งานเข้า! “พันโทไทเป” โดนสายลับปักกิ่งสั่งให้ขโมย ฮ.ชีนุกลำเลียงเมดอิน USA บินลง “เรือบรรทุกเครื่องบินจีน” ลอยลำรอในช่องแคบไต้หวัน ส่งลูกเมียซุกเข้า “ไทย”

Loading

“ไทย” กลายเป็นประเทศกลางมีชื่อโผล่ให้ครอบครัวทหารไต้หวันแปรพักตร์เข้ามาหลบหลังจาก พันโทเช (Lieutenant Colonel Hsieh) ที่ได้รับการติดต่อจากสายลับจีนวางแผนให้แอบบินเฮลิคอปเตอร์ CH-47 ชีนุก (CH-47 Chinook) จากกองทัพไต้หวันเข้าไปสวามิภักดิ์กับปักกิ่งด้วยเงินรางวัลล่อใจก้อนโต 15 ล้านดอลลาร์

ยูเครนตกรางวัลอย่างงาม นักบินรัสเซียแปรพักตร์พร้อมขับ ฮ. มามอบให้

Loading

ยูเครนเตรียมมอบเงินรางวัล 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17.9 ล้านบาท) ให้กับ แม็กซิม คุซมินอฟ นักบินเฮลิคอปเตอร์กองทัพรัสเซียวัย 28 ปี ซึ่งตัดสินใจแปรพักตร์มายังยูเครน โดยตอนที่หนี ได้ขับเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ของกองทัพรัสเซียมามอบให้ยูเครนด้วย

เกาหลีเหนืออ้างทหารอเมริกันแปรพักตร์ เพราะถูกเหยียดสีผิวในกองทัพ

Loading

  สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า ทหารอเมริกันแปรพักตร์มาเกาหลีเหนือ เพราะต้องการหนีจากการถูกปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม และการถูกเหยียดสีผิวในกองทัพสหรัฐฯ   เกาหลีเหนือยืนยันว่า สาเหตุที่ทหารสหรัฐฯ หนีเข้าไปในเกาหลีเหนือเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากเผชิญความไม่เท่าเทียมในสังคมอเมริกันและการเหยียดผิวในกองทัพ การเปิดเผยครั้งนี้ นับเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับการกักขัง พลทหาร ทราวิส คิง ซึ่งหนีเข้าไปยังเกาหลีเหนือ ขณะเข้าไปปะปนกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวเขตปลอดทหาร เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม เขากลายเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกควบคุมตัวในเกาหลีเหนือในรอบเกือบ 5 ปี   สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการของเกาหลีเหนือ กล่าวว่า คิงบอกกับเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า เขาตัดสินใจเดินทางเข้าเกาหลีเหนือเพราะเขา “เก็บงำความรู้สึกไม่ดีต่อการปฏิบัติทารุณต่อมนุษย์และการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติภายในกองทัพสหรัฐฯ”   คิงยังแสดงความเต็มใจที่จะลี้ภัยในเกาหลีเหนือหรือประเทศที่สาม โดยกล่าวว่าเขา “ไม่แยแสต่อสังคมอเมริกันที่ไม่เท่าเทียมกัน”   ครอบครัวของคิงเคยให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า คิงเคยบอกกับพวกเขาว่า เขาเผชิญประสบการณ์การเหยียดเชื้อชาติในกองทัพ พวกเขายังกล่าวอีกว่าสุขภาพจิตของเขาดูเหมือนจะแย่ลงก่อนที่เขาจะหายตัวไป   อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของความคิดเห็นของคิง ที่รายงานในสื่อของเกาหลีเหนือ โดยสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และประเทศอื่น ๆ กล่าวหาเกาหลีเหนือว่าใช้ผู้ถูกคุมขังต่างชาติเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการทูต ผู้ถูกคุมขังชาวต่างชาติบางคนกล่าวหลังจากได้รับการปล่อยตัวว่า การประกาศความผิดของพวกเขาขณะอยู่ในการควบคุมตัวของเกาหลีเหนือนั้นอยู่ภายใต้การบังคับขู่เข็ญ   ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า นี่คือโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ 100%…

ชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ส่งใบปลิวข้ามแดน แม้มีกฎหมายห้าม

Loading

  กลุ่มชาวเกาหลีเหนือซึ่งลี้ภัยมายังเกาหลีใต้ ปล่อยบอลลูนบรรจุใบปลิวต่อต้านรัฐบาลเปียงยางราว 500,000 ใบลอยข้ามแดน ทั้งที่เกาหลีใต้เพิ่งออกกฎหมายห้าม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ว่านายปาร์ค ซัง-ฮัก ชาวเกาหลีเหนือซึ่งลี้ภัยเข้ามาในเกาหลีใต้ เมื่อปี 2543 ปัจจุบันเป็นผู้นำองค์กรอิสระ “ฟรี ฟอร์ นอร์ท โคเรีย” กล่าวเมื่อวันศุกร์ ว่าได้ทำการส่งบอลลูน 10  ใบ บรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาลเปียงยาง รวมประมาณ 500,000 ใบ และสิ่งของอีกหลายอย่างรวมถึงเงิน ให้ลอยข้ามพรมแดนไปยังเกาหลีเหนือ ระหว่างวันอาทิตย์ที่แล้ว ถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการ ต่อการประกาศของกลุ่มฟรี ฟอร์ นอร์ท โคเรีย อย่างไรก็ตาม หากกิจกรรมดังกล่าวเป็นความจริง จะเป็นกรณีแรกที่เป็นการละเมิดกฎหมายที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติของเกาหลีใต้บัญญัติขึ้น เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมจากกฎหมายพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลี โดยส่วนที่เพิ่มเติม คือการห้ามส่งสิ่งพิมพ์ ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด และเงินตรา ข้ามพรมแดนบริเวณเขตปลอดทหาร หากไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากรัฐบาลกลาง ในกรุงโซล   YTN news  …

อดีตทูตโสมแดงประจำคูเวต เล่านาทีแปรพักตร์ “คิม” พาครอบครัวไปเกาหลีใต้

Loading

  อดีตทูตโสมแดงประจำคูเวต – วันที่ 1 ก.พ. ซีเอ็นเอ็น สัมภาษณ์พิเศษ นายรยู ฮย็อน-อู อดีตเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำคูเวต ถึงการแปรพักตร์จากระบอบเผด็จการบ้านเกิด เพื่อให้ลูกสาวตัวเองมีชีวิตดีขึ้น     แม้ว่านายรยูจะแปรพักตร์มาเกาหลีใต้เมื่อ 1 ปีที่แล้ว แต่ยังกลัวว่า สมาชิกครอบครัวที่อยู่ในเกาหลีเหนืออาจถูกลงโทษอย่างโหดร้ายเพราะการแปรพักตร์ของตัวเอง นายรยูย้อนกลับไปช่วงเวลาก่อนแปรพักตร์ว่า ตนและภรรยาไม่ได้บอกลูกสาวแผนการหลบหนีที่เก็บเป็นความลับ โดยแกล้งทำเป็นพาลูกสาวไปโรงเรียน ก่อนบอกลูกสาวกลางทางว่า “มากับแม่และพ่อเพื่อค้นหาอิสรภาพเถอะนะ”     นายรยูและครอบครัวแสดงตัวที่สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำคูเวต และเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ไม่กี่วันหลังจากนั้น ทุกวันนี้ลูกสาวอดีตทูตเบอร์หนึ่งพอใจกับชีวิตใหม่ และรู้สึกยินดีที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้มากตามต้องการ อย่างไรก็ตาม นายรยูบอกว่า พี่น้องอีก 3 คน และคุณแม่วัย 83 ปี ที่อยู่ในเกาหลีเหนือ อาจเผชิญผลกรรมโหดร้ายจากระบอบตระกูลคิม ซึ่งไม่ยินยอมให้พลเมืองแปรพักตร์ “ความคิดที่ว่าครอบครัวผมที่นั่นถูกลงโทษในสิ่งที่ผมทำลงไปทำร้ายจิตใจผมเหลือเกิน”     นอกจากนี้ ในฐานะเอกอัครราชทูต นายรยูได้รับคำสั่งทำเป้ารายได้จากแรงงานเกาหลีเหนือหลายพันคนที่ถูกส่งมาทำงานในที่คูเวต เพื่อส่งกลับไปสนับสนุนเผด็จการที่บ้านเกิด ส่วนการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือจะดำเนินต่อไป และสิทธิมนุษย์ชนยังเป็นประเด็นอ่อนไหวและจริงจัง อดีตเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือผู้นี้เตือนด้วยว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ…