ครม. ตูนิเซียประชุมฉุกเฉิน หาทางคลี่คลายปัญหา หลังการประท้วงตกงานทวีความรุนแรง

Loading

     รัฐบาลตูนิเซียประชุมฉุกเฉินในวันนี้ (23 ม.ค.) เพื่อหารือสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศ หลังจากที่เมื่อคืนได้ประกาศมาตรการห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลทั่วประเทศ เนื่องจากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การประท้วงเพื่อกดดันให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาการว่างงานได้ทวีความรุนแรง มีการปะทะกับเจ้าหน้า บุกชิงทรัพย์และทำลายทรัพย์สิน      ในการแถลงทางโทรทัศน์เมื่อวาน (22 ม.ค.) ประธานาธิบดีเบจิ คาอิด เอสเซบซี ยอมรับว่า เข้าใจความรู้สึกคับข้องใจของประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ แต่เขาชี้มีกลุ่มคนร้ายฉวยโอกาสจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม จากลิเบียที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน หาจังหวะเพื่อแทรกซึมเข้ามาสร้างสถานการณ์ในตูนิเซีย      ก่อนหน้านี้ ผู้นำตูนิเซียประกาศว่าจะมีการสร้างงานเพิ่มอีกหลายพันตำแหน่ง รวมทั้งสอบสวนเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน      สถานการณ์การว่างงานในตูนิเซียเลวร้ายลง นับตั้งแต่เกิดการปฏิวัติอาหรับสปริงเมื่อปี 2554 ที่เกิดขึ้นในตูนิเซียเป็นประเทศแรก ซึ่งมีหลายฝ่ายกล่าวชื่นชมว่าเป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จที่สุด แต่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเพื่อลดช่องว่างในสังคม ความยากจนและภัยคุกคามจากกลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่ง ———————— ที่มา : BBC Thailand / 24 มกราคม 2559 Link : https://www.facebook.com/BBCThai/videos/1732295066991526/?pnref=story

เกิดระเบิดขณะตำรวจอียิปต์บุกค้นอพาร์ตเมนต์

Loading

     กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมุสลิมภราดรภาพที่รัฐบาลประกาศให้เป็นกลุ่มนอกกฎหมาย ได้วางแผนก่อวินาศกรรมและประกอบระเบิดภายในอพาร์ตเมนต์หลังหนึ่งในเมืองกิซ่า เจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสก่อนหน้านี้ว่ากลุ่มนี้จะลงมือก่อเหตุระเบิดในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า และขณะตำรวจเข้าบุกค้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญระเบิดพยายามกู้ระเบิดลูกหนึ่ง แต่เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คนได้แก่ ตำรวจ 3 นาย, พลเรือน 1 คน และผู้เคราะห์ร้ายอีกสองคนที่ไม่อาจระบุได้ และมีผู้บาดเจ็บอีก 13 คน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นพบวัตถุระเบิดจำนวนหนึ่งภายในอพาร์ตเมนต์ด้วย     อียิปต์เผชิญเหตุรุนแรงหลายครั้งนับตั้งแต่กองทัพโค่นล้มประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซีที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มมุสลิมภราดรภาพในปี 2556 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการะท่องเที่ยวที่เป็แหล่งรายได้หลักของประเทศ ————————— ที่มา : Nation TV วันที่ 22 มกราคม 2559 11:15 น. Link : http://www.nationtv.tv/main/content/foreign/378486433/

ตำรวจญี่ปุ่นจับชายชาวเกาหลีใต้ที่ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดศาลเจ้าในกรุงโตเกียว

Loading

     ตำรวจญี่ปุ่นจับกุมชายชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดที่ศาลเจ้ายาสุคูนิในกรุงโตเกียว ในข้อหาพกพาและใช้ดินปืน      โฆษกตำรวจกรุงโตเกียวกล่าววันนี้ว่า นายจีออน ชาง-ฮัน วัย 27 ปี ถูกตั้งข้อหาใหม่ หลังถูกแจ้งข้อหานำท่อโลหะที่มีดินปืนบรรจุอยู่ภายใน เข้าไปในห้องสุขาของศาลเจ้าดังกล่าว และได้จุดชนวนระเบิด ก่อนหน้านี้ อัยการญี่ปุ่นได้แจ้งข้อหานายจีออนเมื่อเดือนที่แล้วว่า เดินทางเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย และก่อเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน      นายจีออนเดินทางออกจากญี่ปุ่นหลังก่อเหตุ แต่กลับเข้าไปยังญี่ปุ่นอีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว และถูกจับในข้อหานำดินปืนหนัก 2 กิโลกรัมเข้าประเทศ ———————– ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ วันที่ 21 มกราคม 2559 Link : http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/WNFOR5901210020023

แอฟริกาตะวันตกประกาศตอบโต้หลังมือปืนบุกโรงแรมบูร์กินาฟาโซ

Loading

     วากาดูกู 19 ม.ค.- ประเทศในแอฟริกาตะวันตกประกาศจะตอบโต้หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกโรงแรมในบูร์กินาฟาโซเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ด้านฝรั่งเศสเข้าร่วมสอบสวนเหตุร้ายดังกล่าว ขณะที่กลุ่มอัลกออิดะห์เปิดเผยชื่อผู้ก่อเหตุ      ประธานาธิบดีโธมัส โบนี ยายี ของเบนินกล่าวในนามประชาคมเศรษฐกิจรัฐแอฟริกาตะวันตก (อีโควาส) ว่า อีโควาสจะไม่ยอมนิ่งเฉย แต่จะตอบโต้ ด้านประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ของฝรั่งเศสโทรศัพท์สนทนากับประธานาธิบดีโรก มาร์ก คริสฌอง กาโบเรของบูร์กินาฟาโซเมื่อวันจันทร์รับปากจะให้ความช่วยเหลือทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อให้การสอบสวนเหตุชั่วร้ายดังกล่าวดำเนินไปด้วยดี ล่าสุดคณะสอบสวนของฝรั่งเศส 18 นายได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุในกรุงวากาดูกูของบูร์กินาฟาโซแล้ว      ขณะเดียวกันกลุ่มอัลกออิดะห์ในอิสลามมาเกรบออกแถลงการณ์ว่า โรงแรมสเปลนดิดในกรุงวากาดูกูที่เกิดเหตุจับตัวประกันเป็นหนึ่งในแหล่งซ่องสุมกลุ่มก่อจารกรรมโลกที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกาตะวันตก พร้อมเผยแพร่ภาพถ่ายและชื่อมือปืน 3 คนที่ก่อเหตุดังกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้ระบุว่าทั้งสามคนมาจากกลุ่มอัลมูราบิตูนของนายมอคตาห์ เบลมอคตาร์ ชาวแอลจีเรีย      อัยการบูร์กินาฟาโซแจ้งว่า เจ้าหน้าที่สามารถระบุอัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตได้แล้ว 25 รายจากทั้งหมด 30 ราย โดยมีชาวแคนาดา 6 คน และคนท้องถิ่น 8 คน รวมอยู่ด้วย ก่อนหน้านี้กระทรวงความมั่นคงภายในเผยว่า ชาวต่างชาติที่เสียชีวิตประกอบด้วยยูเครน 3 คน…

อินโดนีเซียสอบจดหมายขู่โจมตีเกาะบาหลี

Loading

ตร.อินโดนีเซียสอบสวนหลังได้รับจดหมายข่มขู่จะโจมตีเป้าหมายบนเกาะบาหลี หลังเพิ่งเกิดเหตุโจมตีกรุงจาการ์ต้า      วันนี้ (19ม.ค.59) นายซูเก็ง ปริยานโต้หัวหน้าตำรวจบนเกาะบาหลีของอินโดนีเซียระบุ ว่า กำลังทำการสอบสวนกรณีมีผู้ส่งจดหมายข่มขู่ไปยังที่ทำการรัฐบาลเขตบูเลเล็งบนเกาะบาหลีว่า จะทำการโจมตีเป้าหมายบนเกาะบาหลี  ซึ่งตำรวจกำลังตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ส่งจดหมายฉบับนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่บนเกาะบาหลีอย่ามีความหวาดกลัว และให้เตรียมพร้อมระวังตัวเอาไว้      นายปริยานโต้บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแล้ว ตามจุดต่างๆที่จะเดินทางเข้าเกาะบาหลี —————————– ที่มา : TNN Thailand / 19 ม.ค. 59, 14.05 น. Link : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=89098&t=news

เชื้อร้ายตายยาก

Loading

หลังการล่มสลายของรัฐบาลตาลีบัน บรรดานักรบหัวรุนแรงได้แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วทุกมุมโลก พร้อมพกพาเอาวิชาความรู้และคติความเชื่อแบบสุดโต่งติดตัวไปด้วย จากการแผ่ขยายภัยคุกคามไปในหลายพื้นที่และหลากรูปแบบ กลุ่มก่อการร้ายไอเอสในอิรักและซีเรียได้กลายเป็นศัตรูกับคนค่อนโลก มหาอำนาจจากทุกขั้วต่างสามัคคีเฉพาะกิจเดินหน้าประกาศสงครามต่อต้านก่อการร้ายโดยมีไอเอสเป็นเป้าหมายหลัก แต่การใช้ปฏิบัติการทางทหารระดมโจมตีอย่างหนักหน่วงในอิรักและซีเรียซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ โดยหวังว่าจะสามารถทำลายฐานที่มั่นและกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายนี้ได้เบ็ดเสร็จ อาจต้องทบทวนกันใหม่ ผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าจับตาสถานการณ์มาตลอดประเมินว่า แม้วันหนึ่งกองกำลังรัฐบาลและพันธมิตรประเทศต่าง ๆ จะสามารถถล่มไอเอสได้ราบคาบและทวงคืนพื้นที่ยึดครองกลับมาได้ ก็ใช่ว่าเชื้อร้ายจะถูกทำลายหายสิ้นไป หน่วยข่าวกรองสหรัฐประเมินตัวเลขนักรบต่างชาติที่เข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในสมรภูมิ ตกอยู่ที่ประมาณ 30,000 คน จากราว 100 ประเทศทั่วโลก ยังไม่นับรวมก่อการร้ายรุ่นเก๋าอีกจำนวนมากที่เคลื่อนไหวมานานหลายทศวรรษ เพียงแค่ในอัฟกานิสถานแห่งเดียว ช่วงระหว่างปี 2539-2544 ก็มีมากถึงราว 10,000-20,000 คน ที่ได้รับการฝึกฝนในฐานะนักรบก่อการร้าย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากนายโอซามา บิน ลาเดน หลังการล่มสลายของรัฐบาลตาลีบัน บรรดานักรบหัวรุนแรงได้แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วทุกมุมโลก พร้อมพกพาเอาวิชาความรู้และคติความเชื่อแบบสุดโต่งติดตัวไปด้วย ผู้ก่อการร้ายรุ่นใหญ่ผู้เจนสนามเหล่านี้ คือภัยคุกคามหลักในระยะยาวซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นโดยชาติตะวันตกยังล้าหลังเกินกว่าจะรับมือไหว ไม้ตายของไอเอสที่ถูกบ่มเพาะมานานปี คืออาวุธร้ายแรงที่สุดที่เรียกว่า “ความเชื่อ” ซึ่งแม้จะจับต้องไม่ได้แต่ก็มีอานุภาพทะลุทะลวงไปได้ทุกที่ แทรกซึมเข้าฝังรากลึกใต้จิตสำนึกของกลุ่มเป้าหมาย เหล่าสาวกที่พร้อมอุทิศตนเพื่อสงครามไม่ต่างอะไรกับหุ่นยนต์รบที่ถูกตั้งโปรแกรม เป็นระเบิดเวลาที่พร้อมทำลายล้างทุกเมื่อ การทำให้แตกกลุ่มก็เหมือนเชื้อไวรัสที่แพร่ออกไปซุ่มรอเวลาแผลงฤทธิ์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงเกินจะคาดเดาตามมา ไม่มีสงครามใดที่สมบูรณ์แบบ พวกที่เหลือรอดมาได้ย่อมไม่ธรรมดา ต้องเป็นชั้นหัวกะทิที่มีวิทยายุทธ์แก่กล้าพอตัว นายแมทธิว กีเดเร ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยตูลูซ ประเทศฝรั่งเศส…