สหรัฐชี้เก็บข้อมูลผู้ใช้ติ๊กต็อกเป็นภัยความมั่นคง
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า การที่ติ๊กต็อก (TikTok) เก็บข้อมูลของผู้ใช้งานเกี่ยวกับหัวข้อที่ละเอียดอ่อนนั้น ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า การที่ติ๊กต็อก (TikTok) เก็บข้อมูลของผู้ใช้งานเกี่ยวกับหัวข้อที่ละเอียดอ่อนนั้น ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
จีนกลับมาร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการส่งตัวผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่ยังติดค้างอยู่ในอเมริกากลับสู่มาตุภูมิ ท่ามกลางวิกฤตผู้อพยพผิดกฎหมายล้นทะลักเข้าสหรัฐฯ ผ่านชายแดนอันเป็นปัญหาใหญ่ที่เป็นหนึ่งประเด็นสำคัญในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปีนี้
แอปเปิล ตัดสินใจถอดแอปพลิเคชันชื่อดังอย่าง วอตส์แอป, เธรดส์ รวมถึงเทเลแกรม จากแอป สโตร์ ในประเทศจีนแล้ว เนื่องจากกังวลด้านความมั่นคงของชาติ ตามคำร้องขอของรัฐบาลจีน ทางด้านแอปเปิลยอมรับไม่เห็นด้วย แต่ต้องทำตามกฎหมายของประเทศที่ดำเนินธุรกิจ
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ติ๊กต็อก แอปพลิเคชันแชร์วิดีโอชื่อดังของบริษัทไบต์แดนซ์ ของจีน ได้ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐเพื่อคัดค้านการที่รัฐมอนทานาผ่านร่างกฎหมายแบนไม่ให้ประชาชนของรัฐสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันติ๊กต็อก การยื่นฟ้องดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมอนทานากลายเป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกาที่ประกาศผ่านร่างกฎหมายแบนติ๊กต็อก ท่ามกลางกระแสการเรียกร้องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติและเจ้าหน้าที่รัฐให้มีการแบนแอปพลิเคชันติ๊กต็อกทั่วประเทศสหรัฐจากข้อกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของรัฐบาลจีนที่มีต่อติ๊กต็อก ส่งผลให้ติ๊กต็อกยื่นฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐในรัฐมอนทานา โดยระบุว่าการแบนดังกล่าวซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 มกราคม ปี 2024 ได้ละเมิดบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 (First Amendment) ถึงสิทธิเสรีภาพในการพูด และเรียกร้องให้ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐประกาศให้การแบนแอปพลิเคชันติ๊กต็อกของรัฐมอนทานานั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญและสกัดกั้นไม่ให้รัฐมอนทานามีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว โฆษกของติ๊กต็อกกล่าวในแถลงการณ์ว่า “เราขอคัดค้านการแบนติ๊กต็อกของรัฐมอนทานาที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องธุรกิจและผู้ใช้งานติ๊กต็อกหลายแสนคนในรัฐมอนทานา” พร้อมกับระบุอีกว่าเราเชื่อว่าจะได้รับชัยชนะในการยื่นคัดค้านทางกฎหมายจากคำพิพากษาในอดีตและข้อเท็จจริงจำนวนมาก และรัฐมอนทานาได้ออกมาตรการพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อนจากการคาดการณ์ที่ไม่มีมูล พร้อมกับยืนยันในการยื่นฟ้องว่าติ๊กต็อกไม่เคยและจะไม่ส่งข้อมูลของผู้ใช้งานในสหรัฐให้กับรัฐบาลจีน นายเกร็ก เกียนฟอร์เต ผู้ว่าการรัฐมอนทานาเผยว่าเขาลงนามรับรองกฎหมายการแบนดังกล่าวเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของประชาชนในรัฐจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายใต้กฎหมายการแบนแอปติ๊กต็อกของรัฐมอนทานา แอปเปิลและกูเกิลจะต้องนำแอปติ๊กต็อกออกจากแอปสโตร์ (App store) มิเช่นนั้นจะถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 1 หมื่นดอลลาร์ หรือกว่า 3.4 แสนบาทต่อวัน อย่างไรก็ตาม จะไม่มีบทลงโทษต่อผู้ใช้งานติ๊กต็อกและจะไม่มีการห้ามไม่ให้ผู้ที่ใช้งานติ๊กต็อกอยู่ก่อนหน้าเลิกใช้งานแอปดังกล่าว ด้านทนายความของทางการรัฐมอนทานากล่าวว่า พวกเขาเตรียมที่จะปกป้องการแบนดังกล่าวในชั้นศาล …
สภาคองเกรสของสหรัฐฯ เพิ่งเสร็จสิ้นการไต่สวนอย่างเคร่งเครียดกับนายโชว ซื่อ ชิว ซีอีโอของติ๊กต๊อก (Tik Tok) แอปพลิเคชันดูวิดีโอยอดนิยม หลังเกิดความระแวงสงสัยเรื่องความปลอดภัยของสื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มนี้ ซึ่งหลายประเทศกังวลว่าติ๊กต๊อกอาจมีสายสัมพันธ์ลับกับรัฐบาลจีน ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯขู่ว่า หากติ๊กต๊อกไม่ยอมขายกิจการในสหรัฐฯ ให้กับทางการ หรือยังคงยืนกรานจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทแม่ที่จีนต่อไป รัฐบาลสหรัฐฯ จะออกคำสั่งแบนติ๊กต๊อก โดยห้ามชาวอเมริกันใช้งานแอปพลิเคชันนี้อย่างเด็ดขาด ชาติตะวันตกหลายประเทศได้ดำเนินมาตรการสกัดกั้นบริษัทด้านเทคโนโลยีของจีน โดยนอกจากติ๊กต๊อกแล้วยังมีแอปพลิเคชันและสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับจีนถูกสั่งแบนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่าการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้ความลับสำคัญรั่วไหล จนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ มีมาตรการอะไรบ้างที่จำกัดการใช้งานติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อกเป็นสื่อสังคมหรือโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มหนึ่ง ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างและเผยแพร่คลิปวิดีโอสั้น ๆ โดยบริษัทแม่ของติ๊กต๊อกคือ “ไบต์แดนซ์” (ByteDance) บริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ติ๊กต๊อกเริ่มดำเนินกิจการในปี 2016 และได้กลายมาเป็นหนึ่งในสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมสามอันดับแรกของโลก โดยมีผู้ใช้งานถึงกว่า 1,000 ล้านคนต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ชาติตะวันตกและพันธมิตรหลายประเทศได้เริ่มจำกัดการใช้งานติ๊กต๊อกเมื่อไม่นานมานี้ โดยแคนาดา เบลเยียม เดนมาร์ก นิวซีแลนด์ ไต้หวัน สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ออกคำสั่งให้ลบแอปพลิเคชันดังกล่าวออกจากสมาร์ทโฟนของหน่วยงานและองค์กรภาครัฐ…
นายโจว โซ่ว จือ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอของ TikTok เข้าพบคณะกรรมาธิการด้านพลังงานและการพาณิชย์ ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อชี้แจงและตอบข้อซักถามในประเด็นเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวทางข้อมูลและพิทักษ์เยาวชน จากอันตรายบนโลกออกไลน์ โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้ตำหนิผู้บริหารระดับสูงของ TikTok เกี่ยวกับอิทธิพลของจีนที่มีต่อแพลตฟอร์มดังกล่าว และกล่าวว่าวิดีโอขนาดสั้นของ TikTok ทำลายสุขภาพจิตของเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของสองฝ่ายเกี่ยวกับอำนาจของแอปฯ ที่มีต่อชาวอเมริกัน คำให้การของโจว โซ่ว จือ ต่อสภาคองเกรสไม่ได้ช่วยบรรเทาความกังวลของสหรัฐฯ ที่มีต่อ “ไบต์แดนซ์” บริษัทแม่ของ TikTok ในจีน และเพิ่มแรงผลักดันครั้งใหม่ให้กับการเรียกร้องของฝ่ายนิติบัญญัติให้แบนแพลตฟอร์มดังกล่าวทั่วประเทศ กว่า 5 ชั่วโมงในการชี้แจง นายโจวปฏิเสธหลายครั้งว่าแอปฯ ไม่ได้แบ่งปันข้อมูล หรือมีความเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน และแย้งว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวทำทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ชาวอเมริกัน 150 ล้านคน โจว กล่าวว่า เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ TikTok ได้สร้างไฟร์วอลล์เพื่อป้องกันข้อมูลผู้ใช้ของสหรัฐฯ ที่ได้รับการปกป้องจากการเข้าถึงจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต สิ่งสำคัญที่สุดคือ ข้อมูลของชาวอเมริกันได้ถูกจัดเก็บบนดินแดนอเมริกา โดยบริษัทของอเมริกา ซึ่งดูแลโดยบุคลากรชาวอเมริกัน…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว