MI6 ยืนยัน “รัสเซีย” แอบเป็นสปายช่วยอังกฤษตั้งแต่เริ่มสงครามยูเครน ฮือฮาใช้ AI ขวางส่งอาวุธเข้ามอสโก

Loading

  เอเจนซีส์/เอพี – วานนี้ (19 ก.ค.) หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับอังกฤษ MI6 เซอร์ ริชาร์ด มัวร์ กล่าวในกรุงปราก เปิดเผยว่า ตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่มต้นมีพลเมืองรัสเซียได้แอบช่วยเหลืออังกฤษด้วยการเป็นสายให้ พร้อมเรียกร้องให้ชาวรัสเซียที่ต้องการเห็นสงครามยุติออกมาให้ข้อมูลกับอังกฤษมากขึ้นเล็งเป้าไปที่การก่อหวอดคุกรุ่นไม่พอใจภายในกองทัพรัสเซีย หน่วยข่าวกรองรัสเซีย ก่อนเปิดเผยว่าสายลับ MI6 ใช้เทคโนโลยี AI ในการขัดขวางซัปพลายโลจิสติกส์อาวุธเข้ารัสเซีย   ฮัฟต์นิวส์ของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (19 ก.ค.) ว่าในที่ประชุมในกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก หัวหน้าหน่วยสืบราชการรับ MI6 เซอร์ ริชาร์ด มัวร์ (Sir. Richard Moore) ซึ่งมีรหัสโค้ดลับว่า C และใช้ปากกาสีเขียวเท่านั้นไม่ว่าจะเขียนบนกระดาษหรือบนคอมพิวเตอร์ก็ตามได้ออกมาเปิดเผยน้อยครั้งที่จะเกิดว่า นับตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่มต้นเมื่อกุมภาพันธ์ปี 2021 มีรัสเซียเข้ามาเป็นสายลับให้อังกฤษ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวรัสเซียที่มีใจรักความเป็นธรรมและต้องการเห็นสงครามสงบเข้ามาช่วยอังกฤษเพิ่ม   “ผมขอเชิญชวนพวกเขา (พลเมืองรัสเซีย) ให้ทำในสิ่งที่คนอื่นๆ ได้ทำก่อนหน้านี้เป็นเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา และร่วมมือกับพวกเรา”   และเสริมต่อว่า “ประตูของอังกฤษเปิดกว้างเสมอ และการเสนอความช่วยเหลือใดๆ…

ผู้นำหน่วยข่าวกรองอังกฤษชี้ AI ไม่สามารถแทนที่สายลับมนุษย์ได้

Loading

  นายริชาร์ด มัวร์ ผู้บัญชาการหน่วยสืบราชการลับอังกฤษ (MI6) เตรียมออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่รัสเซียไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการทหารในยูเครน และสาเหตุที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่อาจแทนที่เจ้าหน้าที่มนุษย์ ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชนซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในวันนี้ (19 ก.ค.)   นอกจากนี้ นายมัวร์ยังเตรียมกล่าวเกี่ยวกับกระแส “จักรวรรดินิยมรัสเซีย” ในแอฟริกาและวิธีการที่ประเทศอื่น ๆ เช่น อิหร่าน กำลังเติมเชื้อไฟให้กับความขัดแย้งในยูเครน โดยนี่จะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์สำคัญต่อสาธารณชนเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่นายมัวร์เข้ารับตำแหน่งในปี 2563 MI6 ระบุว่า นายมัวร์จะกล่าวสุนทรพจน์ในกรุงปราก เนื่องจาก “ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่ใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพระหว่างอังกฤษและสาธารณรัฐเช็ก และการคำนึงถึงบริบททางประวัติศาสตร์หลังการรุกรานยุโรปอีกครั้งของรัสเซีย” ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชนครั้งแรก นายมัวร์ได้ออกมาเตือนว่าจีนและรัสเซียกำลังแข่งกันเพื่อเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น AI และการประมวลผลควอนตัม โดยประเด็นดังกล่าวจะกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เจ้าหน้าที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทั่วโลกต่างแสวงหาแนวทางในการใช้งาน AI แต่นายมัวร์ยืนยันว่า AI จะเข้ามาเติมเต็มแต่จะไม่แทนที่มนุษย์ ซึ่งสามารถเปิดเผยความลับได้มากกว่าที่เทคโนโลยีจะเอื้อมถึง นายมัวร์จะกล่าวว่า “คุณลักษณะเฉพาะของเจ้าหน้าที่มนุษย์จะยังคงมีความสำคัญมากขึ้น พวกเขาจะไม่เพียงเป็นแค่ผู้รวบรวมข้อมูลเท่านั้น เจ้าหน้าที่ของเราสามารถรับมอบหมายหน้าที่และคำสั่งได้ พวกเขาสามารถคิดคำถามเพิ่มเติมที่เราไม่รู้เพื่อถามได้ และบางครั้งพวกเขาอาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจภายในของรัฐบาลหรือกลุ่มผู้ก่อการร้าย ซึ่งหน่วยข่าวกรองที่เป็นมนุษย์ในยุค AI จะถูกนิยามมากขึ้นว่าเป็น สิ่งที่เครื่องจักรไม่สามารถแทนที่ได้ แม้ว่าเราจะคาดหวังว่า…

สหราชอาณาจักรแต่งตั้ง ผอ.สายลับ ‘หญิง’ คนแรก

Loading

  สหราชอาณาจักรแต่งตั้ง Anne Keast-Butler เป็นผู้อำนวยการหญิงคนแรกของหน่วยข่าวกรอง ‘GCHQ’ โดยเธอได้รับมอบหมายให้ปกป้องประเทศจากผู้ก่อการร้าย อาชญากรไซเบอร์ และอำนาจจากต่างชาติที่มุ่งร้ายต่อประเทศ   เธอจะเข้ารับตำแหน่งนี้ในเดือนพฤษภาคม ต่อจาก Jeremy Fleming ซึ่งกำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งหลังรับหน้าที่มานานกว่า 6 ปี   James Cleverly รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งกล่าวว่า Keast-Butler มีประวัติการทำงานที่น่าประทับใจ Anne จะใช้ประสบการณ์อันล้นหลามของเธอเพื่อช่วยให้สาธารณชนชาวอังกฤษปลอดภัย   ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการใหญ่ของหน่วยข่าวกรองภายในประเทศของอังกฤษ หรือที่รู้จักในชื่อ MI5   GCHQ หรือกองบัญชาการสื่อสารของรัฐบาล ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลังครามโลกครั้งที่หนึ่ง เป็นหน่วยข่าวกรองและความมั่นคงของสหราชอาณาจักรซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Security Agency) เช่นเดียวกับหน่วยงานในแคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า “Five Eyes”   อย่างไรก็ดี ในปี 1992 Stella Rimington กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่เป็นผู้นำ MI5 และได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแรงบันดาลใจในการคัดเลือกให้ Judi Dench…

เตหะรานเดือด! เดินหน้าประหารชีวิต “สายลับสองหน้า MI6 อังกฤษ” เป็นถึงอดีตผู้ช่วย รมว.กลาโหมอิหร่านชื่อดัง

Loading

  เอเจนซีส์ – เตหะรานเตรียมเดินหน้าประหารชีวิต อาลีรีซา อัคบารี (Alireza Akbari) อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน ในข้อหาเป็นสายลับให้หน่วยงานข่าวกรองลับ MI6 ของอังกฤษ เชื่อโดนล้วงตับติดต่อเป็นสายให้เมื่อครั้งเดินทางเข้าสถานทูตอังกฤษเพื่อรับวีซ่า   เดลีเอ็กซเพรสของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี (12) ว่า อาลีรีซา อัคบารี (Alireza Akbari) อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่านถูกจับกุมในปี 2019 และปฏิเสธข้อกล่าวหา   ฟรานซ์24 รายงานว่า อัคบารีดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน ภายใต้ประธานาธิบดีอิหร่าน โมฮัมหมัด คาตามี (Mohammad Khatami) โดยเขาดำรงตำแหน่งมาจนถึงปี 2001 อัคบารีนอกจากจะถือสัญชาติอิหร่าน ยังถือสัญชาติอังกฤษอีกด้วย   อ้างอิงการรายงานจากสำนักข่าวกึ่งทางการอิหร่าน ทาสนิม (Tasnim) ศาลสูงสุดเตหะรานในวันพุธ (11) พิพากษายืนสั่งลงโทษประหารชีวิตโดยในคำพิพากษาระบุว่า   “อัคบารีเป็นสายลับคนสำคัญให้อังกฤษ”   ทั้งนี้ พบว่าอัคบารีปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019 และเคยเป็นเจ้าของสถาบันธิงแทงก์เอกชน สำนักข่าวทาสนิม รายงานต่อว่า เตหะรานเชื่อว่า อัคบารีได้รับการติดต่อให้เป็นสายลับจากหน่วยงาน…

เจมส์ บอนด์ : ฟังเจ้าหน้าที่ MI6 ตัวจริง ชำแหละหนังสายลับดังอิงความจริงแค่ไหน

Loading

  ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ภาคใหม่ล่าสุด “No Time to Die” เริ่มเข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว หลังการระบาดของโรคโควิดทำให้ต้องเลื่อนกำหนดฉายมาถึง 18 เดือน นี่เป็นภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ภาคที่ 25 และจะเป็นภาคสุดท้ายของเดเนียล เครก ผู้รับบทสายลับอังกฤษผู้โด่งดัง   หลายคนสงสัยมานานแล้วว่าตัวละครและพล็อตอันน่าตื่นเต้นนี้อิงเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในหน่วยข่าวกรองลับ MI6 หรือ Secret Intelligence Service (SIS) ของอังกฤษ มากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญไปกว่านั้น หน่วยงานแบบนี้ยังสำคัญอยู่หรือเปล่าในโลกยุคดิจิทัล “ฉันคิดว่าสิ่งที่แตกต่างมากที่สุด…” แซม (นามสมมติ) เล่า “คือเราให้ความร่วมมือ [กับหน่วยงานอื่น ๆ] มากกว่าตัวละครในหนังเจมส์ บอนด์ และจะมีน้อยครั้งมาก ๆ หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะออกไปตัวคนเดียว ไม่มีใครคอยสนับสนุน เรื่องทีมสำคัญมาก คุณจะมีทีมรักษาความปลอดภัยรายล้อมเสมอ”   แซมเป็นเจ้าหน้าที่ MI6 ซึ่งเคยทำงานด้านการต่อต้านการก่อการร้าย และเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองลับหลายคนที่ผมติดต่อขอสัมภาษณ์ก่อนภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ โอเค ถ้าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่ได้ออกไปลุยเดี่ยวแบบเจมส์ บอนด์…