เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีชื่อเสียงในเมียนมา และยังเป็นอดีตนักโทษการเมือง ซึ่งถูกจำคุกกว่า 6…

สถานทูตสหรัฐในเมียนมาเตือนคนระวัง หวั่นเหตุโจมตีทหาร-ลอบสังหาร-วางระเบิด

Loading

(แฟ้มภาพ) AFP   สถานทูตสหรัฐในเมียนมาเตือนคนระวัง หวั่นเหตุโจมตีทหาร-ลอบสังหาร-วางระเบิด   สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในนครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ออกประกาศเตือนความปลอดภัยพลเมืองสหรัฐในเมียนมาว่า สถานทูตตระหนักถึงข้อความที่โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ที่เรียกร้องให้มีการใช้ความรุนแรงต่อระบบปกครองของทหารทั่วเมียนมา โดยเฉพาะในนครย่างกุ้ง   สถานทูตได้แนะนำอย่างยิ่งให้อยู่ห่างจากกองกำลังรักษาความปลอดภัย และเตรียมพร้อมสำหรับการลอบสังหาร รวมถึงการโจมตีด้วยระเบิดต่อกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลทหารรวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แม้จะไม่มีภัยคุกคามเป็นการเฉพาะต่อชาวต่างชาติ แต่ความกังวลหลักมาจากภัยคุกคามของการอยู่ผิดที่ผิดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการเรียกร้องให้ใช้ความรุนแรงจากกองกำลังป้องกันประชาชน (พีดีเอฟ) ที่กระจายอยู่ทั่วเมือง   การตอบโต้อย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารต่อการโจมตี การเดินขบวน หรือการคุกคามอื่นๆ ต่ออำนาจรัฐ ทำให้ทุกคนต้องระมัดระวังในสภาพแวดล้อม และพิจารณาการเคลื่อนไหวต่างๆ ทั่วนครย่างกุ้ง ทุกคนต้องตระหนักว่าการโจมตีสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา และยังต้องตระหนักว่าอาจเกิดปัญหาการสื่อสารขัดข้องขึ้นได้   พร้อมกันนี้ยังแนะนำให้เตรียมอาหาร น้ำ และยาสำหรับเวลา 7 วัน ในกรณีที่มีการประกาศล็อกดาวน์ หรือในกรณีที่การเดินทางไปทั่วเมืองอาจเป็นอันตรายเกินไป และต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมด้านความปลอดภัย รวมถึงความสามารถในการสื่อสารของตนเอง   สถานทูตสหรัฐยังขอให้พลเมืองของตนในเมียนมาติดตามข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงโซเชียลมีเดียอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารเดินทางสามารถใช้งานได้และเข้าถึงได้ง่าย ตรวจสอบแผนการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคลของตนเอง และเตรียมแผนฉุกเฉินซึ่งไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐบาลไว้เสมอ ให้เข้ารับวัคซีนโควิดเพื่อความสะดวกในการเดินทาง และให้ติดตามข้อมูลที่กระทรวงต่างประเทศแนะนำว่าสิ่งใดที่ทำได้และทำไม่ได้ในภาวะวิกฤต     ————————————————————————————————————————- ที่มา :    มติชนออนไลน์ …

เมียนมา ติดกล้องวงจรปิดตรวจจับใบหน้า สอดส่อง ปชช.ทั่วประเทศ

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด 3 ราย ระบุว่า รัฐบาลเมียนมา กำลังเดินหน้าโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจจับใบหน้าคนได้ในหลายเมืองทั่วประเทศ   แหล่งข่าวใกล้ชิดการยื่นประมูลเพื่อจัดซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัยที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าของรัฐบาลเมียนมาระบุว่า โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการเมืองปลอดภัยที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาความปลอดภัย และในบางกรณีก็ใช้ในการคงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง   รายงานระบุว่า โครงการดังกล่าวเป็นการติดตั้งกล้องเพิ่มเติมจากโครงการของรัฐบาลชุดเดิมที่มีการติดตั้งและวางแผนติดตั้งใน 5 เมืองไปแล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่ารัฐบาลทหารเมียนมาวางแผนที่จะติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดดังกล่าวใน 7 รัฐ และ 7 เขตปกครองทั่วประเทศ   รายงานระบุว่า บริษัทผู้ชนะการประมูลมีอยู่หลายบริษัทที่เป็นบริษัทท้องถิ่น ในจำนวนนั้นเป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีจาก “เจ้อเจียง ต้าหัว เทคโนโลยี” และ “หัวเว่ย เทคโนโลยี่” บริษัทด้านรักษาความปลอดภัยยักษ์ใหญ่ของจีน   ทั้งนี้ เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดที่มีระบบตรวจจับใบหน้านั้น แม้จะเริ่มมีใช้ในหลายประเทศ แต่โครงการในเมียนมานั้นก็ส่งผลให้เกิดความกังวลเช่นกันว่าเทคโนโลยีจะถูกนำไปใช้ในการกวาดล้างนักเคลื่อนไหวและกลุ่มต่อต้านที่ฝั่งรัฐบาลทหารกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย หลังเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐประหารเป็นต้นมา       ————————————————————————————————————————- ที่มา :     มติชนออนไลน์           …

เข้มแผนเผชิญเหตุรร.ชายแดน หลังเครื่องบินรบพม่า ‘ล้ำน่านฟ้าไทย’

Loading

  เลขาธิการ กพฐ. เข้มแผนเผชิญเหตุโรงเรียนตามเขตแนวชายแดน หลังเครื่องบินรบเมียนมาล้ำน่านฟ้าประเทศไทย เผย ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงในโรงเรียน   จากกรณีกองทัพเมียนมาส่งเครื่องบินรบ MiG-29 จำนวน 1 ลำ บินรุกล้ำเข้ามายังน่านฟ้าไทย บริเวณชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก เพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ฝ่ายต่อต้านในฝั่งเมียนมา ประมาณ 4 รอบ ส่งผลให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนฉุกเฉินนั้น   เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงจนต้องส่งผลกระทบนักเรียนและครู และยังมีความปลอดภัยทุกคน โดยคิดว่าภาพรวมการดูแลรักษาความปลอดภัยจะอยู่ที่กระบวนการของเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ แต่ในส่วนของสถานศึกษาโดยรอบเขตชายแดนตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเข้าไปกำกับดูแลนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาแล้ว รวมถึงมีแผนเผชิญเหตุไว้อย่างรัดกุม   เพราะสถานศึกษาที่ตั้งอยู่เขตชายแดนจะมีมาตรการเฝ้าระวังเหตุ เช่น การจัดทำหลุมหลบภัย เป็นต้น หรือหากได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยงานทหารในพื้นที่ให้รู้ล่วงหน้าก่อนโรงเรียนก็จะประกาศหยุดการเรียนการสอน   เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของนักเรียน และได้รับทราบว่าโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบวางมาตการแผนเผชิญเหตุไว้เป็นอย่างดี สำหรับโรงเรียนบริเวณตามตะเข็บแนวชายแดนเมียนมามีหลายแห่ง   ซึ่งจากการติดตามข้อมูลในขณะนี้ ยังไม่มีประเด็นอะไรที่น่ากังวลใจ…