รู้จัก “โนวีชอก” สารพิษทำลายประสาทที่ใช้วางยาอดีตสายลับรัสเซีย

Loading

นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของสหราชอาณาจักร เผยต่อที่ประชุมสภาสามัญชนว่า กรณีที่นายเซอร์เก สกริปาล อดีตสายลับรัสเซียและบุตรสาวถูกลอบทำร้ายด้วยสารพิษนั้น ผลการตรวจสอบชี้ว่าสารเคมีดังกล่าวคือสารพิษทำลายประสาทกลุ่ม “โนวีชอก” (Novichok) ที่คิดค้นโดยสหภาพโซเวียต ซึ่งปกติแล้วจะถูกนำไปใช้เป็นอาวุธเคมี การที่สารพิษดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้บงการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับจะเป็นทางการรัสเซียเอง ซึ่งรัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังเรียกร้องให้รัสเซียชี้แจงภายในวันนี้ (13 มี.ค.) มิฉะนั้นจะถือว่ารัสเซียได้ “ใช้กำลังโดยผิดกฎหมาย” ในดินแดนของอังกฤษ ซึ่งทำให้ชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย ชื่อของสารพิษทำลายประสาท “โนวีชอก” มีความหมายว่า “ผู้มาใหม่” หรือ “เด็กใหม่” ในภาษารัสเซีย เป็นสารพิษกลุ่มที่พัฒนาขึ้นระหว่างช่วงทศวรรษ 1970-1980 เพื่อใช้งานเป็นอาวุธเคมี “รุ่นที่ 4” ในปี 1999 เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯได้ค้นพบสารพิษนี้จำนวนหนึ่งในอุซเบกิสถาน ขณะเข้าตรวจสอบและทำลายโรงงานผลิตอาวุธเคมีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหภาพโซเวียต ทำให้พบว่าสารพิษกลุ่มโนวีชอกนั้นได้รับการออกแบบคิดค้นมาเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติตรวจพบร่องรอยได้โดยง่าย สารพิษตัวหนึ่งในกลุ่มนี้คือโนวีชอก เอ-230 (Novichok-A-230) มีความเป็นพิษรุนแรงยิ่งกว่าก๊าซพิษซารินและสารพิษทำลายประสาทวีเอ็กซ์ (VX nerve agent) ที่ใช้ลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือราว 5-8 เท่า ทั้งยังเป็นสารเคมีที่ซับซ้อนยากต่อการพิสูจน์บ่งชี้หลังการใช้งานว่าเป็นสารชนิดใดกันแน่อีกด้วย มีรายงานว่ารัสเซียได้ผลิตสารพิษโนวีชอก เอ-230 ในรูปแบบใหม่ออกมาอีก…

รัฐสภาฟลอริดาผ่านกฎหมายเพิ่มอายุขั้นต่ำผู้ซื้อปืน-ให้บุคลากรในโรงเรียน “พกอาวุธ”

Loading

รอยเตอร์ – รัฐสภาแห่งรัฐฟลอริดาผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยอาวุธปืนเมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) โดยกำหนดเพิ่มอายุขั้นต่ำสำหรับบุคคลที่จะซื้อปืนไรเฟิลเป็น 21 ปี การจำหน่ายปืนทุกประเภทต้องมีระยะเวลารอ 3 วัน และอนุญาตให้ลูกจ้างบางคนในโรงเรียนของรัฐสามารถพกอาวุธได้ มาตรการทางกฎหมายล่าสุดมีขึ้นหลังเกิดโศกนาฏกรรมกราดยิงโรงเรียนมัธยม มาร์จอรี สโตนแมน ดักลาส ในเมืองพาร์คแลนด์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งทำให้นักเรียนและครูเสียชีวิตรวม 17 ราย และนำมาซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ต้องการเห็นรัฐควบคุมปืนมากกว่านี้ แม้ร่างกฎหมายฉบับนี้จะครอบคลุมข้อเสนอส่วนใหญ่ของนักเรียนและผู้ปกครอง แต่ยังไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องสำคัญ คือการสั่งแบนปืนไรเฟิลจู่โจมแบบที่ถูกนำมาใช้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ฝ่ายที่สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้อ้างว่า เหตุกราดยิงโรงเรียนในสหรัฐฯ ซึ่งเกิดถี่ขึ้นจนน่าตกใจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คนร้ายมักจะใช้ “ปืนพก” เสียเป็นส่วนใหญ่ มาตรการเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายโดยอัตโนมัติภายใน 15 วัน เว้นเสียแต่จะถูก “วีโต” โดย ริค สก็อตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาซึ่งเป็นคนของพรรครีพับลิกัน โฆษกหญิงของ สก็อตต์ ออกมาระบุเมื่อวันอังคาร (6) ว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงนามรับรองร่างกฎหมายนี้หรือไม่ ร่างกฎหมายยังเปิดทางให้บุคลากรในโรงเรียนสามารถพกปืนขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งก็มีเสียงวิจารณ์ว่า การอนุญาตเช่นนี้อาจทำให้นักเรียนส่วนน้อยเสี่ยงต่อการถูกยิงเพราะทำผิดวินัย…

เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ปลิดชีพ-กราดยิงสถานทูตฝรั่งเศสและกองบัญชาการใหญ่กองทัพบูร์กินาฟาโซ ยอดดับล่าสุด30ศพ เจ็บ 90ราย

Loading

  วันนี้( 3 มี.ค.61) เกิดเหตุโจมตี 2 แห่งพร้อมกันที่กรุงวากาดูกู เมืองหลวงของประเทศบูร์กินาฟาโซ ในทวีปแอฟริกา คือที่สถานทูตฝรั่งเศส และกองบัญชาการใหญ่กองทัพบูร์กินาฟาโซ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอย่างไม่เป็นทางการ เพิ่มขึ้นเป็น 30 ราย บาดเจ็บ 90 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นทหารบูร์กินาฟาโซ ด้านรัฐบาลบูร์กินาฟาโซเปิดเผยรายละเอียดของเหตุร้ายที่เกิดขึ้นว่า สถานทูตฝรั่งเศสถูกโจมตีก่อน โดยเหตุการณ์เริ่มขึ้นจากมือปืน 5 คน เปิดฉากกราดยิงกลางกรุงวากาดูกู จากนั้นกลุ่มมือปืนได้วิ่งไปกราดยิงที่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส ทั้งนี้ ในเวลาเดียวกันนั้น เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ปลิดชีพตนเอง ที่กองบัญชาการใหญ่กองทัพบูร์กินาฟาโซ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานทูตฝรั่งเศสเพียง 1 กิโลเมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 คน คาดว่าเป้าหมายการโจมตี คือการประชุมต่อต้านการก่อการร้ายระดับภูมิภาค ซึ่งมีตัวแทน 5 ชาติแอฟริกาเข้าร่วม คือบูร์กินาฟาโซ ช้าด มาลี มอริตาเนีย และไนเจอร์ ซึ่งกำลังจะเปิดประชุมที่กองบัญชาการใหญ่ดังกล่าว แต่เหตุระเบิดได้เกิดขึ้นก่อนการประชุม ด้านนายคลีเมนท์ ซาวาโดโก รัฐมนตรีความมั่นคงบูร์กินาฟาโซ ระบุว่า กลุ่มคนร้ายมีทั้งหมด 8 คน…

จับหนุ่มมาเลย์พกปืนขึ้นการบินไทยไปกัวลาลัมเปอร์ บินไทยแจงเครื่องไม่ได้ถูกจี้

Loading

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางการปากีสถานสามารถจับกุมชายชาวมาเลเซีย ที่แยกชิ้นส่วนปืนบรรจุลงในกระเป๋าเดินทาง ก่อนจะขึ้นเครื่องของการบินไทยเที่ยวบินที่ TG342 มุ่งหน้าสู่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แต่ถูกเจ้าหน้าที่สนามบินตรวจพบและรวบตัวได้คาสนามบินการาจี ด้าน รายงานข่าวจากฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กรบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ชี้แจงถึงกรณีสื้อต่างประเทศออกมาระบุว่า เครื่องบินของการบินไทยเที่ยวบิน TG342 ถูกจี้ ว่ากรณีดังกล่าวไม่ใช่กรณีของการจี้เครื่องบินของการบินไทย แต่เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบมีคนพยายามนำอาวุธขึ้นไปบนเที่ยวบินโดยสารของการบินไทย แต่ทางการสามารถตรวจจับไว้ได้ก่อนที่จะมีการนำอาวุธขึ้นเครื่องบิน รายงานข่าวจากบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่การจี้เครื่องบินTG 342 ที่จะออก เดินทางจากการาจี-กรุงเทพ เมื่อคืนวาน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบอาวุธและจับกุมตั้งแต่ บริเวณประตูทางเข้าสนามบิน โดยที่ยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการเช็กอินเพื่อขึ้นเครื่องบิน ดังนั้นจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นผู้โดยสารของเที่ยวบินทีจี TG 342 ส่วนกรณีที่สื่อต่างประเทศมีการระบุว่าผู้ถูกจับกุม กำลังจะโดยสารไปกับเที่ยวบิน TG 342 ของการบินไทยนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่า สื่อต่างชาติใช้วิธีการคาดเนื่องจากในช่วงเวลาที่บุคคลคนดังกล่าวถูกจับกุมนั้นเป็นช่วงเวลาที่มี เที่ยวบินที่กำลังจะออกเดินทางจากกรุงการาจีจำนวน4เที่ยวบิน ซึ่งประกอบด้วยเที่ยวสายการบินไทยเที่ยวบินทีจี 342 เที่ยวบินของสายการบินเอ็มเจ็ต และเที่ยวบินของสายการบินปากีสถานแอร์ไลน์ เป้นต้น อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินทีจี 342 เส้นทางการาจี-กรุงเทพ สามารถออกเดินทางได้ตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาขัดข้องใดๆและเดินทางได้มาถึงประเทศไทยโดยปลอดภัยแล้ว ————————————————————————— ที่มา…