นักกฎหมายชี้ ขึ้นเครื่องบินทั้งที่รู้ว่าติดโควิด มีความผิดทั้งอาญาและแพ่ง

Loading

  นักกฎหมาย ชี้ กรณีหนุ่มสาวนั่งเครื่องบินกลับบ้านที่นครศรีธรรมราชทั้งที่รู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ และยังเข้าข่ายผิดอาญาและแพ่งอีกด้วย ตำรวจตามจับได้ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.64 ว่าที่พันตรี ดร.สมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีคู่รักชายหญิงรู้ตัวว่าติดโควิด-19 แล้วยังนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯไปยังต่างจังหวัดภูมิลำเนาเป็นผลให้สายการบินต้องพักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งผลัดเวรเพื่อกักตัวดูอาการ ทำให้ต้องเสียแรงงานกับผู้โดยสารอื่นๆ ที่ต้องประสบปัญหาติดตามกันมา รู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อโควิด-19 แล้วยังเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งมีผู้โดยสารจำนวนมากตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น โดยปกปิดอาการป่วยของตนเอง จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารอื่นอาจติดเชื้อโควิด-19 ได้ นอกจากจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อแล้ว ในทางอาญาอาจถือได้ว่าเจตนาทำร้ายร่างกายผู้อื่น กระทำโดยรู้สำนึก โดยประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลว่าจะทำให้ผู้โดยสารอื่นติดเชื้อโรคโควิด-19 เพราะตนเองทราบดีอยู่แล้ว ติดเชื้อมาตั้งแต่ก่อนเดินทาง และตนเองสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้โดยสารคนอื่นได้ และถ้าการติดเชื้อจนทำให้ผู้โดยสารอื่นป่วยรุนแรงถึงขั้นสาหัส หรือตาย โทษก็จะหนักขึ้นตามผลของการกระทำความผิดได้อีกด้วย ซึ่งคดีลักษณะนี้ ศาลในประเทศสหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ได้เคยพิพากษาลงโทษทางอาญาแล้ว แม้ผู้โดยสารอื่นยังไม่ติดเชื้อก็เป็นความผิดอาญา ฐานพยายามทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วย   สำหรับสถานที่เกิดเหตุในคดีอาญา เมื่อผู้ต้องหากระทำความผิดต่อเนื่องกันในท้องที่ต่างๆ เกินกว่าท้องที่หนึ่งขึ้นไป พนักงานสอบสวนในท้องที่หนึ่งท้องที่ใดที่เกี่ยวข้องมีอำนาจสอบสวนได้ทุกท้องที่ แต่พนักงานสอบสวนท้องที่ใดจะเป็น “ผู้รับผิดชอบ” ในการสอบสวน และส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ แบ่งเป็น 2 กรณี…

มาตรการคุม “ปืนผี” ของไบเดน ส่วนเล็กๆ ของปัญหาความรุนแรงจากปืนในอเมริกา

Loading

  ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการฝ่ายบริหาร 6 ข้อ ควบคุมการซื้อขายอาวุธปืน เน้นที่การกวาดล้าง “ปืนผี” หรือปืนแบบทำเองไม่มีทะเบียน ไม่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้ หาซื้อง่ายตามตลาดมืด และมักถูกนำมาใช้เป็นอาวุธก่อเหตุกราดยิงนองเลือดหลายครั้ง แกนนำอาวุโสของ ส.ส.รีพับลิกัน ออกมาคัดค้าน พร้อมเตือนว่ามาตรการควบคุมปืน เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิ์ในการครอบครองอาวุธส่วนตัว เช่น ปืนพก สถิติระบุว่าชาวอเมริกันเสียชีวิตจากความรุนแรงที่จบลงด้วยการใช้อาวุธปืนสังหารวันละกว่า 100 คน ขณะที่ปี 2563 ชาวอเมริกันเสียชีวิตจากอาวุธปืนเกือบ 20,000 คน เป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษ   หลังเกิดเหตุสลดมือปืนบุกกราดยิงหลายครั้งในสหรัฐฯ นับตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 25 ศพ ล่าสุดประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศมาตรการฝ่ายบริหาร 6 ข้อ เพื่อควบคุมความรุนแรงจากอาวุธปืนที่เขาระบุว่ากำลังเป็น “โรคระบาด” และ “ความอับอายขายหน้าระหว่างประเทศ” ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการปิดช่องโหว่ของการผลิตอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน ตลอดจนปืนที่ทำจากเครื่องพิมพ์สามมิติ โดยมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมออกระเบียบข้อจำกัด “ปิดช่องโหว่” ควบคุมการซื้อขายปืนผี ทั้งการซื้อทางออนไลน์…

ครม. จัดระเบียบก๊าซหุงต้ม ห้ามตั้งในอาคารชุด-ตึกแถว

Loading

    ครม.ประยุทธ์ จัดระเบียบร้านขายก๊าซหุงต้ม ห้ามตั้งร้านในอาคารชุด-ตึกแถว และต้องได้รับการยินยอมจากตึกแถวข้างเคียง-ผนังร่วมกัน เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจำหน่าย พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ เพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยให้เหมาะสมกับสภาพการประกอบกิจการในปัจจุบัน และเป็นไปตามกฎหมายแม่บท ซึ่งร่างกฎกระทรวงมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับที่ตั้ง แผนผัง รูปแบบ และลักษณะของสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจำหน่าย การเก็บรักษาและการจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว อาทิ 1.ห้ามตั้งร้านจ้าหน่ายถังก๊าซหุงต้มในอาคารชุด อาคารสรรพสินค้า อาคารแสดงสินค้า หรือสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว 2.ร้านจำหน่ายที่อยู่ห่างจากอาคารอื่น ไม่เกิน 6 เมตร ให้เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวได้ไม่เกิน 2,400 ลิตร ถ้าอยู่ห่างจากอาคารอื่น เกิน 6 เมตรขึ้นไป ให้เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวได้ไม่เกิน 12,000 ลิตร และ 3.ร้านจำหน่ายลักษณะที่ 2 (ร้านจำหน่ายที่มีการเก็บก๊าซปริโตรเลียมเหลวเกิน 500 ลิตรขึ้นไป) ต้องมีระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย แบบกระจายน้ำดับเพลิง…

ปอท.เตือน! April Fool’s Day โพสต์ข่าวปลอม แชร์ข่าวปลอม มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ

Loading

  30 มีนาคม 2564 เพจเฟชบุ๊ก กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี-บก.ปอท.ได้โพสต์เตือนว่า ในวันที่ 1 เมษายน ของทุกปี ในหลายประเทศทั่วโลก ถือเป็นวันโกหก (April Fool’s Day) โดยผู้คนจะเล่นมุกตลกและเรื่องหลอกลวงต่อกัน แต่สำหรับในประเทศไทยนั้น การโพสต์ข้อความหลอกลวงหรือแชร์ข่าวปลอม ที่อาจทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดได้ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปอท. จึงฝากเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังในการโพสต์หรือแชร์ข่าวต่างๆในโซเชียลมีเดีย ว่ามีโทษจำคุกและเสียค่าปรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน มาตรา 14 (2) ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มาตรา 14(5) ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวข้างต้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   —————————————————————————————————————————— ที่มา…

จีนคุม ‘แอปฯ มือถือ’ ห้ามเก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้เกินจำเป็น เริ่มพ.ค. นี้

Loading

  จีนคุม ‘แอปฯ มือถือ’ ห้ามเก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้เกินจำเป็น เริ่มพ.ค. นี้ สำนักกำกับดูแลไซเบอร์สเปซแห่งประเทศจีน (CAC) รายงานว่าทางการจีนออกแนวปฏิบัติห้ามผู้ให้บริการแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็นอย่างผิดกฎหมาย แนวปฏิบัติดังกล่าวระบุว่าแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือไม่สามารถปฏิเสธการเข้าถึงบริการของผู้ใช้ได้ หากผู้ใช้ปฏิเสธจะแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็น ขอบเขตข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นสำหรับแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ 39 ประเภท เช่น แอปพลิเคชันนำทางอาจเข้าถึงตำแหน่งที่อยู่ ต้นทางและปลายทางของผู้ใช้ หรือแอปพลิเคชันส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้ บัญชีการส่งข้อความ และบัญชีของผู้ติดต่อ ทั้งนี้ สำนักฯ เผยว่าแนวปฏิบัติดังกล่าวมีเป้าหมายควบคุมการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ เพื่อรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป ข้อมูลจาก สำนักข่าวซินหัว ——————————————————————————————————————————————- ที่มา : thebangkokinsight           / วันที่เผยแพร่ 23 มี.ค.2564 Link : https://www.thebangkokinsight.com/579175/

ญี่ปุ่น บังคับใช้แล้ว! บินเข้าประเทศ ต้องติดตั้งแอพติดตามตัว-ฝ่าฝืนมีโทษ

Loading

  ญี่ปุ่น บังคับใช้แล้ว! ทั้งพลเมืองและชาวต่างชาติ ที่บินเข้าประเทศ ต้องติดตั้งแอพพลิเคชัน ยืนยันตำแหน่งติดตามตัว หากฝ่าฝืนมีโทษ     ญี่ปุ่นประกาศใช้นโยบาย ให้พลเมืองญี่ปุ่น พลเมืองถาวรญี่ปุ่น และวีซ่าทุกประเภท ทั้งวีซ่าธุรกิจและวีซ่าท่องเที่ยวชั่วคราว ที่เดินทางเข้าประเทศ ต้องติดตั้งแอพพลิเคชัน เพื่อยืนยันตำแหน่งตัวบุคคล ซึ่งมีผลบังคับใช้สำหรับ ผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น ผ่านสนามบินฮาเนดะและสนามบินนาริตะ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบินระหว่างประเทศที่สำคัญของประเทศ นโยบายดังกล่าว ถูกประกาศใช้โดยกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการ นโยบายดังนี้มีผลต่อ ผู้เดินทางขาเข้าทุกประเภท ซึ่งมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 64 เป็นต้นไป ผู้เดินทางเข้าประเทศ จะต้องติดตั้งแอพพลิเคชัน 3 แอพพลิเคชัน บนสมาร์ทโฟน ก่อนออกจากสนามบิน และต้องได้รับการยืนยันว่ามีการติดตั้งแล้วจริง       โดยแอพพลิเคชันทั้ง 3 แอพพลิเคชัน ได้แก่ แอพฯติดตาม COCOA COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการ, แอพฯ Skype และ แอพฯ OSSMA…