เปลี่ยนด่วน! เราเตอร์ D-Link รุ่นเก่ามีช่องโหว่ที่จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือโจมตีคนอื่น
Fortinet เผยว่า เราเตอร์ของแบรนด์ D-Link รุ่น DIR-645 มีช่องโหว่ที่จะถูกนำไปใช้เป็นบอตเน็ตเพื่อโจมตีอุปกรณ์หรือโครงข่ายอื่น ๆ ได้ง่าย
Fortinet เผยว่า เราเตอร์ของแบรนด์ D-Link รุ่น DIR-645 มีช่องโหว่ที่จะถูกนำไปใช้เป็นบอตเน็ตเพื่อโจมตีอุปกรณ์หรือโครงข่ายอื่น ๆ ได้ง่าย
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ (FBI) กล่าวว่า “แฮ็กเกอร์ของจีนกำลังเล็งโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะสร้างความเสียหายและก่อให้เกิดอันตรายในโลกแห่งความเป็นจริงต่อพลเมืองและชุมชนอเมริกัน
สมัยนี้อะไร ๆ ก็ดูจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ตั้งทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะแต่คอมพิวเตอร์ เราเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ และสมาร์ตโฟน แต่รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้อย่าง ตู้เย็น หม้อหุงข้าว ไปจนถึงมีดโกนหนวด ผลการศึกษาของ Transforma Insights ชี้ว่าภายในปี 2030 น่าจะมีอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตรวมกันถึง 24,100 ล้านอุปกรณ์ แต่รู้หรือไม่ว่าขึ้นชื่อว่าเชื่อมเน็ตแล้ว ย่อมเป็นช่องทางในการเข้าออกของผู้ที่ไม่หวังดีได้ทั้งหมด เครื่องซักผ้าก็ถูกแฮ็กได้ @Johnnie ผู้ใช้งานรายหนึ่งบน X ออกมาโพสต์แสดงตั้งคำถามว่าเครื่องซักผ้าแบรนด์ดัง อยู่ดี ๆ ก็ใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตถึงวันละ 3.6 จิกะไบต์ ส่วนใหญ่เป็นการอัปโหลดขึ้นในบนเครือข่ายถึง 3.57 จิกะไบต์ ขณะที่ดาวน์โหลดเพียง 100 เมกะไบต์เท่านั้น ตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไรแน่ ตั้งแต่ข่าวที่ผู้ผลิตแบรนด์ดังกล่าวบอกว่าจะใช้ข้อมูลจากเครื่องใช้ไฟฟ้าของลูกค้าไปสร้างซอฟต์แวร์ AI (แต่เฉพาะเมื่อได้รับอนุญาตเท่านั้น) ข้อมูลจากเราเตอร์จะผิดพลาด หรือแม้แต่มีคนแอบเอาเครื่องซักผ้าไปขุดคริปโท ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ความกังวลมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการความเสี่ยงที่เครื่องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าของบ้านเราจะถูกแฮ็ก…
สำนักงานความมั่นคงสาธารณะ (PSB) ในสังกัดสำนักงานตำรวจโตเกียว (TMPD) ของญี่ปุ่นออกมาเตือนประชาชนให้ระวังว่าเราเตอร์ที่ติดตั้งอยู่ในที่อยู่อาศัยจะถูกนำไปใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ PSB ชี้ว่ารูปแบบการโจมตีที่ว่านี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2020 โดยในปี 2022 เกิดเหตุการณ์ที่มีอาชญากรไซเบอร์แอบเข้ามาเปลี่ยนการตั้งค่าโดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว เพื่อโจมตีบริษัทที่เจ้าของเราเตอร์ทำงานอยู่ 2 ระบบสำคัญของเราเตอร์ที่เอื้อให้แฮ็กเกอร์เข้ามาอาศัยเป็นช่องทางทำมาหากินได้คือ VPN (Virtual Private Network) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงระบบของบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่โดยไม่ต้องอยู่ที่ทำงานได้ และ DDNS (Dynamic DNS) ที่มักใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) หรืออุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมกับอินเทอร์เน็ต การเข้าไปเปลี่ยนการตั้งค่าใน VPN และ DDNS จะทำให้แฮ็กเกอร์สามารถใช้เครือข่ายที่เราเตอร์เชื่อมต่ออยู่ในการโจมตีทางไซเบอร์ เจ้าหน้าที่ชี้ว่าผู้ใช้งานจำนวนมากไม่เข้าใจวิธีการทำงานและการตั้งค่าของระบบต่าง ๆ ภายในเราเตอร์ ทำให้ไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น วิธีการป้องกันไม่ใช่เฉพาะการเปลี่ยนรหัสผ่าน และ ID เท่านั้น แต่ต้องเปลี่ยนการตั้งค่าหรือรีเซตกลับไปเป็นการตั้งค่าโรงงานด้วย ไม่เช่นนั้นก็มีโอกาสที่อาชญากรจะมาแอบใช้เราเตอร์ต่อไป โดยต้องศึกษาคู่มือและเว็บไซต์ของผู้ผลิตเราเตอร์เพื่อให้รู้ว่ามีการเปิดใช้งาน VPN และ DDNS…
เชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะ ระวังตกเป็นเหยื่อของมัลแวร์ Kaspersky บริษัทซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส เผยข่าวร้ายเมื่อตรวจพบว่ามีเราเตอร์ Wi-Fi ถูกโจมตีโดยมัลแวร์ พยายามเจาะข้อมูลบนอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android มัลแวร์ที่ถูกค้นพบจากเราเตอร์มีชื่อว่า Wroba.o/Agent.eq (a.k.a Moqhao, XLoader) จะฝังอยู่ในเราเตอร์สาธารณะในคาเฟ่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่มีมัลแวร์ฝังอยู่มันจะเด้งเข้าเว็บไซต์ที่เป็นยอดนิยม เพื่อเน้นความรวดเร็วทำให้เหยื่อนั้นไม่ได้ทันสังเกต มันเป็นเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขโมยข้อมูลและรหัสโดยเฉพาะ เมื่อเราทำการล็อคอินหรือลงชื่อเข้าใช้ มัลแวร์ก็จะสามารถเอาข้อมูลที่แท้จริงของเรา เพื่อเข้าไปแฮกข้อมูลในแอปต่าง ๆ เพราะคนส่วนใหญ่จะใช้รหัสแบบเดียวกันนั้นเอง นักวิจัยเผยอีกว่ามีผู้เสียหายมากถึง 46,000 คนในญี่ปุ่น ออสเตรีย ฝรั่งเศส เยอรมนี เกาหลีใต้ ตุรกี มาเลเซีย และอินเดีย โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แนวทางการแก้ไขคือ หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อกับบัญชีหรือแอปยอดนิยมที่ต้องใช้รหัสผ่านบนเครือข่าย Wi-Fi สาธารณะ หรือสังเกตให้ดีก่อน หรือไม่ก็ใช้แอปที่มากับตัวเครื่องเท่านั้น …
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว