ฮือฮา!! FBI บุก “สถานีตำรวจจีนเถื่อน” กลางแมนแฮตตันแอบเปิดใช้ชื่อ “มูลนิธิช่วยคนจีน” บังหน้าเกี่ยวข้องพ่อเมืองนิวยอร์กผิวสีคนดัง

Loading

    เอเจนซีส์ – FBI บุกสถานีตำรวจจีนเถื่อนในปีที่แล้ว พบใช้พื้นที่ชั้น 3 อาคารสำนักงานมูลนิธิจีนตั้งในเมืองแมนแฮตตัน รัฐนิวยอร์ก เป็นสำนักงาน ฮือฮา อดีตประธานกรรมการมูลนิธิเคยบริจาคเงินให้นายกเทศมนตรีนิวยอร์กผิวสีชื่อดัง เอริค อดัมส์ ที่เคยปรากฏตัวในงานกาล่าของมูลนิธิปีที่แล้ว   เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (14 ม.ค.) ว่า การบุกค้นฟ้าผ่าเกิดขึ้นในวันหนึ่งของฤดูใบไม้ร่วงปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นที่อาคารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิจีน American Changle Association ซึ่งตั้งในเมืองแมนแฮตตันใต้ ตั้งอยู่เลขที่ 107 บรอดเวย์ตะวันออก เมืองนิวยอร์กซิตี รัฐนิวยอร์ก   โดยชั้น 3 ของอาคารเป็นที่ตั้งสถานีตำรวจลับจีนต่างแดนมณฑลฝูเจี้ยน   สื่ออังกฤษชี้ว่า ตำรวจจีนหน่วยนี้เชื่อมโยงกับหน่วยรหัส 110 ต่างแดน (110 Overseas) ที่มีฐานอยู่ในมณฑลฝูเจี้ยน   หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สของสหรัฐฯ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า FBI นำกำลังบุกเข้าทลายสำนักงานตำรวจเถื่อนจีนซึ่งตั้งอยู่ด้านใต้ของร้านราเม็งในนิวยอร์ก พร้อมกับชี้ว่า นายกเทศมนตรีนิวยอร์กคนปัจจุบัน…

FBI เตือนให้ระวังโฆษณาปลอมบนเสิร์ชเอนจิน

Loading

  สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (FBI) ออกคำเตือนให้ระวังอาชญากรไซเบอร์ที่ซื้อโฆษณาปลอมบนเสิร์ชเอนจินที่จะลวงผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย   อาชญากรเหล่านี้ซื้อโฆษณาที่จะปรากฎอยู่บนผลการค้นหาโดยใช้ชื่อโดเมนที่คล้ายกับธุรกิจที่มีอยู่จริง ซึ่งเมื่อคลิกแล้วจะนำผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บที่ดูเหมือนของจริงมาก   ในคำแถลงเผยว่าเว็บไซต์เหล่านี้ซ่อนมัลแวร์เรียกค่าไถ่เอาไว้ รวมถึงจะขโมยข้อมูลการล็อกอิน และข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะแพลตฟอร์มคริปโทเคอเรนซี   โดยในบางเว็บไซต์จะมีบริการดาวน์โหลดโปรแกรมที่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ ขณะที่เว็บไซต์อีกส่วนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนเว็บไซต์สถาบันทางการเงิน ก็จะหลอกให้ผู้ใช้งานเข้าล็อกอินโดยใส่รหัสผ่านจริง   FBI แนะนำวิธีการป้องกันโดยให้ตรวจสอบดูว่า URL นั้นเป็นของจริงและมีการสะกดคำผิดหรือไม่ พยายามใส่ URL เว็บไซต์ของธุรกิจที่ต้องการเข้าชมแทนการค้นหา และควรใช้ส่วนเสริมที่ปิดกั้นโฆษณา (ad blocking extension) บนเว็บเบราว์เซอร์       ——————————————————————————————————————————————————————————————————- ที่มา :                      beartai.com                  …

จีนโต้ข้อกล่าวหาตั้งสถานีตำรวจในสหรัฐ

Loading

  จีนปฏิเสธคำอ้างของเอฟบีไอ ที่ระบุว่ากำลังดำเนินการ ‘สถานีตำรวจ’ ในดินแดนของสหรัฐฯ โดยระบุว่า เป็นการทำงานแบบอาสาสมัคร หลังจากที่ผู้อำนวยการเอฟบีไอได้กล่าวว่าเขา “กังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับสำนักงานที่ไม่ได้รับอนุญาตซึ่งดำเนินงานภายใต้อิทธิพลของกรุงปักกิ่ง   ก่อนหน้านี้ ในเดือนกันยายน องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนที่ตั้งอยู่ในยุโรปได้เผยแพร่รายงานที่เปิดเผยถึงการมี’สถานีบริการ’ ของตำรวจจีนหลายสิบแห่งในเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก รวมถึงนิวยอร์กด้วย   คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ เข้าให้การกับวุฒิสภาเมื่อวันพฤหัสบดีว่ามันเป็น “ความเดือดดาล” ที่รัฐบาลจีนจะพยายามจัดตั้งสถานีตำรวจในสหรัฐอเมริกา โดยกล่าวว่า นี่เป็นการละเมิดอธิปไตยและหลีกเลี่ยงกระบวนการความร่วมมือด้านการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายมาตรฐาน   ด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนในวอชิงตันยอมรับว่ามีสถานที่ดำเนินการอาสาสมัครในสหรัฐอเมริกา แต่กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้เป็น “สถานีตำรวจ” หรือ “ศูนย์บริการตำรวจ”   ‘พวกเขาให้การช่วยเหลือชาวจีนโพ้นทะเลในการเข้าถึงแพลตฟอร์มบริการออนไลน์ต่างๆ เช่นต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ หรือเพื่อขอรับการตรวจร่างกาย’   หลิว เพิงยู โฆษกสถานเอกอัครราชทูตกล่าวทางอีเมลไปยังรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์   ‘พวกเขาไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากประเทศจีน ฝ่ายสหรัฐควรหยุดการสะกดจิตอย่างไร้เหตุผลของปัญหานี้’   โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้กล่าวเช่นเดียวกันเกี่ยวกับสถานที่ในเนเธอร์แลนด์หลังจากที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์สั่งให้ปิดกิจการและเข้าตรวจสอบกิจกรรมของพวกเขา ขณะที่สมาชิกของรัฐสภาอังกฤษได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบสถานที่คล้าย ๆ กัน   พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสสหรัฐ ได้ขอคำตอบจากรัฐบาลไบเดนเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานที่ดังกล่าว   นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิกล่าวว่าสถานที่เหล่านี้เป็นส่วนขยายของความพยายามของกรุงปักกิ่งที่จะกดดันชาวจีนหรือญาติของพวกเขาในต่างประเทศให้กลับไปยังประเทศจีน…

เอฟบีไอเผย ‘ติ๊กต๊อก’ สร้างความกังวลด้านความมั่นคง

Loading

FILE – A TikTok logo is displayed on a smartphone in this illustration taken Jan. 6, 2020.   คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ (FBI) กล่าวว่า เอฟบีไอเป็นกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ต่อสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม ติ๊กต๊อก (TikTok) ของจีน ซึ่งกำลังขออนุมัติจากทางการสหรัฐฯ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจในอเมริกาได้ต่อไป   เรย์ กล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร ว่าด้วยเรื่องภัยคุกคามจากทั่วโลกต่อสหรัฐฯ โดยระบุว่า ความกังวลที่มีต่อ TikTok นั้นรวมถึงการที่รัฐบาลจีนสามารถใช้ TikTok เพื่อเก็บรวมรวมข้อมูลของผู้ใช้หลายล้านคน และรัฐบาลปักกิ่งยังอาจสามารถควบคุมชุดคำสั่งอัลกอริทึมและซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์สื่อสารหลายล้านเครื่องได้ด้วย   ผอ.เอฟบีไอ ระบุว่า “หน่วยข่าวกรองข้ามชาติและภัยคุกคามทางเศรษฐกิจจากจีนนั้น คือภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดในระยะยาว ต่อความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ”   ความเชื่อมโยงระหว่างแอปป์ TikTok กับรัฐบาลจีน…

หน่วยความมั่นคงสหรัฐฯ พบแฮ็กเกอร์อิหร่านฝังมัลแวร์ไว้ในหน่วยงานพลเรือนแห่งหนึ่ง

Loading

  สำนักงานสืบสวนกลาง (FBI) และสำนักงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ (CISA) ของสหรัฐอเมริการ่วมกันแถลงกรณีกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลอิหร่านเข้าแฮ็กหน่วยงานพลเรือนแห่งหนึ่งด้วยการปล่อยซอฟต์แวร์ขุดคริปโทเคอน์เรนซีเข้าไปยังระบบ   แฮกเกอร์รายนี้แฮ็กเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ VMware Horizon ที่ไม่ได้รับการอัปเดตให้เป็นปัจจุบันจนสามารถเปิดใช้งานโค้ดจากระยะไกลได้   ในรายงานที่ออกโดย CISA เผยว่าแฮ็กเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์ขุดคริปโทเคอร์เรนซีในตระกูล XMRig ในบรรดาไฟล์ที่พบมีทั้ง Kernel Driver ไฟล์ EXE ของระบบปฏิบัติการ Windows 2 ตัว และไฟล์สำหรับควบคุมพฤติกรรมของหนึ่งในไฟล์ EXE ที่พบ   CISA ได้ปฏิบัติการตอบโต้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อหน่วยงานดังกล่าวในช่วงระหว่างกลางเดือนมิถุนายน จนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2022 จึงพบว่าหลังจากที่แฮกเกอร์ปล่อย XMRig แล้ว ก็ได้เจาะเพื่อล้วงเอาข้อมูลรหัสผ่าน และฝัง Ngrok ลงในอุปกรณ์หลายตัวเพื่อฝังตัวอยู่ในเครือข่ายของเหยื่อในระยะยาวได้   ทั้งนี้ FBI และ CISA แนะนำให้องค์กรต่าง ๆ คอยอัปเดตซอฟต์แวร์ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอเพื่อปิดช่องโหว่ สร้างรายชื่อรหัสผ่านที่เคยถูกแฮ็กไปแล้วเพื่อไม่นำกลับมาใช้อีก และยกระดับมาตรการทางไซเบอร์อย่างเคร่งครัดและรัดกุม     ที่มา…

เอฟบีไอ ควบคุมตัวคู่สามีภรรยาแพทย์อเมริกัน ฐานเป็นสายลับรัสเซีย

Loading

  สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ รายงานการจับกุม พันตรี เจมี่ ลี เฮนรี แพทย์ทหารสหรัฐ กับแพทย์หญิง แอนนา กาเบรียลเลียน คู่สามีภรรยา LGBT อเมริกันฐานเป็นสายลับให้กับรัสเซีย   โดยในคำฟ้องที่อัยการยื่นต่อศาลบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ระบุว่า พันตรีเฮนรี วัย 39 ปี จากโรงพยาบาลทหารฟอร์ตแบรกก์ (Fort Bragg) ซึ่งเป็นฐานทัพทหารขนาดใหญ่ กับแพทย์หญิงกาเบรียลเลียน อายุ 36 ปี จากโรงพยาบาลจอห์น ฮอปกินส์ ในเมืองบัลติมอร์ วางแผนที่จะแบ่งปันข้อมูลที่เป็นความลับเกี่ยวกับผู้ป่วยที่โรงพยาบาลที่ทั้งคู่ทำงานอยู่ให้กับรัสเซีย โดยบอกกับสายลับของเอฟบีไอ ว่าได้รับแรงบันดาลใจจากความรักชาติของรัสเซีย จึงต้องการช่วยรัฐบาลรัสเซีย “ทำความเข้าใจสภาพทางการแพทย์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสหรัฐฯ และกองทัพ” แม้จะหมายถึงการถูกไล่ออกหรือต้องติดคุกก็ตาม   อัยการตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดและเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพส่วนบุคคล   เมื่อหลายเดือนก่อน แพทย์หญิงกาเบรียลเลียน เคยถูกกล่าวหาว่าให้ความช่วยเหลือสถานทูตรัสเซียในกรุงวอชิงตัน ในช่วงหลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน   ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ทั้งคู่ได้รับการติดต่อจากบุคคลที่อ้างว่าทำงานให้กับสถานทูตรัสเซีย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นสายลับเอฟบีไอ และบอกกับสายลับว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการฝึกทหารยูเครน…