EU ทดลองสร้างโซเชียลของตัวเอง EU Voice และ EU Video ใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส Mastodon

Loading

  ท่ามกลางประเด็นถกเถียงต่างๆ หลัง Twitter ตอบรับข้อเสนอซื้อของ Elon Musk ฝั่งของสหภาพยุโรปก็เริ่มทดลองเปิดบริการโซเชียลของตัวเอง ได้แก่ EU Voice (โซเชียลแบบ Twitter) และ EU Video (บริการวิดีโอแบบ YouTube)   บริการทั้งสองตัวเป็นการทดลองสร้างโซเชียลมีเดียทางเลือก (an alternative social media pilot program) โดยหน่วยงานด้านคุ้มครองข้อมูลของยุโรป European Data Protection Supervisor (EDPS) เป้าหมายหลักคือสร้างบริการโซเชียลที่คุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ไม่หารายได้จากโฆษณา และสร้างจากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่โปร่งใส   บริการ EU Voice ใช้ซอฟต์แวร์ Mastodon ที่นิยมอยู่แล้ว (ทีม Donald Trump นำไปใช้สร้าง Truth Social) ส่วน EU Video ใช้ PeerTube ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อโฮสต์วิดีโอแบบ YouTube…

EU บังคับบริษัทเทคโนฯยักษ์ใหญ่จัดการคอนเทนต์ผิดกม.-ฝ่าฝืนเจอโทษปรับ

Loading

  สหภาพยุโรป (EU) เห็นชอบในวันนี้ (23 เม.ย.) เกี่ยวกับการออกกฎหมายใหม่ ซึ่งจะบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ๆ อาทิ กูเกิล และเมตา จัดการกับคอนเทนต์ที่ผิดกฎหมายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างจริงจังมากขึ้น มิฉะนั้นจะเสี่ยงกับการถูกปรับเป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์   สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า รัฐสภายุโรปและประเทศสมาชิก EU ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกฎหมายการให้บริการดิจิทัล (Digital Services Act – DSA) ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับคอนเทนต์ที่ผิดกฎหมายและเป็นอันตราย ด้วยการสั่งให้แพลตฟอร์มดำเนินการลบคอนเทนต์เหล่านั้นออกไปอย่างรวดเร็ว   ส่วนสำคัญของกฎหมายนี้จะจำกัดวิธีที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลทำการกำหนดเป้าหมายผู้ใช้งานสำหรับการโฆษณาออนไลน์ โดย DSA จะขัดขวางแพลตฟอร์มต่าง ๆ จากการกำหนดเป้าหมายผู้ใช้งานด้วยอัลกอริทึมโดยใช้ข้อมูลเพศ เชื้อชาติหรือศาสนา และจะห้ามไม่ให้กำหนดเป้าหมายด้านการโฆษณากับผู้ใช้งานที่เป็นเด็ก   นอกจากนี้ DSA จะห้ามการใช้กลวิธีหลอกลวงที่ออกแบบมาเพื่อผลักดันให้ผู้ใช้งานเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการบางอย่างด้วย   บริษัทเทคโนโลยีจะต้องใช้ขั้นตอนใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เช่น คำพูดที่สร้างความเกลียดชัง การยั่วยุให้ก่อการร้าย และการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยตลาดอี-คอมเมิร์ซ เช่น แอมะซอนจะต้องห้ามการขายสินค้าผิดกฎหมายภายใต้กฎใหม่ดังกล่าว   ทั้งนี้ บริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามกฎใหม่ดังกล่าวอาจต้องเสียค่าปรับสูงถึง 6% ของรายได้ประจำปีทั่วโลก…

EU เล็งตั้งหน่วยรบเคลื่อนที่เร็ว 5,000 นาย รับมือวิกฤตการณ์ ไม่ต้องพึ่งสหรัฐฯ

Loading

  สหภาพยุโรป (อียู) กำลังพิจารณาแผนจัดตั้งหน่วยรบเคลื่อนที่เร็วสูงสุด 5,000 นายภายในปี 2025 เพื่อปฏิบัติภารกิจแทรกแซงในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ ในภูมิภาค โดยไม่จำเป็นต้องรอพึ่งสหรัฐฯ รอยเตอร์สอ้างเอกสารความยาว 28 หน้ากระดาษ ลงวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งมีการเอ่ยถึงการจัดตั้งหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วแห่งสหภาพยุโรป (EU Rapid Deployment Capacity)ซึ่งจะประกอบด้วยกำลังพลทั้งทางบก ทะเล และอากาศ ที่สามารถเข้าไปสับเปลี่ยนกับกองกำลังประจำการทุกหน่วยได้ โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมอียูได้มีการหารือแผนดังกล่าวแบบคร่าวๆ เมื่อวันจันทร์ (15 พ.ย.) ที่กรุงบรัสเซลส์ และคาดว่าจะมีการพูดคุยกันต่อในวันนี้ โดยมีเป้าหมายบรรลุข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ภายในเดือน มี.ค. ปี 2022 ร่างยุทธศาสตร์ซึ่งจัดทำโดย โจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู ถือเป็นความพยายามอย่างเป็นรูปธรรมครั้งล่าสุดที่จะทำให้ยุโรปมีกองกำลังร่วมเป็นของตนเองที่ไม่พึ่งพาทรัพยากรของสหรัฐฯ หลังจากบรรดาผู้นำอียูเคยบรรลุข้อตกลงจัดตั้งกองกำลังร่วม 50,000 – 60,000 นาย เมื่อ 2 ทศวรรษที่แล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง เอกสารซึ่งใช้ชื่อว่า “เข็มทิศยุทธศาสตร์” (Strategic Compass) ย้ำว่า ยุโรปจำเป็นจะต้อง…

ครั้งแรกของโลก ยุโรปเสนอกฎกำกับดูแล AI สร้างขอบเขตการใช้งานให้ไม่กระทบสิทธิพลเมือง

Loading

  สหภาพยุโรป เสนอร่างข้อกำหนดควบคุมการใช้ AI โดยจะเป็นนโยบายแรกของโลกในการกำกับดูแลและกำหนดขอบเขตของบริษัทว่าสามารถใช้ AI ได้ถึงระดับไหน เนื่องจาก AI ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ทั้งการคุกคามความเป็นส่วนตัว และความโน้มเอียง   ตัวร่างข้อกำหนดความยาว 108 หน้า แบ่งความเสี่ยง AI เป็น 4 ขั้น ความเสี่ยงระดับที่ยอมรับไม่ได้ เช่น AI ที่รัฐบาลใช้กำหนดคะแนนความประพฤติของประชาชน เป็นต้น ซึ่งยุโรปจะแบนการใช้อัลกอริทึมพวกนี้ทั้งหมด ความเสี่ยงสูง เช่น AI ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายและการระบุตัวตนทางชีวภาพ ทางคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า เทคโนโลยีในกลุ่มนี้ต้องอยู่ภายใต้การกำกับตั้งแต่ขั้นฝึกระบบเลย AI ที่มีความเสี่ยงจำกัด เช่น แชทบอท ตัวร่างระบุให้บริษัทเปิดเผยใช้ชัดว่าผู้ใช้กำลังคุยกับ AI เพื่อให้ผู้ใช้ตัดสินใจเองว่าอยากคุยต่อหรืออยากคุยกับคนมากกว่า AI ความเสี่ยงต่ำ เช่น ระบบกรองสแปม ในเอกสารไม่ได้ระบุวิธีการกำกับดูแล No Description วัตถุประสงค์ของร่างข้อกำหนดคือ ให้แน่ใจว่า AI ที่ใช้ในตลาดมีความปลอดภัย และเคารพหลักสิทธิขั้นพื้นฐาน และให้มีกฎหมายที่แน่นอน เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนพัฒนา AI…