ราชทัณฑ์ไอร์แลนด์เหนือ โดนระเบิดบาดเจ็บ

Loading

     ตำรวจไอร์แลนด์เหนือแถลงว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิดที่อำพรางไว้ใต้ท้องรถแวนทางตะวันออกองเมืองเบลฟาร์ส เขตไอร์แลนด์หนือ ขณะนี้ยังไม่กลุ่มใดอ้างรับผิดชอบ แต่การใช้กับระเบิดแบบนี้เป็นวิธีที่กลุ่ม Irish Republican Army factions กลุ่มก่อการร้ายในเขตไอร์แลนด์เหนือนิยมใช้เพื่อลอบสังหาร ก่อกวนเจ้าหน้าที่ศาล ดำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของไอร์แลนด์หนือ กลุ่ม Irish Republican Army factions เป็นกลุ่มที่พยายามเรียกร้องให้อังกฤษถอนตัวออกจากการปกครองเขตไอร์แลนด์หนือ แต่หยุดการเคลื่อนไหวมากว่า 10 ปี ———————————— ที่มา : The Washington Post / วันที่ 4 มีนาคม 2559  

ฝรั่งเศสอนุมัติให้ตำรวจพกอาวุธหนัก หวังรับมือก่อการร้ายทันท่วงที

Loading

     เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ระบุเมื่อวันจันทร์ (29 ก.พ.) ว่าตำรวจปารีสจะเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มแรกของเมืองหลวงแดนน้ำหอม ที่ได้รับอาวุธไรเฟิลจู่โจม กับโล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟไปใช้งาน หลังเกิดเหตุก่อการร้ายเมื่อปีที่แล้ว      แบร์นาร์ด คาเซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสระบุว่า ที่ผ่านมาอาวุธเหล่านี้ถูกสงวนไว้ให้เฉพาะกองกำลังระดับหัวกะทิ แต่ตอนนี้จะเปิดโอกาสให้ตำรวจได้ใช้ เพื่อจะได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที คอยหนุนให้กับทีมเจ้าหน้าที่ตรวจตรา โดยเฉพาะเวลาที่เจอกับการสังหารหมู่      “อาชญากรบางรายที่คุณต้องเผชิญหน้าด้วยนั้น พวกเขาไม่ลังเลใจที่จะใช้อาวุธหนักกับคุณ ดังนั้นคุณจะต้องพกพาอาวุธหนักเพื่อยิงตอบโต้กลับไป รวมถึงต้องมีการป้องกันที่เหมาะสมด้วย” คาเซเนิฟ บอกกับบรรดาเจ้าหน้าที่ในสถานีตำรวจปารีส      ตำรวจหน่วยต่อต้านอาชญากรรม (บีเอซี) ที่มักจะปฏิบัติการในชุดสวมใส่ธรรมดา จะได้รับไรเฟิลจู่โจม “Heckler & Koch G36” จำนวน 204 กระบอก, เสื้อเกราะกันกระสุน 1,800 ตัว, โล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟ 241 อัน อุปกรณ์ใหม่เหล่านี้ยังรวมถึงปืนไฟฟ้า “เทเซอร์” กับของอื่นๆ รวมทั้งสิ้นมีมูลค่าราว 17 ล้านยูโร…

สหรัฐบังคับใช้กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่ คุมเข้ม 38 ประเทศ หวั่นก่อการร้าย

Loading

     กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่ของสหรัฐ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว ส่งผลให้ประชาชน 38 ประเทศ ที่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐภายใต้โครงการยกเว้นวีซ่า ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนจะเดินทางเข้าสหรัฐ ขณะที่อิหร่าน ได้ออกมาร้องเรียนว่าเป็นกฎหมายที่ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ทำไว้กับ 6 ชาติมหาอำนาจ      ปัญหาการก่อการร้ายจากการโจมตีกรุงปารีส ของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ปีก่อน ได้ทำให้สหรัฐตัดสินใจทบทวนโครงการยกเว้นวีซ่ากับ 38 ประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัย จนนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่ในการคุมเข้มสำหรับชาวต่างชาติ ส่งผลให้ประชาชนในประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าภายใต้โครงการดังกล่าว ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนจะเดินทางเข้าสหรัฐ      กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่นี้ มีผลบังคับใช้ทันทีที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ลงนามรับรองเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติรับรองร่างกฎหมายเพิ่มความเข้มงวดต่อโครงการยกเว้นวีซ่าเข้าสหรัฐอย่างท่วมท้นด้วยคะแนนเสียง 407 ต่อ 19 เสียง      โดยการลงมติครั้งนี้ ได้ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดใหม่เรื่องการขอวีซ่าสำหรับพลเมืองชาวอิรัก ซีเรียและประเทศอื่นๆที่เชื่อได้ว่าเป็นแหล่งของพวกก่อการร้ายตลอดจนใครก็ตามที่เดินทางไปยังประเทศเหล่านั้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนประชาชนที่เคยเดินทางไปอิหร่านและซูดานที่สหรัฐกล่าวหาว่าสนับสนุนการก่อการร้ายจำเป็นต้องขอวีซ่าด้วย นอกจากนี้ มาตรการใหม่ยังกำหนดให้ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการยกเว้นการขอวีซ่าทำการตรวจสอบนักเดินทางที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลของตำรวจสากล เพื่อพิจารณาว่าคนเหล่านั้นเป็นที่ต้องการของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายฐานมีความสัมพันธ์กับการก่อการร้าย หรือการก่ออาชญากรรมใดๆ หรือไม่      ทั้งนี้ภายใต้โครงการดังกล่าว…

มาเลเซียดูแลเมืองหลวงเข้มหวั่นก่อการร้าย

Loading

ฝ่ายความมั่นคงมาเลเซียเพิ่มการลาดตระเวนในเมืองหลวง ออสเตรเลียเตือนอาจเกิดเหตุก่อการร้าย      ฝ่ายความมั่นคงมาเลเซียเพิ่มการลาดตระเวนในเมืองหลวง หลังกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียออกประกาศเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุก่อการร้ายขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์      ผู้บัญชาการตำรวจกัวลาลัมเปอร์ “นายทายุดดิน โมฮัมหมัด อีซา” เปิดเผยว่า ตำรวจได้เพิ่มการลาดตระเวนในพื้นที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงแรมและห้างสรรพสินค้า พร้อมขอให้ประชาชนแจ้งข้อมูลแก่ตำรวจทันที ที่เห็นหรือพบสิ่งผิดสังเกต      ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลีย ได้ออกประกาศเตือนเมื่อวานนี้ (21 ก.พ.) ให้พลเมืองของตนในมาเลเซียเฝ้าระวังเนื่องจากผู้ก่อการร้ายอาจกำลังวางแผนก่อเหตุโจมตีขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งปัจจุบันนี้มาเลเซียได้เพิ่มการเฝ้าระวังมาตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีในกรุงจาการ์ตาเมื่อเดือนก่อน โดยกระทรวงมหาดไทยมาเลเซีย แจ้งว่า มีชาวมาเลเซีย 137 คน ไปร่วมรบกับกลุ่มรัฐอิสลาม ขณะที่ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายจับกุมชาวมาเลเซียผู้ต้องสงสัยสนับสนุนกลุ่มไอเอสได้กว่า 100 คน แต่มาเลเซียยังไม่เคยเกิดเหตุก่อการร้ายโดยกลุ่มไอเอส ——————————– ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 Link : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/687897

ออสเตรเลียเตือนก่อการร้ายใน “กัวลาลัมเปอร์” แนะนักท่องเที่ยวใช้ความระมัดระวัง

Loading

หน่วยรักษาความปลอดภัยเดินตรวจตรารอบๆ ศูนย์การค้า Suria KLCC ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคารแฝดเปโตรนาส ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ (ภาพ – AP)    เอเอฟพี – รัฐบาลออสเตรเลียประกาศเตือนความเสี่ยงก่อการร้ายในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย พร้อมแนะนักท่องเที่ยวใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ หลังหน่วยงานความมั่นคงสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเครือข่ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้แล้วหลายราย      “กลุ่มก่อการร้ายอาจกำลังวางแผนโจมตีทั้งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และพื้นที่โดยรอบ” กระทรวงการต่างประเทศและพาณิชย์ออสเตรเลียระบุในคำเตือนซึ่งประกาศออกมาเมื่อค่ำวานนี้ (21 ก.พ.)      “การโจมตีดังกล่าวอาจกระทำแบบไม่เลือกหน้า โดยพุ่งเป้าไปที่ทรัพย์สินของชาติตะวันตก หรือสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งชาวตะวันตกนิยมไป ท่านจึงควรใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษในช่วงนี้”      แคนเบอร์รายังคงระดับการเตือนภัยสำหรับมาเลเซียไว้ในขั้น “ใช้ความระมัดระวังตามปกติ” แต่เตือนว่า “มีความเสี่ยงที่จะเกิดการก่อการร้าย ทั้งในกรุงกัวลาลัมเปอร์และเมืองใหญ่อื่นๆ”      ทางการออสซี่อ้างถึงกรณีที่ตำรวจมาเลเซียสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายที่เชื่อว่ามีแผนโจมตีสถานที่สำคัญ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวและสถานบันเทิงในกรุงกัวลาลัมเปอร์      เดือนที่แล้ว ตำรวจเสือเหลืองจับกุมชายฉกรรจ์จำนวน 7 คนซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส โดยหนึ่งในนั้นอาจเคยติดต่อกับ บาห์รุม นาอีม นักรบอิสลามิสต์ชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่ใจกลางกรุงจาการ์ตาเมื่อเดือนที่แล้ว      ตำรวจอินโดนีเซียระบุว่า…

สายการบินเวอร์จินของออสเตรเลีย ต้องลงจอดที่บริสเบน หลังจากโดนขู่วางระเบิด

Loading

     สายการบินเวอร์จินของออสเตรเลีย เที่ยวบินซิดนีย์-ลอสแอลเจลิส ต้องลงจอดที่บริสเบน หลังจากได้รับคำขู่วางระเบิด ตำรวจเข้าตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งที่เป็นอันตรายใด ๆ และจะออกเดินทางในเวลากลางคือของวันที่ 17 ก.พ.59      ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่าน โรงเรียนกว่า 12 แห่งทั่วประเทศไดด้รับคำขู่ลอบวางระเเบิดหรือซุ่มยิง ตำรวจออสเตรเลียเชื่อว่าเป็นการกระทำของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่นอกประเทศ ————————————— ที่มา : The New York Times / 17 กุมภาพันธ์ 2559