กองทัพเรือสหรัฐฯ พัฒนาขีปนาวุธ Hypersonic ต่อต้านเรือรบบนผิวน้ำ

Loading

    กองทัพเรือสหรัฐฯ พัฒนาขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic) ต่อต้านเรือรบบนผิวน้ำ ร่วมกับบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) และบริษัท เรย์ธีออน (Raytheon)   ปัจจุบันเทคโนโลยีขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic) ได้รับความสนใจจากหลายประเทศ รวมไปถึงกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่ล่าสุดได้จับมือกับบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) และบริษัท เรย์ธีออน (Raytheon) ทำการพัฒนาขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic) เพื่อต่อสู้กับเรือบนผิวน้ำในโครงการ Hypersonic Air Launched Offensive Anti-Surface หรือ HALO   โครงการดังกล่าวมีมูลค่าสัญญา 116 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท เป้าหมายพัฒนาขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก HALO เพื่อติดตั้งเข้ากับเครื่องบินรบหลายรูปแบบของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา เช่น เครื่องบินขับไล่ F/A-18 Super Hornet และเครื่องบินขับไล่ F-35C ที่ได้รับการออกแบบมาใช้งานบนเรือบรรทุกเครื่องบินโดยเฉพาะ รวมไปถึงการติดตั้งขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิครุ่นใหม่เข้ากับเครื่องบินขับไล่เจเนอเรชันที่…

หนักกว่าเดิม สหรัฐเล็งใช้ อาวุธเลเซอร์ ตัวใหม่ ติดอาวุธโจมตีเป้าหมายเพิ่ม

Loading

  ไม่นานมานี้ บริษัท Lockheed Martin ได้ส่งมอบ อาวุธเลเซอร์ ที่ทรงพลังที่สุดในโลกให้กับกองทัพสหรัฐ เพื่อนำไปติดตั้งในเครื่องสาธิตอาวุธเลเซอร์ใหม่ที่ออกแบบมาโจมตีเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น   ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 บริษัทได้เปิดตัวอาวุธเลเซอร์ชื่อว่า HELIOS ที่บริษัทได้ส่งมอบให้กับกองทัพเรือสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมเพื่อนำไปประกอบรวมเข้ากับเรือรบที่มีอยู่ ซึ่งอาวุธเลเซอร์นี้สามารถทำลายเครื่องบินหรือหัวรบได้ก่อนที่มันจะมาถึงเรือ   แต่เลเซอร์ขนาดใหม่นี้ มีขนาด 300 กิโลวัตต์ ซึ่งมากกว่า 5 เท่าของ HELIOS นั่นแปลว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้เวลาน้อยลงในการทำลายเป้าหมาย สามารถโจมตีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นได้หลากหลายมากขึ้นในระยะไกลขึ้น   หากเทียบกับอาวุธอื่นเช่นจรวดมิสไซล์ หรือปืนกล อาวุธเลเซอร์ถือว่ามีประสิทธิภาพที่สูงกว่ามาก แถมยังมีต้นทุนในการยิงต่อครั้งไม่เกิน 100 ดอลลาร์ นับว่าเป็นเขี้ยวเล็บใหม่ของสหรัฐที่อาจทำให้หลาย ๆ ประเทศต้องยำเกรง     ที่มาข้อมูล https://newatlas.com/military/lockheed-martin-delivers-record-300-kw-laser-weapon-to-us-military/       ———————————————————————————————————————————————- ที่มา :    TechHub         …