ผู้นำญี่ปุ่นและอินโดนีเซียเห็นพ้องจะส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยของสองประเทศ

Loading

  นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ แห่งญี่ปุ่น และประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย เห็นพ้องจะจัดการประชุมระหว่างรัฐมนตรีด้านต่างประเทศและด้านการป้องกันของทั้งสองประเทศที่กรุงจาการ์ตา นครหลวงของอินโดนีเซียภายในปลายปีนี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัย ผู้นำทั้งสองพบหารือกันที่พระราชวังโบกอร์เมื่อช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม ในคำกล่าวที่เหมือนจะอ้างถึงกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นของจีนในทะเลจีนใต้ ผู้นำทั้งสองยืนยันอีกครั้งถึงความสำคัญของหลักนิติธรรมและการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี นายอะเบะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะช่วยเหลืออินโดนีเซียพัฒนาหมู่เกาะนาตูนาในทะเลจีนใต้และว่าตนจะเร่งการเจรจากับอินโดนีเซียเรื่องความตกลงที่จะส่งเสริมการขนส่งอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้านการป้องกัน อีกทั้งยังเสนอที่จะเพิ่มการสนับสนุนด้านสาธารณูปโภคในอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงเส้นทางรถไฟความเร็วสูง การเพิ่มขีดความสามารถการลาดตระเวนทางทะเล และมาตรการต่อต้านการก่อการร้าย ที่มา : NHK WORLD ลิงค์ : https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/201701162045_th_02/

‘ก่อการร้ายใหม่’ เติบโตและก่อการในบ้านเกิด!

Loading

คอลัมน์ : โลกใบใหม่ อภิชาต ทองอยู่      การขยายตัวตามภารกิจก่อการร้ายใหม่ที่มีพัฒนาการเติบโตขึ้น และก่อการร้ายในบ้านเกิดเป็นการก่อการร้ายที่น่าประ หวั่นพรั่นพรึงยิ่ง โดยเฉพาะหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันในยุโรป อันมีมูลเหตุจากการอพยพย้ายถิ่นของอิสลามิกชน รอบๆ ยุโรป ที่อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานขยายประชากรในช่วงความสับสนของโลกที่ผ่านมา!      เหตุก่อการร้ายสายพันธุ์ใหม่ มีสาเหตุหนึ่งมาจากการขยายตัวของประชากรมุสลิมในยุโรป ที่อพยพเข้าไปอยู่สร้างครอบครัวและขยายตัวเติบโตขึ้นเป็นอิสลามิกชนในยุโรป ที่วันนี้มีบทบาททางสังคมการเมืองและกฎหมายในฐานะพลเมืองของยุโรป! สถานการณ์ด้านประชากรนี้สร้างความตื่นตระหนกให้สังคมยุโรปโดยรวมอย่างยิ่ง! เพราะหน่วยข่าวกรองของยุโรปพบว่า การก่อการร้ายสายพันธุ์ใหม่ในประเทศต่างๆ ในยุโรปนั้น เกิดขึ้นจากพลเมือง คนใน ของแต่ละประเทศเอง ไม่ว่าที่ฝรั่งเศส อังกฤษ สวีเดน เยอรมัน อิตาลี ฯลฯ คนกลุ่มนี้ได้มอบกายใจให้กับกลุ่มผู้บงการหัวรุนแรง! ทำให้คนที่เคยเป็นคนเล็กๆ ที่เกิดและเติบโตขึ้นมาในแต่ละถิ่นย่านของยุโรปแปรสภาพเป็นผู้ก่อการร้ายที่ช่วยเพิ่มอำนาจความรุนแรงให้กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ในฐานะผู้ปฏิบัติการตอบโต้ลัทธิตะวันตก ที่พร้อมจะเปลี่ยนทุกสถานที่/ทุกเทศกาลให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมไปโดยพริบตา ขึ้นอยู่กับเวลา โอกาส และสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยเท่านั้น เป็นการลงทุนที่ได้ผลของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในสังคมยุคใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก      เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีโอกาสไปสังเกตการณ์ที่อิตาลีในเมืองสำคัญอย่าง โรม วาติกันฟลอเรนซ์ เวนิซ และมิลาน สัมผัสเห็นได้ชัดว่าความสงบสุขร่าเริงมีชีวิตชีวาของอิตาลี โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ๆ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและเมืองการค้านั้นเปลี่ยนไป ทุกแห่งมีมาตรการตรวจตราเฝ้าระวังเข้มข้น มีตำรวจ…

กรณีเครื่องบินของโซมาเลีย พบชิ้นส่วนที่คาดว่าจะเป็นระเบิดแต่ยังไม่สามารถยืนยันได้

Loading

     รายงานข่าวจากดูไบ สหรัฐอาหรับ เมื่อ 4 ก.พ.59 แจ้งถึงกรณีเกิดการระเบิดในเครื่องบินของสายการบิน Daallo ขณะทำการบินขึ้นจากท่าอากาศยานที่กรุงโมกาดิสชู โซมาเลีย ว่าพบสิ่งที่อาจเป็นชิ้นส่วนของระเบิด แต่ไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นวัตถุระเบิด     ภายหลังการหารือของคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ รองนายกรัฐมนตรีโซมาเลีย แถลงว่า มาตรการการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานที่โมกาดิสชูมีความรัดกุมเพียงพอที่จะต่อต้านการคุกคาม จำนวนผู้โดยสารมี 70 คนจากทั้งหมด 74 คนโอนตั๋วโดยสารมาจากสายการบินตุรกีที่ระงับการบินไป 2 เที่ยว เนื่องจากสภาพอากาศไม่พร้อมบิน แต่ทางสายการบิน Daallo อ้างว่า ทางตุรกีได้รับข้อมูลแจ้งเตือนล่วงหน้า ——————————– ที่มา : Standard-Times / Feb 4, 2016

ระเบิดกลางกรุงจาการ์ตา มีผู้เสียชีวิต 4ราย

Loading

มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 คน หลังจากเกิดเหตุระเบิดขึ้นต่อเนื่องใจกลางกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เช้านี้ โดยผู้สื่อข่าวระบุว่ามีเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิดเหตุระเบิด แต่ขณะนี้ยังไม่มีการชี้ชัดว่ากลุ่มใดเป็นผู้ลงมือ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุยังไม่พบคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสีย ชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สถานทูตไทยในกรุงจาการ์ตาเผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจเตือนคนไทยให้อยู่ในที่พักและหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็น สำหรับเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงสาย ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้า ซารินาห์ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีและสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ผู้สื่อข่าวของบีบีซีในกรุงจาการ์ตาระบุว่ามีการยิงโต้ตอบกันระหว่างผู้ก่อ เหตุและเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเข้าประจำการในบริเวณดังกล่าวหลายร้อยนายรวมมือ ปืนซุ่มยิง อินโดนีเซียเผชิญกับเหตุโจมตีจากกลุ่มกองกำลังอิสลามมาหลายครั้ง และล่าสุดนี้ได้เฝ้าระวังอย่างสูงต่อเหตุก่อการร้ายโดยกลุ่มที่เรียกว่ารัฐ อิสลาม หรือไอเอส แม้จะยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบจากเหตุที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีรายงานว่าช่วง 2-3 ที่ผ่านมา มีชาวอินโดนีเซียราว 150-200 คนเดินทางไปซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส และเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งตำรวจคิดว่ากลุ่มเหล่านี้อาจเตรียมการก่อเหตุในอินโดนีเซีย ที่มา บีบีซีไทย – BBC Thai  14 มกราคม 2559

ฟิลิปปินส์เริ่มเทศกาลฉลองพระเยซูดำ ที่กรุงมะนิลา

Loading

     ฟิลิปปินส์เริ่มเทศกาลฉลองพระเยซูดำ (The Procession of the Black Nazarene) เมื่อ 9 ม.ค.59 ที่กรุงมะนิลา มีประชาชนเข้าร่วมขบวนแห่กว่าหนึ่งล้านคน      ทางการฟิลิปปินส์เตรียมการรักษาความปลอดภัยอย่างกวดขันตลอดระยะทางที่ทำพิธีฉลองครั้งนี้ ประกอบด้วยตำรวจและทหารดูแลความปลอดภัย 5,000 นาย และตามริมฝั่งแม่น้ำสายหลักของกรุงมะนิลา จัดหน่วยกู้ชีพและตำรวจเฝ้าระวังเหตุ      นอกจากนี้ ยังเตรียมพลแม่นปืน สุนัขดมกลิ่น และหน่วย SWAT ประจำการตามจุดเสี่ยงภัย พร้อมกับใช้เครื่อง Drone บินสังเกตการณ์ตลอดขบวนแห่ และยังทำการสุ่มตรวจอาวุธ พลุ หรือสิ่งต้องห้ามตามสัมภาระติดตัวของผู้เข้าร่วมขบวนแห่อีกด้วย      ถึงแม้ทางการฟิลิปปินส์จัยังไม่ได้รับการขู่คุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายก็ตาม แต่เหตุที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดเช่นนี้ เพื่อป้องปรามนับแต่เกิดกรณีโจมตีกรุงปารีส เพราะขณะนี้ฟิลิปปินส์ยังเผชิญกับปัญหาจากทั้งกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มมุสลิมทางตอนใต้ที่ต่อต้านรัฐบาล ที่มา : The Washington Post วันที่ 9 มกราคม 2558 Link : https://www.washingtonpost.com/world/asia_pacific/huge-catholic-parade-held-under-heavy-security-in-manila/2016/01/09/86505498-b6a8-11e5-8abc-d09392edc612_story.html

สถานทูตสหรัฐในอินโดนีเซียเตือนภัยก่อการร้ายช่วงวันหยุดปีใหม่

Loading

     สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียได้เตือนผู้คนถึงความเสี่ยงที่อาจมีภัยคุกคามความปลอดภัยในการเฉลิมฉลองช่วงปีใหม่นี้ที่เกาะลอมบอก เกาะหนึ่งตอนกลางของอินโดนีเซีย      สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐเผยแพร่ข้อความเตือนภัยฉุกเฉินบนหน้าเว็บไซต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม ซึ่งระบุให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังเวลาอยู่ในที่สาธารณะ โดยยกตัวอย่างชายหาดเซงกิกิซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งบนเกาะ แต่ข้อความไม่ได้ระบุรายละเอียด      สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำอินโดนีเซียก็ได้เรียกร้องเช่นกันให้นักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัยชาวญี่ปุ่นที่นั่นเฝ้าระวัง ทั้งนี้ เกาะลอมบอกซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเกาะบาหลีเป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ในฐานะเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ      เมื่อเดือนธันวาคม ทางการอินโดนีเซียได้จับกุมผู้สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามกว่า 10 คน เนื่องจากสงสัยว่าวางแผนก่อเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงจาการ์ตาและที่อื่น ๆ      มีการประจำการเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารราว 150,000 นายในอินโดนีเซียเพื่อเสริมการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้นในช่วงวันหยุด ที่มา : NHK WORLD News, วันที่ 1 มกราคม 2558 เวลา 18:53 น. Link : http://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/201601012045_th_07/