ผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นชี้ การใช้โดรนสังหารพล.อ.โซไลมานี “ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ”

Loading

REUTERS/Aziz Taher/File Photo สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยการสอบสวนเหตุการณ์ที่สหรัฐใช้โดรนโจมตีในอิรักและสังหารพล.อ.คาเซม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองทัพพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน และพรรคพวกอีก 9 คน ว่า เป็นการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ นางอักเนส์ คาญามาร์ ผู้เสนอรายงานการประชุมพิเศษของยูเอ็น ว่าด้วยการสังหารอย่างไม่เคารพกฎหมาย การประหารชีวิตอย่างรวดรัด หรือประหารตามอำเภอใจ ระบุว่า สหรัฐอเมริกาไม่สามารถหาหลักฐานที่เพียงพอเกี่ยวกับการโจมตีอย่างต่อเนื่องหรืออย่างจวนเจียนต่อผลประโยชน์ของตัวเอง เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตีขบวนรถของพล.อ.โซไลมานี ขณะออกจากสนามบินในกรุงแบกแดด และว่า การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการละเมิดต่อกฎบัตรของยูเอ็น โดยคาญามาร์ ได้เขียนในรายงานเรียกร้องให้มีการออกมารับผิดชอบการต่อการสังหารโดยใช้โดรนเป็นอาวุธและเรียกร้องให้มีกฎบังคับเกี่ยวกับอาวุธที่เข้มงวดขึ้น คาญามาร์ ผู้สอบสวนอิสระ บอกกับรอยเตอร์ด้วยว่า ตอนนี้โลกอยู่ในช่วงวิกฤต และอาจจะเป็นช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อ เมื่อมีการใช้โดรน คณะมนตรีความมั่นคงพลาดอะไรไปบางอย่าง ขณะที่ประชาคมระหว่างประเทศ ต่างพากันเงียบในเรื่องนี้ ซึ่งคาญามาร์ เตรียมนำเสนอรายงานดังกล่าวต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้มีการหารือกันในเรื่องดังกล่าว ————————————————————– ที่มา : มติชนออนไลน์ / 7 กรกฎาคม 2563 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2257157

กองทัพฝรั่งเศสใช้ “โดรน” จู่โจมเป็นครั้งแรกในปฎิบัติการที่มาลี สังหารผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต 40 ราย

Loading

เอเอฟพี – กองทัพฝรั่งเศสแถลงยืนยันว่าเป็นครั้งแรกในปฎิบัติการที่ใช้ “โดรน” ระหว่างปฎิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในมาลี มีผู้ก่อการร้ายเสียชีวิตไป 40 ราย เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(23 ธ.ค)ว่า ในวันเสาร์(21)ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง แถลงว่ากองกำลังฝรั่งเศสสามารถจัดการนักรบญิฮัดได้ 33 คนที่ม็อปติ (Mopti) ภาคกลางของมาเลียในปฎิบัติการที่เกิดขึ้นคืนก่อนหน้า และในวันจันทร์(23)กองบัญชาการกองทัพฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ยืนยันว่าได้มีการใช้โดรนสังหารในปฎิบัติการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในวันเสาร์(21) และสามารถสังหารนักรบญิฮัดได้เพิ่มอีก 7 คน ในขณะที่กองกำลังคอมมานโดฝรั่งเศสตรวจค้นพื้นที่โจมตีในป่าวากาดู(Ouagadou) ห่างเมืองม็อปติออกไปราว 90 ไมล์ “พวกเขาถูกโจมตีโดยกลุ่มก่อการร้ายที่อยู่บนรถมอเตอร์ไซค์” อ้างอิงจากแถลงการณ์ พบว่า โดรนรีปเปอร์สังหารและเครื่องบินลาดตระเวณมิราจ 2000 ของฝรั่งเศสได้ถูกส่งเข้ามาเพื่อปกป้องกองกำลังภาคพื้น “นี่เป็นครั้งแรกในการใช้โดรนติดอาวุธในปฎิบัติการ” แถลงการณ์จากกองทัพฝรั่งเศสยืนยัน การโจมตีเกิดขึ้น 2 วันหลังกองกำลังฝรั่งเศสประกาศสิ้นสุดการทดลองการใช้โดรนที่ถูกบังคับในระยะไกลสำหรับปฎิบัติการติดอาวุธ กองกำลังมีโดรน 3 ลำที่มีฐานใกล้กับกรุงนีอาเม (Niamey) ของไนเจอร์ สำหรับปฎิบัติการของฝรั่งเศสในช่วงสูดสัปดาห์เกิดขึ้นในพื้นที่ภายใต้การควบคุมของกลู่มมุสลิมติดอาวุธ คาติบา มาซินา( Katiba Macina)ที่ถูกก่อตั้งโดยนักการศาสนาอิสลามหัวรุนแรงในม็อปติ อามาดู โคอูฟา(Amadou Koufa) ตำรวจมาลี 2 นายได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระจากการถูกจับเป็นตัวประกัน และกองกำลังฝรั่งเศสามารถยึดยานพาหนะ มอเตอร์ไซค์และอาวุธ “ทำให้กองกำลังกลุ่มญิฮัดได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง” แถลงการณ์จากกองบัญชาการกองทัพฝรั่งเศสแถลงเมื่อวานนี้(23) ทั้งนี้ก่อนหน้าฝรั่งเศสเคยออกมาแถลงว่าประสบความสำเร็จในการสังหารนักรบญิฮัดได้…

เจาะลึก กองทัพโดรน..อาวุธไฮเทคฝีมือคนไทย

Loading

กองทัพทั่วโลกกำลังแข่งขันกันพัฒนาอาวุธ ก้าวเข้าสู่ยุค “สงครามไฮเทค” โดยเฉพาะการใช้ “กองทัพโดรน” เพื่อลดความเสี่ยงสูญเสียชีวิตของกำลังพล และลดงบประมาณจัดซื้ออาวุธขนาดใหญ่ หลายประเทศแอบพัฒนา “อาวุธโดรน” ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น บินได้เร็ว บินได้สูง บินได้ไกล และติดตั้งจรวดโจมตีขนาดใหญ่ให้ได้มากสุด…กองทัพไทยก็มีการทุ่มเทพัฒนาโดรนสายพันธุ์ไทยแท้เช่นกัน คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ “โดรน” (Dynamic Remotely Operated Navigation Equipment) อุปกรณ์ที่ใช้รีโมทในการบังคับให้เคลื่อนที่ ถ้าเป็นจำพวกเครื่องบินขนาดจิ๋วหรืออุปกรณ์ที่บินได้ด้วย จะใช้คำ “ยูเอวี” (Unmanned Aerial Vehicle) แต่สำหรับโดรนที่นำมาพัฒนาให้เป็นอาวุธหรือเครื่องมือต่างๆ ในกองทัพทหารนั้น ถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่า “อากาศยานไร้คนขับติดอาวุธ” หรือ “ยูซีเอวี” (Unmanned Combat Air Vehicle) ซึ่งอาวุธโดรนประเภทนี้ จะสามารถบรรทุกกล้องสอดแนม ปืน ระเบิด จรวดขนาดต่างๆ ได้ด้วย ปัจจุบัน อาวุธโดรน หรือ ยูซีเอวี กลายเป็นพระเอกตัวสำคัญที่บริษัทผลิตอาวุธพยายามพัฒนาออกมาเพื่อเชิญชวนกองทัพทั่วโลกให้ซื้อไปใช้ป้องกันประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทผู้ค้าอาวุธยักษ์ใหญ่ เช่น จีน มักจัดงานโรดโชว์อาวุธโดรนไปทั่วโลก ล่าสุดจีนได้ติดตั้งปืนไรเฟิลเข้ากับยูซีเอวี หวังให้เป็นเครื่องบินรบรุ่นใหม่ไร้คนขับแทนที่ฝูงบินรบแบบเก่า…

สงครามโดรน : สงครามเก่ากำลังจากไป สงครามใหม่มาถึงแล้ว!

Loading

“ผู้ควบคุม [โดรน] สามารถระบุเป้าหมาย เฝ้ามอง และทันใดนั้นโจมตีจากระยะหลายพันไมล์ที่ห่างไกลออกไป โดยไม่จำเป็นต้องเอาทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายแต่อย่างใด” Lawrence Freedman (2017) คอลัมน์ ยุทธบทความ ผู้เขียน สุรชาติ บำรุงสุข   เมื่อศตวรรษที่ 21 เริ่มต้นขึ้นนั้น โลกได้เห็นอุปกรณ์ทางทหารชุดหนึ่งที่นักการทหารหลายคนได้ให้ความสนใจอย่างมาก คือการปรากฏตัวของ “อากาศยานไร้คนขับ” หรือเรียกว่า “อากาศยานไร้นักบิน” (Unmanned Aerial Vehicles หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า UAVs) ซึ่งปัจจุบันถูกเรียกว่า “โดรน” (Drones) และอุปกรณ์ทางทหารนี้กำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญของศตวรรษปัจจุบัน และอาจจะเป็นอาวุธที่จะมีส่วนต่อการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าสงครามในอนาคต พัฒนาการ โดรนอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีการใช้โดรนมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว แต่เป็นเพียงการใช้เพื่อการเป็นเป้าซ้อมยิงของนักบิน และด้วยเงื่อนไขทางเทคโนโลยี โดรนจึงยังไม่สามารถพัฒนาให้มีขีดความสามารถในการรบได้ แต่แนวคิดที่จะสร้างโดรนให้ทำการรบได้ (combat drone) เกิดขึ้นในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ด้วยข้อจำกัดของการพัฒนาทางเทคโนโลยี แนวคิดนี้จึงปรากฏอยู่ในบทความของประดิษฐกรรมทางวิทยาศาสตร์ สำหรับโดรนทางทหารสมัยใหม่เป็นผลมาจากการคิดของฟอสเตอร์ (John S. Foster) ที่เป็นวิศวกรนิวเคลียร์ฟิสิกส์ชาวอเมริกันในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 ที่เชื่อว่าเครื่องบินจำลองน่าจะนำมาใช้ประโยชน์ในทางทหารได้…

สุดยอด!…ระบบป้องกันภัยซาอุฯ ถูกทำลายด้วยโดรนราคาถูก

Loading

การโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ในซาอุดิอาระเบีย แสดงให้เห็นว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศถูกทำลายอย่างง่ายดายโดยเทคโนโลยีราคาถูก และไม่สามารถป้องกันได้ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือเครื่องบินขับไล่อย่าง F-15 ซาอุดิอาระเบีย ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อปีที่แล้วเพิ่งซื้ออาวุธไป 65,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีสหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่รวมถึงเรดาร์ เครื่องบินขับไล่หลายรุ่น เช่น F-15 และขีปนาวุธที่สามารถสกัดขีปนาวุธที่ถูกยิงมาจากดินแดนของศัตรูได้อย่างแม่นยำ แต่เมื่อวันเสาร์ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทอารัมโก 2 แห่ง กลับถูกโจมตีด้วยฝูงโดรนของกลุ่มกบฎฮูตี ที่เป็นกองกำลังกลุ่มเล็กๆ ทำให้ต้องระงับการผลิตน้ำมัน 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า กลุ่มฮูตีเจาะช่องโหว่ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และยังใช้เทคโนโลยีราคาถูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยโดรนเพียง 10 ลำ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะฮูตีเคยใช้โดรนแทรกซึมน่านฟ้าซาอุฯและถ่ายรูปโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล และโจมตีท่อส่งน้ำมันไปยังทะเลแดงด้วย ส่วนโดรนที่ใช้น่าจะเป็น “แซมแม้ด ทรี” ที่สามารถบรรทุกระเบิดและเล่นงานเป้าหมายที่อยู่ไกลถึง 1,500 ก.ม. ———————————————————————- ที่มา : Nation TV / 17 กันยายน 2562 Link…

มิติใหม่ใช้โดรนถล่มเป้าหมายระดับโลก ราคาถูกลงแต่ได้ผลเกินคาด

Loading

การเป็นพันธมิตรระหว่างฮูษีกับอิหร่าน ยังเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะมีการใช้แบ่งปันวิธีโจมตีด้วยโดรนไปให้แนวร่วมในอิหร่าน อิรัก ซีเรีย และเลบานอน วิม ซไวเนนบวร์ก นักวิจัยอาวุโสเกี่ยวกับโดรนที่ PAX องค์กรสันติภาพเนเธอร์แลนด์ กล่าวกับ NYT ว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบียไม่เพียงแต่เปิดเผยถึงช่องโหว่ของซาอุดิอาระเบียในการทำสงครามกับกบฎฮูษีเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่าการโจมตีเป้าหมายระดับสูงเริ่มที่จะมีต้นทุนที่ต่ำลงมาก โดยอาจมีค่าใช้จ่าย 15,000 เหรียญสหรัฐหรือน้อยกว่าในการสร้างโดรน การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการใช้กลยุทธ์แบบ “เดวิดและโกลิอัท” (หรือตัวเล็กล้มยักษ์) และใช้โดรนโดรนราคาถูก เพื่อทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางยิ่งคาดเดาได้ยากขึ้น เพราะการโจมตีดังกล่าวไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัย ทำให้ตลาดปั่นป่วน และทำให้ความหวาดกลัวขยายวงกว้าง แม้ว่า กบฎฮูษีจะไม่มีทุนทรัพย์ทางการเงินที่สำคัญ แต่โดรนกลับกลายเป็นทางออกต้นทุนต่ำให้เขาเพื่อใช้โจมตีศัตรูตัวฉกาจคือ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณทางทหารที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2561 โดยมีงบประมาณถึ 67,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอกย้ำว่า ประเทศที่มีงบประมาณทางทหารที่สูงมาก ก็อาจเพลี่ยงพล้ำต่อฝ่ายที่ไม่มียุทโธปกรณ์ชั้นเลิศเลย นอกจากนี้ การโจมตีล่าสุด ยังทะลวงลึกเข้าไปในดินแดนของซาอุดิอาระเบียมากกว่าการโจมตีครั้งก่อน ฟาเรีย อัลมุสลิมี ผู้ร่วมก่อตั้งของ Sanaa Center for Strategic Studies ซึ่งเน้นประเด็นเกี่ยวกับเยเมน กล่าวว่า สิ่งทีเกิดขึ้นเป็นความท้าทายต่อซาอุดีอาระเบีย…