FBI เตือน! ระวังแฮ็กเกอร์ส่งคำขอข้อมูลปลอม เพื่อขโมยข้อมูลลับของผู้ใช้งาน

Loading

  FBI ได้เตือนว่าแฮ็กเกอร์ได้คิดค้นวิธีใหม่ในการขโมยข้อมูล นั่นคือการโจมตีอีเมลทางการของหน่วยงานรัฐบาลและกรมตำรวจ จากนั้นจะนำมาใช้ส่งคำขอข้อมูล “ฉุกเฉิน”   คำขอข้อมูล “ฉุกเฉิน” เป็นกระบวนการที่ทางการสามารถขอให้บริษัทแบ่งปันข้อมูลที่ปกติถือเป็นความลับได้ มักใช้ในสถานการณ์ที่มีเดิมพันสูง เช่น ในกรณีที่ความปลอดภัยหรือชีวิตของบุคคลอยู่ในความเสี่ยง   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักฉ้อโกงพยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ อย่างไรก็ตาม ตามประกาศสาธารณะที่ FBI ยื่นเมื่อสัปดาห์นี้ พบว่าการโจมตีในลักษณะดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม   เจ้าหน้าที่ตรวจพบ scam เหล่านี้ได้อย่างไร?   FBI สังเกตเห็นโพสต์จำนวนหนึ่งจากแฮ็กเกอร์เหล่านี้บนฟอรั่มออนไลน์ ในช่วงปี 2023 และ 2024 ซึ่งพวกเขาอ้างว่ามีการเข้าถึงอีเมลที่ใช้โดยทางการสหรัฐฯ   เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2024 เมื่ออาชญากรไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงโพสต์ขายอีเมลของรัฐบาลที่มีคุณภาพสูงและข้อมูลการวิศวกรรมสังคมที่สามารถใช้ในการจารกรรม ลงบนฟอรั่มออนไลน์   ผู้ที่โพสต์ขายระบุว่าผู้ซื้อจะได้รับเอกสารหมายเรียกจริงที่ถูกขโมยมา และจะได้รับคำแนะนำในระหว่างกระบวนการ   โดยปกติแล้ว เมื่อคุณยื่นคำขอเข้าถึงข้อมูล คุณต้องมีการชี้แจงทางกฎหมายก่อน ซึ่งรวมถึงคำสั่งศาลและหมายเรียก (เฉพาะกรณีฉุกเฉินบางกรณีเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยไม่ต้องมีเอกสารทางกฎหมาย)   อย่างไรก็ตาม นี่ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับแฮ็กเกอร์อีกต่อไป เพราะแค่เข้าถึงอีเมลรัฐบาลได้ ก็สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการสร้างหมายเรียกที่ดูเหมือนจริง   โดยปกติ บริษัทจะตรวจสอบคำขอเหล่านี้อย่างละเอียด แต่ไม่ใช่ในกรณีฉุกเฉิน…

AI เติบโต – ไร้กรอบ? จับตาอนาคตเทคโนโลยีสหรัฐ หลังทรัมป์นั่งเก้าอี้ผู้นำ

Loading

  ทิศทางเทคโนโลยีสหรัฐ หลัง ‘ทรัมป์-มัสก์’ ร่วมมือ คาดนโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะผ่อนคลาย ผู้บริหารเทคฯ ยักษ์ใหญ่แห่สนับสนุน แม้สังคมห่วงขาดการกำกับดูแล   การกลับมาของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในฐานะว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 47 ทำให้หลายฝ่ายจับตามอง “ทิศทางนโยบายด้านเทคโนโลยี” ที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่นโยบายการกำกับดูแลด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่คาดว่าจะผ่อนคลายลงอย่างมีนัยสำคัญ   ซิลิคอนวัลเลย์พลิกขั้ว ซีอีโอเทคฯ แห่สนับสนุนทรัมป์   ทันทีที่ผลการเลือกตั้งประกาศชัยชนะของทรัมป์ บรรดาซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างรีบส่งข้อความแสดงความยินดี ซึ่งแตกต่างจากท่าทีที่ระมัดระวังในการเลือกตั้งปี 2016 และ 2020   ผู้บริหารจาก Amazon, Apple, Google, Meta และ Microsoft ต่างโพสต์ข้อความสนับสนุนบนโซเชียลมีเดีย สะท้อนว่า พวกเขา “มีความหวัง” ที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีคนใหม่ หลังจากที่พวกเขาเผชิญกับการตรวจสอบด้านการผูกขาดและการแข่งขันทางการค้าอย่างเข้มงวดในยุครัฐบาลไบเดน   มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark…

Meta โดนปรับจุก ๆ ถึง 101 ล้านดอลลาร์ เพราะเก็บรหัสผ่านแบบ Plain Text และยังโดนข้อหาอื่นอีก!)

Loading

เวลาที่คุณใช้งานเว็บไซต์ชื่อดังหลายเว็บไซต์นั้น คุณรู้สึกไหมว่าคุณกำลังให้ความไว้วางใจในเว็บไซต์นั้น ๆ มากเกินไป ซึ่งอาจจะมาจากเพราะชื่อเสียงที่เป็นที่โด่งดัง หรือ ดูมีความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี แต่ความเป็นผู้นำ ความมีชื่อเสียงนั้น ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะมีการจัดการที่ดีเสมอไป

สหภาพยุโรปสั่งปรับ Meta ราว 3,000 ล้านบาท กรณีเก็บพาสเวิร์ดเป็นข้อความธรรมดา

Loading

คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลของไอร์แลนด์ (DPC) ในฐานะหน่วยงานกำกับสิทธิความเป็นส่วนตัวหลักของสหภาพยุโรปสั่งปรับ Meta เป็นเงิน 91 ล้านยูโร (ราว 3,290 ล้านบาท) จากการเก็บพาสเวิร์ดผู้ใช้โดยไม่มีการป้องกันความปลอดภัย

เมื่อสิ่งที่เรากลัวเป็นจริง? แฉพันธมิตรเฟซบุ๊ก-กูเกิลใช้เอไอ “แอบฟัง” ผู้ใช้สมาร์ตโฟน!

Loading

แฉเอเจนซีการตลาดที่เป็นพันธมิตรกับเฟซบุ๊กและกูเกิล ใช้เอไอ “แอบฟัง” ผู้ใช้สมาร์ตโฟน เพื่อส่ง “โฆษณา” ที่ตรงกับสิ่งที่เราพูดคุยมาให้! ขณะที่ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ปฏิเสธรายงานการใช้ซอฟท์แวร์ดักฟังการสนทนา

จับโป๊ะ Facebook! เอี่ยว Cox ใช้ไมโครโฟนดักฟังยิงโฆษณา

Loading

อีกเบาะแสที่พิสูจน์ว่านักโฆษณาบางค่ายดักฟังเราผู้ใช้จริง ล่าสุดมีข้อมูลหลุดจากบริษัทที่เป็นพันธมิตรกับเฟซบุ๊ก (Facebook) ชื่อ Cox Media Group (CMG) ระบุว่ามีการใช้ซอฟต์แวร์ชื่อ “Active Listening” ซึ่งเน้นฟังเนื้อหาจากไมโครโฟนในเครื่องของผู้ใช้ เพื่อให้สามารถยิงโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น ด้านสังคมออนไลน์เซ็งทุกอย่างถูกกฏหมาย ขณะที่เจ้าใหญ่ทั้งกูเกิล (Google) อเมซอน (Amazon) รีบหนีชิงปัดไม่เกี่ยวข้องใด ๆ