คุยกับ ‘นักวิจัย AI ไทย’ พัฒนา ‘Sovereign AI’ ให้พึ่งพาตนเองได้จริง

Loading

    ดีลยักษ์ใหญ่ของ สยามเอไอ (SIAM AI) ที่ลงทุนซื้อชิป NVIDIA H100 และได้เชิญ เจนเซ่น หวง ผู้ก่อตั้ง เอ็นวิเดีย (Nvidia) มาเยือนประเทศไทย ได้ปลุกกระแสปั้นไทยเป็นผู้นำการประมวลผล AI ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้   แต่เส้นทางการไปสู่ดาต้าเซนเตอร์ระดับภูมิภาคนั้นไม่ง่ายและไม่ถูก หนึ่งในนักวิจัย AI ไทยที่สัมผัสชิป เอ็นวิเดียตั้งแต่รุ่นแรก ได้วิเคราะห์โอกาสและความท้าทายของไทยที่ต้องเตรียมพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไว้อย่างน่าสนใจ   รศ.ดร.ธนารัตน์ ชลิดาพงศ์ เจ้าของเพจ Carbonoi หรือ อ.ฝน อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และรองคณบดี สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า ย้อนไปตั้งแต่ปี 2563 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าแรกที่ลงทุนซื้อ NVIDIA DGX A100 มูลค่าหลายล้านบาทมาใช้ในงานวิจัย     คุยกับ ‘นักวิจัย AI ไทย’ พัฒนา…

จีน จ่อสั่งแบนชิป Intel ชี้ไม่ปลอดภัย คุณภาพต่ำ เรียกร้องให้ตรวจสอบด่วน

Loading

สมาคมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของจีน (CSAC) เรียกร้องให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ Intel ที่จำหน่ายในประเทศจีน โดยอ้างว่าผู้ผลิตชิปของสหรัฐฯรายนี้ “สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง” ต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ

Silicon Valley สหรัฐฯ เร่งคัดกรองพนักงานชาวจีนเพื่อป้องกันการจารกรรม

Loading

OpenAI หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่ได้เพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยพนักงานและผู้สมัครงาน   เว็บไซต์ VOA News รายงานเมื่อ 4 ก.ค.67 ว่า ซิลิคอนแวลลีย์ (Silicon Valley) ศูนย์รวมบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ อาทิ Google OpenAI NVIDIA และ Sequoia Capital ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับบุคคลต่อพนักงานและผู้สมัครงานทุกเชื้อชาติให้เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะชาวจีนหรือผู้ที่มีครอบครัวหรือมีความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงต่อแรงกดดันจากรัฐบาลจีนเป็นพิเศษ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์จากจีน และตอบสนองต่อคำเตือนของรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับภัยคุกคามจากการจารกรรมของจีนที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา   นักศึกษาจีนในสหรัฐฯ แซ่เจิ้ง ซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยชื่อจริงเพราะกลัวถูกตอบโต้จากรัฐบาลจีนและกำลังขอสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองในสหรัฐฯ กล่าวว่า “ฉันหวังว่าจะกลายเป็นกำลังสำคัญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ และมีบทบาทในการต่อสู้กับการโจมตีทางไซเบอร์ของจีน” อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กังวลว่าการตรวจสอบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนั้นจะส่งผลกระทบต่อโอกาสในการทำงาน แต่นักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯ หลายคนอาจกังวลว่าพวกเขาจะถูกปิดกั้นจากงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหรัฐฯ   นาย Ray Wang ซีอีโอของบริษัท Constellation Research ซึ่งตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์ อ้างว่า การขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ มีมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 และคนที่มีความเชื่อมโยงกับจีนมักตกเป็นเป้าหมาย โดยผู้คนในสหรัฐฯ ซึ่งมีญาติในจีน รัฐบาลจีนจะขอให้ทำงานบางอย่าง มิฉะนั้น…

รัฐบาลสหรัฐฯ ออกข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการขายชิปเซตให้กับรัสเซียและจีน

Loading

  ผู้ผลิตชิปเซตชั้นนำของโลกทั้งอินวิเดียและเอเอ็มดี กล่าวถึงการจำกัดการขายชิปเซตที่มีความสลับซับซ้อนให้กับรัสเซียและจีน ซึ่งเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ   ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการขายชิปเซตที่มีความสลับซับซ้อนทางเทคโนโลยีบางรุ่นให้กับรัสเซียและจีน   คำสั่งบริหารของปธน.ไบเดน ส่งผลให้ชิปเซตกราฟิกระดับไฮเอนด์ ที่ผลิตและจำหน่ายโดยเอเอ็มดี (AMD) และอินวิเดีย (Nvidia) จะไม่ถูกปล่อยไปยังคู่ขัดแย้งทางการเมืองของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาโดยง่าย ผู้ขายจำเป็นต้องขอใบอนุญาตส่งออกสำหรับการขายชิปเซต ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ มีความตั้งใจที่จะให้ชิปเซตระดับสูงเหล่านี้ ไม่ถูกนำไปใช้ทางการทหารของประเทศรัสเซีย และจีน   ในอดีตผลิตภัณฑ์ในส่วนชิปเซตกราฟิกระดับไฮเอนด์ มักถูกนำไปใช้สำหรับการพัฒนาวิดีโอเกม เพื่อให้ภาพที่ได้มีความสมจริงมากที่สุด แต่ในช่วง 10 ปีหลังสุด ชิปเซตกราฟิกระดับสูงหลายรุ่น ได้ถูกนำไปใช้กับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ และการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์   ในเวลาเดียวกัน ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ในหลายประเทศก็ถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาอาวุธทางการทหาร หรือในประเทศจีน ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้สอดส่องพลเมืองของตัวเอง ด้วยการระบุใบหน้าในภาพวิดีโอ เป็นต้น   ก่อนหน้านี้ อินวิเดีย มีลูกค้าจำนวนมากทั้งในประเทศจีน และรัสเซีย แต่จากการที่ รัสเซีย เข้าบุกรุกยูเครน จึงทำให้อินวิเดีย ไม่ได้ขายชิปเซตให้กับรัสเซียอีกแล้ว ซึ่งส่งผลให้อินวิเดียสูญเสียรายได้ราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสล่าสุด   ทางด้านเอเอ็มดี ยอมรับว่า…

Nvidia ออกแถลงการณ์ยอมรับถูกแฮ็กเกอร์ขโมยข้อมูล หลังถูกโจมตีด้วย Ransomware

Loading

  อินวิเดีย ผู้ผลิตชิปเซตยืนยันว่า พวกเขาถูกแฮ็กเกอร์โจมตี พร้อมกับขโมยข้อมูลสำคัญออกไป โดยเป็นข้อมูลในส่วนข้อมูลพนักงานและความลับทางการค้า สำนักข่าวเทคครันช์ เปิดเผยว่า อินวิเดีย (Nvidia) ผู้ผลิตชิปเซตชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ออกมายอมรับว่า ถูกแฮ็กเกอร์โจมตีด้วยซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่ หรือ Ransomware จนทำให้มีข้อมูลของพนักงาน และความลับทางการค้าของบริษัท ออกไปจากเครือข่าย การโจมตีอินวิเดียในครั้งนี้ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คือกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีชื่อว่า Lapsus$ ซึ่งพวกเขาอ้างว่า ได้ขโมยข้อมูลจากอินวิเดียเป็นจำนวน 1TB ภายในประกอบไปด้วยความลับทางการค้า ข้อมูลสำคัญของบริษัท รวมถึงซอร์สโค้ดอันเป็นทรัพย์สินของอินวิเดีย อันที่จริง กลุ่ม Lapsus$ ถือว่ายังมีบทบาทในวงการแฮ็กเกอร์ไม่มากนัก แต่พวกเขาก็เคยเข้าไปโจมตีกระทรวงสาธารณสุขของประเทศบราซิลในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว พร้อมกับขโมยข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนของพลเมืองเป็นไฟล์ที่มีขนาด 50TB นอกจากนั้น พวกเขามีความพยายามที่จะโจมตีบริษัทสื่อชื่อดังของโปรตุเกสอย่าง Impresa และบริษัทโทรคมนาคม Claro และ Embratel ซึ่งมีขอบเขตการให้บริการในอเมริกาใต้ ดังนั้นแล้วจึงมีการคาดการณ์กันว่า Lapsus$ น่าจะมีฐานอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ เพียงแต่ก็ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดมากนักในเวลานี้ นับตั้งแต่อินวิเดียถูกโจมตีในวันแรกๆ มีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าประเด็นดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ยูเครนและรัสเซียหรือไม่ ก่อนที่อินวิเดียจะออกมายืนยันว่า การโจมตีครั้งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ และไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงต่อสถานการณ์ดังกล่าว ที่มา: TechCrunch    …