Apple จำกัดการใช้งาน AirDrop ในประเทศจีน จำกัดเวลาเพียง 10 นาที

Loading

  การอัปเดตครั้งล่าสุดของระบบปฏิบัติการ iOS 16.1.1 มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในฟีเจอร์ AirDrop ส่งผลให้การใช้งานฟีเจอร์นี้ในประเทศจีน จำกัดเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น   แอปเปิล ซึ่งเพิ่งปล่อยอัปเดตของระบบปฏิบัติการ iOS 16.1.1 ได้มีการปรับเปลี่ยนความสามารถการใช้งานของฟีเจอร์ AirDrop โดยการแชร์ไฟล์แบบไร้สายที่ว่านี้ มีเวลาจำกัดแค่ 10 นาทีเท่านั้น เมื่อมีการรับ-ส่งไฟล์ไปหาผู้ใช้งานทุกคน (for everyone)   แต่ในส่วนการทำงานของ AirDop กรณีที่ต้องการแชร์ไปให้ผู้ติดต่อที่เป็นเพื่อนกันยังคงส่งไฟล์หากันได้ตลอดเวลา ไม่จำกัดระยะเวลาเหมือนกรณีข้างต้น   การปรับเปลี่ยนความสามารถที่ว่านี้ของแอปเปิล นั่นเป็นเพราะว่า ในประเทศจีน ผู้ประท้วงชาวจีนที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลปักกิ่งนั้นมีการเลือกใช้ AirDrop สำหรับส่งไฟล์ซึ่งภายในมีข้อความที่ต้องการต่อสู้กับการปกครองแบบเผด็จการของรัฐบาลจีน   แน่นอนว่ากรณีนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่แอปเปิลถอนฟีเจอร์การใช้งานบางอย่างในประเทศจีน ในบางกรณีแอปเปิลก็เลือกที่จะถอดบางแอปพลิเคชันที่ทำให้รัฐบาลจีนไม่สบายใจก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว   อย่างไรก็ดี ในประเด็นการเปลี่ยนแปลงของ AirDrop แอปเปิลไม่ได้บอกว่าเป็นเพราะอะไร แต่บอกว่าในปีหน้าจะบังคับให้การแชร์ไฟล์ไปหาใครก็ได้ทำได้จำกัดในเวลา 10 นาทีเท่านั้น เพื่อลดการแชร์ไฟล์ที่ไม่ต้องการ     ที่มา: Mashable      …

นักวิจัยเผยว่าแอปบนมือถือจำนวนมากถูกแฮ็กเกอร์เข้าแทรกซึม

Loading

  HUMAN Security บริษัทด้านไซเบอร์พบว่าแอปพลิเคชันจำนวนเกือบ 90 แอปที่ให้เปิดให้บริการอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ถูกแฮ็กเกอร์เข้าควบคุมเพื่อแฝงโฆษณาปลอมเพื่อใช้ทำเงิน   ในจำนวนนี้มีถึง 80 แอปที่อยู่บน Android และอีก 9 แอปอยู่บน iOS ทั้งหมดนี้มียอดดาวน์โหลดรวมกันมากกว่า 13 ล้านครั้ง มีทั้งเกม แอปพักหน้าจอ หรือแม้แต่แอปกล้อง   HUMAN พบว่าแฮ็กเกอร์สามารถเข้าควบคุมแอปเหล่านี้เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ส่วนตัวในหลายรูปแบบด้วยกัน ตั้งแต่การปลอมเป็นแอปอื่น การแฝงโฆษณาปลอมเพื่อหลอกทำเงินจากเจ้าของโฆษณา และการนำข้อมูลการกดปุ่มในแอปเพื่อไปหลอกระบบว่าเป็นการกดดูโฆษณาของผู้ใช้   HUMAN เรียกกระบวนวิธีการแฮ็กนี้ว่า Scylla ซึ่งมีความซับซ้อนอย่างมาก และเชื่อว่าเหล่าแฮ็กเกอร์ผู้อยู่เบื้องหลังน่าจะกำลังพัฒนากลวิธีให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น   ทั้งนี้ ทาง HUMAN ระบุว่ากำลังทำงานร่วมกับ Google และ Apple อย่างใกล้ชิดเพื่อจัดการลบแอปเหล่านี้ออกจากแพลตฟอร์มของแต่ละเจ้าต่อไป   อย่างไรก็ดี แม้จะมีการนำแอปเหล่านี้ออกจากแพลตฟอร์มไปแล้ว แต่ผู้ใช้งานที่ดาวน์โหลดแอปเข้าไปในอุปกรณ์ของตัวเองยังมีความเสี่ยงอยู่จนกว่าจะลบแอปออกจากเครื่องไป   ผู้ใช้สามารถเข้าไปตรวจสอบแอปที่มีความเสี่ยงได้ที่นี่     ที่มา…

iOS ก็โดนด้วย พบการโจมตีใหม่ CryptoRom ใช้ช่องโหว่ทดสอบแอป

Loading

  บริษัทซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย Sophos ออกรายงานแคมเปญการหลอกลวงที่มีชื่อว่า CryptoRom ใช้ iOS TestFlight ในทางที่ผิดเพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งมัลแวร์   CryptoRom ถูกใช้ครั้งแรกในเอเชีย แต่ได้โจมตีเหยื่อในสหรัฐอเมริกาและยุโรปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และคาดว่าจนถึงตอนนี้ น่าจะมีผู้เสียมูลค่ารวมมากกว่าหลายล้านเหรียญ   ตามข้อมูลที่ Sophos ระบุไว้ TestFlight ของ iOS มีไว้สำหรับใช้ทดสอบแอปเวอร์ชั่นเบต้าก่อนจะส่งไปขึ้นบน Appstore แต่แฮกเกอร์ได้ใส่มัลแวร์เข้าไปกับแอปที่แสร้งพัฒนาขึ้นแล้วส่งให้กับกลุ่มคนที่มีสิทธิ์ได้ทดลองแอปเวอร์ชั่นเบต้า โดยอาจมีสูงสุดถึง 1 หมื่นคน   ซึ่งการทดสอบแอปเนี่ยแหละ ทำให้ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยบน Appstore ซึ่งก็เข้าทางแฮกเกอร์เลย   ในขณะที่บริษัท Sophos กำลังตรวจสอบ ก็ดันไปพบเข้ากับ IP ที่เกี่ยวข้องกับ CryptoRom ซึ่งพบว่ามีการทำ App Store เลียนแบบขึ้นมาลักษณะที่มีเทมเพลจที่คล้ายกัน แต่มีชื่อแอปและไอคอนต่างกัน รวมถึงยังมีแอปเลียนแบบและใช้โลโก้ที่คล้ายกับแอปจริง ซึ่งเดาว่าน่าจะถูกใช้เพื่อหลอกนักทดสอบแอปครับ   ทั้งนี้ ผู้ใช้ iOS ที่ไม่ได้ใช้งานแอปรุ่นเบต้าก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะช่องโหว่นี้เกิดขึ้นเฉพาะกับนักทดสอบแอปที่ใช้รุ่นเบต้า…

อัพเดทด่วน! ฟีเจอร์ใหม่บอกสถานะว่าโดนดักฟังอยู่หรือไม่

Loading

  ถ้าคุณคือคนที่กำลังกังวล ว่าโทรศัพท์ของคุณจะโดนไวรัส แอบถ่าย หรือดักฟังอยู่หรือเปล่า ต้องรีบอัพเดทด่วน! กับฟีเจอร์ใหม่ ในเวอร์ชั่นล่าสุดทั้ง Android และ iOS   Digital life วันนี้เฟรมมีข่าวดีมาบอก หลังจากที่คราวที่แล้วเฟรมเล่าถึง เจ้าสปายแวร์ Pegasus ที่มันแฝงมากับ link ที่ไม่ปลอดภัย ถ้าเรากดติดตั้งมันจะมาดูดข้อมูลของเราแถมยังแอบเปิดกล้องโดยที่เราไม่รู้อีก   รวมถึงเรื่องของเจ้า Malware Remote Access Trojan (RAT) ที่สามารถส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปให้กับอาชญากรไซเบอร์ได้ตลอดเวลา แล้วยังมาแอบใช้อุปกรณ์ของเราขณะเราเผลอๆ เช่น แอบเปิดกล้อง เปิดไมค์ ฟังเราขณะคุยโทรศัพท์ ซึ่ง 2 เรื่องนี้ เฟรมได้เล่าไปแล้ว ก็มีคำถามเด้งขึ้นมาว่า อ่าวววว แล้วถ้ามันแอบเข้ามาโดยที่เราไม่รู้ตัว แบบนี้เราจะทำอะไรไม่ได้เลยหรอ คำตอบล่าสุดคือ ได้ค่ะ ได้แล้ว ได้ตอนนี้เลย   เพียงแค่คุณกด Update System เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด แต่! อย่าลืมต้องดูให้ดีดีก่อนกด Update…

ช่องโหว่ใหม่ iOS หลอกว่าปิดเครื่อง ที่แท้แฝงตัว แอบสอดแนม

Loading

  โดยปกติแล้ว เมื่ออุปกรณ์ iOS ต่าง ๆ ติดมัลแวร์ การลบออกอาจทำเพียงแค่รีสตาร์ทเครื่องใหม่ก็ทำได้แล้ว . แต่นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก ZecOps ได้ค้นพบวิธีที่จะทำให้ iPhone ดูเหมือนถูกปิดไปแล้ว (ในความจริงไม่ได้ปิด) พร้อมกับเปิดประตูให้แฮกเกอร์สามารถแทกซึมเข้าอุปกรณ์ได้ ซึ่งแฮกเกอร์จะสามารถสอดแนมเจ้าของเครื่องผ่านกล้องไมโครโฟนของโทรศัพท์ พร้อมกับส่งข้อมูลกลับไปให้พวกเขา . ทั้งนี้หากเครื่องติดมัลแวร์แล้ว มัลแวร์จะยังอยู่ในหน่วยความจำออนบอร์ดไปตลอด จนกว่าจะมีการปิดเครื่องจริง ๆ ซึ่งนักวิจัยเรียกการโจมตีนี้ว่า ‘NoReboot’ วิธีการแก้ปัญหาก็แค่ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ แต่มันอาจไม่ง่ายอย่างนั้น . เพราะมัลแวร์จะไม่ทำให้เจ้าของเครื่องรู้ว่าเค้าติดมัลแวร์แล้ว หากเจ้าของเครื่องทำการปิดเครื่อง เครื่องจะดูเหมือนปิดจริง ๆ เพราะปุ่มกดต่าง ๆ จะไม่ตอบสนอง ทั้งปุ่มเพิ่ม-ลด เสียงปุ่มเปิด-ปิด หน้าจอ โทรศัพท์ไม่สั่น ไม่มีเสียงแจ้งเตือนใด ๆ แต่ในความเป็นจริงเครื่องยังทำงานอยู่เพื่อคอยสอดแนม . เมื่อเจ้าของเปิดเครื่องมาใช้ เครื่องก็จะดูเหมือนเปิดขึ้นมาเหมือนการใช้งานปกติ แต่ก็ยังมีมัลแวร์แฝงอยู่ในเมนบอร์ดคอยสอดแนมในโอกาศต่อไปครับ . ตอนนี้จึงไม่ชัดเจนว่า Apple จะจัดการกับมันได้อย่างไรครับ แต่คาดว่าน่าจะออกแพทซ์แก้ช่องโหว่ดังกล่าวในอีกไม่นาน ส่วนตัวคิดว่า วิธีนี้อาจต้องแก้โดยการปล่อยให้โทรศัพท์แบตหมดจนเกลี้ยงไปเลย จากนั้นค่อยเสียบสายชาร์จใหม่เพื่อทำบูตเครื่องขึ้นมา หากเป็นเช่นนั้นมัลแวร์ที่แฝงอยู่ในบอร์ดก็จะหายไป…