โดนใส่ Airtag ติดตาม มือถือ Android ของคุณก็เตือนได้แล้ว ด้วย Find My device ทำอย่างไร

Loading

โดนใส่ Airtag ติดตาม มือถือ Android ของคุณก็เตือนได้แล้ว ด้วย Find My device โดย ฟีเจอร์ใหม่การแจ้งเตือนตัวติดตามที่ไม่รู้จัก อย่าง Airtag และอุปกรณ์ Bluetooth Tracker อื่นที่ไม่ใช่ของคุณ   ซึ่ง Google ได้ประกาศในงาน Google I/O 2023 เริ่มใช้งานจริงแล้วบนอุปกรณ์ Android 6.0 ขึ้นไปในเดือนกรกฎาคม 2023 โดย Google จะแนะนำ 3 วิธีที่จะทำให้คุณปลอดภัยจากการติดตามบลูทูธที่แอบติดตามคุณอยู่   1. รับการแจ้งเตือนอัตโนมัติสำหรับตัวติดตามที่ไม่รู้จัก Image : Google   ด้วยการแจ้งเตือนตัวติดตามที่ไม่รู้จัก คุณจะได้รับการแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ Android ที่ใช้งานร่วมกันได้ หากตัวติดตามบลูทูธที่ไม่รู้จักนั้นกำลังติดตามคุณอยู่ คุณสามารถแตะการแจ้งเตือนเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวติดตามและดูแผนที่ว่าเริ่มติดตามคุณอย่างไร   Image : Google   และสามารถกด “เล่นเสียง”…

สหรัฐใจป้ำ ตำรวจแจก AirTags ป้องกันมิจฉาชีพขโมยรถ

Loading

  ตำรวจสหรัฐออกไอเดียใหม่ ป้องกันมิจฉาชีพขโมยรถด้วยการแจก AirTags ฟรี 500 ชิ้น เพื่อช่วยติดตามรถหากมีเหตุฉุกเฉิน   Eric Adams นายกเทศมนตรีเผยว่าการโจรกรรมรถยนต์ในสหรัฐมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน สาเหตุเกิดจากคลิปไวรัลบนแพลตฟอร์ม Tiktok ที่หัวขโมยใช้ชื่อบัญชีว่า “Kia Boyz”   ให้ผู้ที่ติดตามหรือคนเห็นวิดีโอนี้ ได้รู้ถึงทริควิธีการใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องของรถยนต์ Hyundai และ Kia สามารถสตาร์ทรถโดยใช้สาย USB และเครื่องมือที่หาได้ง่าย ๆ   พบว่ารถทั้งสองยี่ห้อที่ถูกขโมยไปแล้ว 966 คันในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากถึง 819 คันจากปี 2565 ในขณะที่ฮุนไดและเกียไม่ได้นิ่งนอนใจ   ด้วยการเปิดให้ผู้ขับอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีแก่รถยนต์หลายล้านคันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารถทุกคันจะปลอดภัย เพราะบางคันก็ยังคงต้องรอรับการอัปเดตต่อไป   เจ้าหน้าที่เลยหยิบเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยใช้อุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่าง Digidog หุ่นยนต์สี่ขามารักษาความปลอดภัยในช่วงกลางวันแต่ราคานั้นค่อนข้างสูง   เลยหันมาทดลองใช้ AirTag ของ Apple ที่ปัจจุบันเอาไว้ใช้เพื่อติดตามสิ่งของต่าง ๆ เช่น กระเป๋าเงิน กระเป๋าเดินทาง…

Lufthansa ไม่ได้เพิ่งแบนการใช้ AirTag ในกระเป๋าเดินทาง แต่กฎการบินสากลระบุห้ามโหลดอุปกรณ์ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมใต้เครื่อง

Loading

    สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวจากเว็บ One Mile at a Time พาดหัวระบุว่าสายการบิน Lufthansa แบนการใช้ AirTag ติดตามกระเป๋าเดินทาง รูปแบบการรายงานและเนื้อหาชวนให้เข้าใจว่าทางสายการบินเพิ่งตัดสินใจว่าจะแบนการโหลด AirTag ไปกับกระเป๋าเดินทางนับแต่ตอนนี้เป็นต้นไป และตั้งคำถามไปว่าสายการบินอื่น ๆ จะทำตามหรือไม่   ต้นทางของข่าวนี้มาจากเว็บ Watson.de สื่อออนไลน์ในเยอรมนีที่ตั้งข้อสงสัยว่าการโหลด AirTag ไปกับกระเป๋าเดินทางใต้เครื่องนั้นทำได้หรือไม่ ทางโฆษกของสายการบิน Lufthansa ตอบกลับโดยอ้างอิงกฎการเดินทางขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่ระบุชัดเจนว่าอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมนั้นต้องถือขึ้นเครื่องไปกับผู้โดยสายเท่านั้น หรือหากจะโหลดใต้เครื่องได้จะต้องปิดการทำงานอย่างสมบูรณ์   กฎความปลอดภัยของ ICAO ออกมาตั้งแต่ปี 2017 สี่ปีก่อนที่ AirTag จะเปิดตัว ครอบคลุมตั้งแต่อุปกรณ์ขนาดเล็กเช่นนาฬิกาไปจนถึงอุปกรณ์ขนาดใหญ่เช่นโน้ตบุ๊ก แต่จำกัดเฉพาะแบตเตอรี่ลิเธียมเท่านั้น น่าสนใจว่าแบตเตอรี่ CR2032 ที่ AirTag ใช้งานนั้นแม้ส่วนมากในตลาดจะเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมแต่ก็มีแบบ Alkaline ขายอยู่ด้วยหากเปลี่ยนชนิดแบตเตอรี่แล้วตามกฎความปลอดภัยนี้ก็อาจจะไม่ขัด แม้จะมีกฎอื่น ๆ เช่นการส่งสัญญาณวิทยุที่อาจจะขัดกฎจากหน่วยงานอื่นอยู่ดีก็ตาม   ทาง Watson.de ยังถามไปยังสนามบินหลายแห่งในเยอรมนี…

กฎหมายควบคุมการใช้อุปกรณ์ติดตามคน-สิ่งของ | ณิชนันท์ คุปตานนท์

Loading

  AirTag เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยติดตามสิ่งของผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth กับสมาร์ทโฟน ซึ่งบริษัท Apple ได้พัฒนาขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2564 โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถติดตามสิ่งของส่วนบุคคล เช่น กุญแจ กระเป๋า ซึ่งอาจตกหล่น หรือทำหาย หรือใช้ตามหารถที่จอดไว้ โดยที่ทางบริษัทเองก็ได้เน้นย้ำจุดประสงค์ของการออกแบบว่า ไม่ได้มีไว้เพื่อใช้ติดตามผู้คนหรือทรัพย์สินของผู้อื่น อีกทั้งประณามการใช้ AirTag ในทางที่ผิด และด้วยเหตุนี้ Apple จึงได้พัฒนาระบบแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบกรณีมีการติดตามที่ไม่พึงประสงค์ด้วย หลังจากที่เริ่มมีรายงานการใช้ AirTag ผิดวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ดี ระบบแจ้งเตือนดังกล่าวยังมีจุดอ่อน โดยเฉพาะในกรณีผู้ที่ถูกติดตามไม่ได้ใช้ iPhone หรืออุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple ด้วยลักษณะของการออกแบบ AirTag ที่มีขนาดเล็ก สะดวกต่อการใช้งานในราคาที่ไม่แพง และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึงหนึ่งปี แต่ไม่ได้ออกแบบป้องกันการถูกเอาไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์หรือเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรม จึงยังคงเกิดกรณีที่มีผู้ใช้บริการผิดวัตถุประสงค์ โดยการนำไปใช้ติดตามบุคคล เช่น นำไปใส่ไว้ในรถหรือเสื้อผ้าของคนที่ต้องการติดตาม และในหลายๆ กรณีก็เป็นเหตุนำไปสู่อาชญากรรมร้ายแรงตามมา   (ภาพถ่ายโดย kat wilcox) ไม่ว่าจะเป็นการฆาตกรรม หรือแม้กระทั่งการค้ามนุษย์ ซึ่งจะเห็นได้จากรายงานข่าวอาชญากรรมไม่ว่าจะเรื่อง…

เตือนภัย! ตร.สหรัฐเผย “AirTag” ถูกใช้เป็นอุปกรณ์สะกดรอย

Loading

  ตำรวจทั่วสหรัฐได้รับการแจ้งความจากเหยื่อหลายรายว่าถูกคนร้ายสะกดรอยตามจาก “AirTag” อุปกรณ์เสริมสำหรับติดตามสิ่งของ “Apple” เม.ย. ปีที่แล้ว “Apple Inc.” บริษัทเทคโนโยลียักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้ออกผลิตภัณฑ์ “AirTag” อุปกรณ์ติดตามสิ่งของต่าง ๆ เช่น กุญแจ กระเป๋าสตางค์ โดยสามารถบอกตำแหน่งผ่านแอพพลิเคชั่น “ค้นหาของฉัน” (Find My) ด้วยระบบเครือข่ายค้นหาเฉพาะของ Apple ที่อยู่ตาม iPhone, iPad และ Mac หลายร้อยล้านเครื่องทั่วโลกที่จะช่วยติดตาม ไม่ว่า AirTag นั้นจะอยู่ตำแหน่งใดในโลกก็ตาม   AirTag พร้อมสายคล้องในแบบต่าง ๆ -เครดิตรูป: เว็บไซต์ Apple- Apple ได้ตระหนักถึงปัญหาที่อาจจะมีคนทำ AirTag ไปใช้ในการสะกดรอยตามบุคคลอื่น จึงได้ติดตั้งระบบมีการส่งข้อความแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟน (หากไม่ใช่ iPhone จะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม) หรือส่งเสียงเตือนในระดับ 60 เดซิเบล เมื่อมี AirTag อื่น ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของมาอยู่ใกล้กับผู้ใช้งานมากกว่า 8…

ตำรวจนิวยอร์กออกเตือนประชาชน หลังมีคนถูกสะกดรอยตามด้วย AirTag 2 คดีแล้ว

Loading

  หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตำรวจแคนาดาออกเตือนประชาชนให้ระวังมิจฉาชีพใช้ AirTag สะกดรอยตามเพิ่อขโมยรถ หลังจากนั้นก็ยังคงมีข่าวออกมาต่อเนื่องเกี่ยวกับผู้ไม่หวังดีที่ใช้ AirTag สะกดรอยตามเหยื่อ โดยรายงานจากสำนักข่าวท้องถิ่น WGRZ ระบุว่า เจ้าหน้าที่จากกรมตำรวจ เวสต์ เซเนกา ในนิวยอร์กออกมาเตือนประชาชนว่า AirTag ถูกนำมาใช้ในการสะกดรอยตามจริง โดยมีคดีที่เกิดขึ้น 2 คดีแล้ว คดีแรก ผู้เคราะห์ร้ายเป็นเพศหญิงที่เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจเวสต์ เซเนกา (West Seneca Police Department) หลังจากเธอได้รับการแจ้งเตือนว่ามี AirTag กำลังเคลื่อนที่ไปพร้อมกับเธอ โดยมีการแจ้งเตือนผ่าน iPhone โดยหลังการตรวจสอบก็พบว่ามี AirTag อยู่ใต้ท้องรถของเธอจริง สำหรับคดีที่ 2 ก็มีผู้เคราะห์ร้ายเป็นเพศหญิงเช่นเดียวกัน ซึ่งได้เข้าแจ้งความว่า มีข้อความแจ้งเตือนลักษณะเดียวกันเด้งขึ้นมาบน iPhone ของเธอ แต่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว กลับไม่พบ AirTag แม้แต่อันเดียว หลังจากนั้นไม่นานก็ขาดการเชื่อมต่อไป จึงไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่า AirTag อยู่บนรถด้วยหรือจริง ๆ แล้วเป็นเพียง AirTag ที่เข้ามาอยู่ใกล้ ๆ เท่านั้น…