โครงการฝึกงานแก่ จนท.ทหารที่ได้รับบาดเจ็บของ FBI

Loading

ภาพจากเว็บไซต์ FBI   เว็บไซต์สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) เผยแพร่ข่าวสารเมื่อ 2 ส.ค.66 เกี่ยวกับ The FBI Wounded Warrior Internship Program ซึ่งเป็นโครงการฝึกงานที่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐฯ ที่ได้รับบาดเจ็บเข้ารับการฝึกงานกับ FBI ที่สำนักงานใหญ่หรือสำนักงานภาคสนามแห่งใดแห่งหนึ่งจาก 56 แห่งทั่วประเทศ   เพื่อเพิ่มเติมประสบการณ์การทำงานในขณะที่พักฟื้นจากบาดแผล ความเจ็บป่วย หรืออาการบาดเจ็บ โครงการฝึกงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Operation Warfighter ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ   นอกจากผู้ฝึกงานจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ และมุมมองใหม่ ๆ แล้ว ยังเป็นการเพิ่มพูนทักษะด้านการข่าวกรองและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น อาจค้นพบความสนใจทางวิชาชีพใหม่ ในขณะที่ยังสังกัดอยู่หน่วยงานเดิม ทั้งนี้ ผู้ฝึกงานจะได้รับการประเมินการฝึกในแต่ละเดือน ซึ่ง FBI อาจเสนองานถาวรให้กับพวกเขาหลังจากฝึกงานสำเร็จ   อย่างไรก็ดี ผู้สนใจที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด อาทิ เป็นทหารประจำการ หรือทหารกองหนุน ของกองทัพบกหรือกองทัพอากาศ เป็นพลเมืองสหรัฐฯ เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมในหน่วยนักรบที่ได้รับบาดเจ็บ (Wounded Warrior)…

FBI ออกปฏิบัติการปราบ ‘Genesis’ ตลาดค้าข้อมูลผิดกฏหมาย (จบ)

Loading

  ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปภัยไซเบอร์จะมีความน่ากลัวและทวีความรุนแรงมากขึ้น ธุรกิจต้องอาศัยการทำงานเชิงบูรณาการกันภายในองค์กรคือจากทั้งผู้บริหารและพนักงานในองค์กร โดยให้ทุกคนให้ความสำคัญและตระหนักถึงเรื่องไซเบอร์กันให้มากขึ้น   จากตอนที่แล้ว ผมได้เล่าถึงการเข้าปราบปรามของ FBI ที่ร่วมกันกับหน่วยงานรัฐจากหลากหลายประเทศ เข้าจัดการ Genesis ตลาดมืดค้าข้อมูลที่โจรกรรมจากเหยื่ออย่างผิดกฏหมายยักษ์ใหญ่   ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ลายนิ้วมือ หรือแม้กระทั้ง ข้อมูลทางการเงิน โดยมีการตั้งราคาขายสูงที่สุดอยู่หลายร้อยดอลลาร์เลยทีเดียว   และหากทำการตกลงซื้อขายข้อมูลดังกล่าวแล้ว ผู้ซื้อจะได้รับเครื่องมือเสริมที่ช่วยให้เข้าระบบผ่านบัญชีของเหยื่อรายนั้น ๆ โดยผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์มนั้นได้อย่างง่ายดาย   Genesis ได้ออกแพลตฟอร์มอย่าง Genesium ซึ่งเป็นชื่อของ Chromium browser ที่เป็นทั้งเบราว์เซอร์ช่วยหลบเลี่ยงการตรวจจับและยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เช่น ความสามารถในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องระบุชื่อและยังมีฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรอดจากระบบต่อต้านการฉ้อโกงต่าง ๆ   Genesis Market แตกต่างจาก Hydra และตลาดซื้อขายผิดกฏหมายอื่น ๆ ตรงที่ Genesis สามารถเข้าผ่าน Clearnet ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคในการเข้าระบบสำหรับแฮ็กเกอร์ที่มีทักษะน้อยและต้องการนำข้อมูลยืนยันตัวตนแบบดิจิทัลเพื่อไปใช้เจาะบัญชีของบุคคลทั่วไปและระบบขององค์กร   หลังจากที่ FBI ได้ออกปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้สามารถการจับกุมและยึดโดเมนที่ผิดกฏหมายได้อีกมากมาย และแน่นอนว่าการปราบปรามครั้งนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจใต้ดิน   เนื่องจากเหล่าบรรดาแฮ็กเกอร์จะต้องหาช่องทางอื่น ๆ…

FBI ออกปฏิบัติการปราบ ‘Genesis’ ตลาดค้าข้อมูลผิดกฎหมาย (1)

Loading

  เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับมีการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศเพื่อจัดการกับตลาดมืดชื่อดังอย่าง Genesis ตลาดออนไลน์ที่ค้าข้อมูลผิดกฎหมาย   โดยหลักๆ จะเน้นการขายข้อมูลส่วนบุคคลที่โจรกรรมมาจากเหยื่อไม่ว่าจะเป็น อีเมล บัญชีธนาคาร และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ   การปราบปรามครั้งยิ่งใหญ่นี้มีชื่อว่า Operation Cookie Monster เป็นความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องจาก 17 ประเทศ และได้นำไปสู่การจับกุมถึง 119 ครั้ง   นอกจากนี้ยังมีการตรวจค้นทรัพย์สินกว่า 208 ครั้ง ใน 13 ประเทศ ถึงแม้จะมีการออกปฏิบัติการจับกุมแต่ .onion mirror ของตลาดยังมีการเปิดใช้งานอยู่อย่างต่อเนื่อง   Genesis Market ตั้งขึ้นช่วงต้นปี 2018 และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนกลายมาเป็นศูนย์รวมของการก่ออาชญากรรม และการคุกคามทางไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ   ไม่ว่าจะเป็นการเสนอขายข้อมูลที่ถูกแฮกจากคอมพิวเตอร์กว่า 1.5 ล้านเครื่องทั่วโลก รวมไปถึงข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนอีกมากกว่า 80 ล้านข้อมูล โดยจากการตรวจสอบพบว่า มัลแวร์เป็นตัวการใหญ่ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Genesis Market และเป็นมัลแวร์ที่ถูกตรวจพบในสหรัฐฯ เม็กซิโก…

ผลการสืบสวนระบุว่า ไม่พบผู้ต้องสงสัย กรณีพบโคเคนในทำเนียบขาว

Loading

ภาพจาก CNN   หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (The United States Secret Service – USSS) สรุปผลการสอบสวนกรณีพบโคเคนบรรจุถุงขนาดเล็กน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกรัมในตู้เก็บของหมายเลข 50 ซึ่งใกล้กับทางเข้าชั้นล่างบริเวณพื้นที่ปีกตะวันตกในทำเนียบขาว ว่า ไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ   ผู้เยี่ยมชมทำเนียบขาว รวมถึงเจ้าหน้าที่บางส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในพื้นที่ที่มีข้อมูลลับจะต้องฝากโทรศัพท์มือถือไว้ในตู้เก็บของดังกล่าว ซึ่งอยู่ใกล้กับห้องยุทธการ (Situation Room) ที่กำลังปรับปรุงและไม่ได้เปิดใช้งานมาหลายเดือนแล้ว   USSS ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมกับบัญชีรายชื่อผู้เยี่ยมชมทำเนียบขาวหลายร้อยคนที่เข้ามาวันก่อนหน้าการค้นพบ แต่เนื่องจากพื้นที่ที่พบโคเคนอยู่ในจุดบอดของรัศมีกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถเปรียบเทียบหลักฐานกับกลุ่มบุคคลที่ทราบได้ และผลจากห้องปฏิบัติการของ FBI ระบุว่า บรรจุภัณฑ์ไม่สามารถตรวจสอบลายนิ้วมือได้ เพราะมี DNA ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาหรือวันที่โคเคนนั้นถูกวางทิ้งไว้   โฆษก USSS กล่าวว่า เมื่อปี 2565 เจ้าหน้าที่เคยตรวจพบกัญชาจำนวนเล็กน้อยที่ทำเนียบขาวจำนวน 2 ครั้ง แต่ไม่มีการจับกุม เนื่องจากน้ำหนักของกัญชาที่ยึดได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด จึงไม่สามารถตั้งข้อหาหรือดำเนินคดีได้ และกัญชาเหล่านี้ได้ถูกนำไปทำลาย       ————————————————————————————————————————-…

รายงานวุฒิสภาสหรัฐฯ เผยถึงความล้มเหลวด้านข่าวกรองและการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ

Loading

  วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานเมื่อ 27 มิ.ย.66 ระบุว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และหน่วยงานรัฐบาลกลางอื่น ๆ เพิกเฉยหรือมองข้ามคำเตือนและการเรียกร้องให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดเพื่อระงับเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งยังล้มเหลวในการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย จนนำไปสู่เหตุจลาจลและการโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อ 6 ม.ค.65 นอกจากนี้ก่อนการโจมตีเพียงไม่กี่วัน การเฝ้าระวังและติดตามภัยคุกคามบนสื่อสังคมออนไลน์ของ FBI ได้ลดลงอย่างมาก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาที่เกี่ยวกับบุคคลที่สามในสื่อสังคมออนไลน์ ภายในรายงานยังเน้นคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ FBI สองคนที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเขาไม่ทราบว่ารัฐสภาอาจจะถูกปิดล้อม” อย่างไรก็ดี ผู้แทนของ FBI กล่าวแย้งว่า FBI มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในช่วงก่อนและในวันที่ 6 ม.ค.65 อาทิ การตั้งกองบัญชาการร่วม และหลังเหตุการณ์ก็ได้แบ่งปันข้อมูลอย่างรวดเร็ว           —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                     …

รัฐบาลสหรัฐฟ้อง “ทรัมป์” ฐานจัดการเอกสารลับไม่เหมาะสม

Loading

  กระทรวงยุติธรรมสหรัฐดำเนินคดีกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการ “จัดการเอกสารลับอย่างไม่เหมาะสม”   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียล เมื่อวันพฤหัสบดี ว่ากระทรวงยุติธรรมแจ้งโดยตรงมายังทีมงานฝ่ายกฎหมายของเขา ว่ามีการตั้งข้อหาเกี่ยวกับการจัดการเอกสารลับอย่างไม่เหมาะสม และได้รับหมายเรียกให้ไปรายงานตัวต่อศาลรัฐบาลกลาง ที่เมืองไมอามี ในวันอังคารที่ 13 มิ.ย. ที่จะถึง   ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ กระนั้น ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ ที่อดีตประธานาธิบดีเผชิญกับกับการฟ้องร้องจากรัฐบาลกลาง   ส่วนหนึ่งของเอกสารลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่เอฟบีไอยึดคืนจากคฤหาสน์ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่รัฐฟลอริดา เมื่อเดือน ส.ค. 2565   ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ในสังกัดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ตรวจค้นคฤหาสน์ของทรัมป์ ภายในรีสอร์ทมาร์-อา-ลาโก ที่เมืองปาล์มบีช ในรัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ปีที่แล้ว   ด้านนายเมอร์ริค…