สื่อต่างชาติ เผย ข้อมูลนักท่องเที่ยวมาไทย 106 ล้านราย รั่วไหล

Loading

  บริษัทวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอังกฤษ ตรวจพบข้อมูลของ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ที่เคยเดินทางเข้าเมืองไทยกว่า 106 ล้านราย รั่วไหล ด้าน ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส แจงว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล และยังไม่ทราบว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ขณะที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดว่า ข้อมูลที่รั่วไหล อาจจะหลุดจาก สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง Comparitech บริษัทวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอังกฤษ ตรวจพบข้อมูลของ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ที่เคยเดินทางเข้าเมืองไทยรั่วไหลกว่า 106 ล้านราย หลุดบนโลกออนไลน์ โดยเป็นข้อมูลย้อนหลังไปถึง 10 ปี โดยฐานข้อมูลที่หลุดนั้นประกอบไปด้วย ชื่อ นามสกุล หมายเลขหนังสือเดินทาง วันที่เดินทางถึงประเทศไทย และข้อมูลอื่นๆ เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดย นายบ๊อบ ดิอาเชนโก หัวหน้าทีมวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Comparitech     สื่อต่างชาติ เผย ข้อมูลนักท่องเที่ยวมาไทย 106 ล้านราย รั่วไหล โดยยังคาดว่าข้อมูลที่หลุดออกมาเป็นของชาวต่างชาติที่เดินทางมาไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตัว นายดิอาเชนโก…

ระวัง!! หมอพร้อม ไม่มีเวอร์ชั่นเว็บไซต์ มีแต่แอปบนมือถือเท่านั้น หากกรอกข้อมูลบนเว็บคือเว็บปลอม!!

Loading

  ระวัง!! หมอพร้อม ไม่มีเวอร์ชั่นเว็บไซต์ สาธารณสุข เตือนประชาชน เว็บไซต์หมอพร้อม (หรือที่ขึ้นต้นด้วย w.w.w.หมอพร้อม) ไม่ใช่ของรัฐ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสาธารณสุข ใดๆทั้งสิ้น.. หมอพร้อมของแท้ จากทางกระทรวงสาธารณสุข จะใช้แอพ หมอพร้อม และทางไลน์ เท่านั้น ดังนั้น อย่าไปหลงเชื่อ,ไปให้ข้อมูลส่วนตัว หรือกดเข้าไปดูเด็ดขาด เพราะอาจจะสูญเสียข้อมูลสำคัญและทำให้มิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดได้   ระวัง!! หมอพร้อม ไม่มีเวอร์ชั่นเว็บไซต์ มีแต่แอปหรือบน LINE ผ่านมือถือเท่านั้น     จากกรณีการเผยแพร่ลิงก์เว็บไซต์ หมอพร้อม.com ทางกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าวและชี้แจงว่า เว็บไซต์ชื่อ หมอพร้อม.com เป็นเว็บปลอม ไม่ใช่เว็บไซต์ที่กระทรวงสาธารณสุขพัฒนาขึ้นแต่อย่างใด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บดังกล่าว โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้พัฒนาระบบการให้บริการข้อมูลการได้รับวัคซีนของประชาชน ภายใต้ชื่อ หมอพร้อม ซึ่งรองรับการใช้งานผ่าน Application หมอพร้อม และ Line หมอพร้อม เท่านั้น LINE OA…

เกลือเป็นหนอน พนักงาน AT&T รับจ้างลงมัลแวร์ในเซิร์ฟเวอร์บริษัทเพื่อปลดล็อคโทรศัพท์ติดสัญญา

Loading

  กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ รายงานถึงคดีของ Muhammad Fahd ชาวปากีสถานที่ถูกตัดสินโทษจำคุก 12 ปีฐานปลดล็อคโทรศัพท์ติดสัญญาของเครือข่าย AT&T ในสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตไปถึง 1.9 ล้านเครื่อง มูลค่าความเสียหาย 201 ล้านดอลลาร์ Fahd อาศัยการติดสินบนให้พนักงานช่วยปลดล็อคโทรศัพท์ให้ตั้งแต่ปี 2012 แต่ต่อมาบริษัทก็ปรับปรุงกระบวนการปลดล็อกโทรศัพท์ให้แน่นหนาขึ้น Fahd จึงหันไปจ้างนักพัฒนามาสร้างมัลแวร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ของ AT&T โดยเฉพาะ จากนั้นก็จ้างพนักงานของ AT&T ให้ติดตั้งมัลแวร์เพื่อขโมยรหัสผ่านจากพนักงานคนอื่นๆ เมื่อเข้าถึงเซิร์เวอร์ที่เกี่ยวข้องได้แล้วก็สามารถปลดล็อคโทรศัพท์ได้ทีละมากๆ สหรัฐฯ ตามจับ Fahd มาตั้งแต่ปี 2017 และจับได้จากฮ่องกงในปี 2018 เขายอมรับสารภาพเมื่อเดือนกันยายน 2020 ที่มา – Justice.gov   ———————————————————————————————————————————– ที่มา : Blognone by lew      / วันที่เผยแพร่   20 ก.ย.2564 Link :…

ฝ่ายต้านรัฐบาลทหารพม่าเปลี่ยนยุทธวิธีโจมตีพุ่งเป้าทรัพย์สินกองทัพ เสาสื่อสารหลายสิบโดนระเบิดพังยับ

Loading

  รอยเตอร์ – คาดว่าประชาชนในพม่าราว 700,000 คน ไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ หลังเกิดเหตุโจมตีอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ดำเนินการโดย Mytel บริษัทที่ควบคุมโดยกองทัพบางส่วนระบุ ท่ามกลางรายงานที่ว่าเสาสัญญาณมือถือของบริษัทได้รับความเสียหายหลายสิบต้น เหตุระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งนับตั้งแต่รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่ตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ได้ประกาศทำสงครามป้องกันประชาชนกับรัฐบาลทหารเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พม่าตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่รัฐบาลของอองซานซูจีถูกโค่นล้ม ที่นำไปสู่การชุมนุมประท้วงและการผละงานทั่วประเทศ และการเกิดขึ้นของกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหาร นอกจากนี้ ยังมีเหตุนองเลือดเกิดขึ้นในบางพื้นที่ หลังรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติประกาศการลุกฮือและเรียกร้องให้กองกำลังติดอาวุธที่รู้จักในชื่อ ‘กองกำลังป้องกันประชาชน’ มุ่งโจมตีรัฐบาลทหารและทรัพย์สินของพวกเขา “การทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคมกำลังขัดขวางวิธีการที่จะเข้าถึงข้อมูล การศึกษา และบริการสำคัญต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตของประชาชนหลายแสนคน” โฆษกของบริษัท Mytel ที่เป็นกิจการร่วมทุนระหว่างกองทัพพม่า และบริษัท Viettel ของกระทรวงกลาโหมเวียดนาม ระบุ การโจมตีส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ชนบทและเสาสัญญาณมากกว่า 80 ต้นของบริษัท Mytel ถูกทำลายเสียหาย โดยกองกำลังป้องกันประชาชนได้อ้างความรับผิดชอบในบางพื้นที่ ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์อิรวดีสัปดาห์นี้ โฆษกของกองทัพไม่ได้ตอบสนองคำร้องขอความคิดเห็นของรอยเตอร์ แต่ในจดหมายข่าวของกองทัพที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ระบุว่า มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นกับเสาโทรคมนาคมสาธารณะ ทั้งนี้ กองทัพไม่ได้ระบุเจาะจงว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร แต่ได้กล่าวหาองค์กรก่อการร้าย NUG ว่าส่งเสริมความรุนแรง และคลิปวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ได้แสดงให้เห็นสิ่งที่ดูเหมือนเป็นการระเบิดเสาสื่อสาร…

ยูเอ็น เรียกร้องพักแผนการจำหน่าย-ใช้งานปัญญาประดิษฐ์

Loading

  ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการประกาศพักแผนจำหน่ายและใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI – Artificial Intelligence) ทั้งหลายไว้ชั่วคราว เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงรุนแรงด้านสิทธิมนุษยชน ในรายงานล่าสุดที่จะนำเสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ มิเชลล์ แบเชเลท์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ รวบรวมบทวิเคราะห์เกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีล้ำสมัยต่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งชี้ว่า AI นั้น อาจเป็นวิวัฒนาการที่ดี แต่ก็อาจล่วงล้ำและมีผลกระทบเลวร้ายรุนแรงต่อสิทธิ์ของผู้คน รวมทั้งความเป็นส่วนตัวของประชาชนได้ ขณะเดียวกัน เพ็กกี ฮิคส์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวด้วยว่า ระบบ AI อาจมีข้อผิดพลาดและมาพร้อมกับความเอนเอียงที่ฝังตัวอยู่ในระบบ ซึ่งอาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติและทำลายโอกาสการหางานหรือการได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์จากระบบประกันสังคมได้ รายงานฉบับนี้ยังชี้ด้วยว่า ปัจจุบัน รัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ และบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายเริ่มนำเทคโนโลยีไบโอเมตริกมาใช้งานกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อช่วยในการระบุอัตลักษณ์ของบุคคล ซึ่งเปิดทางให้มีการใช้งานเพื่อติดตามตัวบุคคลได้อย่างไม่จำกัดได้ด้วย เพ็กกี ฮิคส์ กล่าวเสริมว่า ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติแนะนำให้มีการประกาศพักการใช้งานเทคโนโลยีจดจำใบหน้าไบโอเมตริกในพื้นที่สาธารณะด้วย เนื่องจากการใช้งานระบบนี้อาจเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อเสรีภาพของประชาชนได้   ——————————————————————————————————————————————————————– ที่มา : VOA Thai      / วันที่เผยแพร่  17 ก.ย.2564 Link :…

“กมธ.ดีอีเอส” ห่วงระบบไอที “สธ.” อ่อนแอ หวั่นประชาชนถูกละเมิดสิทธิ

Loading

  กมธ.ดีอีเอส สภาฯ ห่วงระบบไอที “สธ.” อ่อนแอ หวั่นประชาชนถูกละเมิดสิทธิ ด้าน “สธ.” ยอมรับจุดอ่อน ด้านการดูแลข้อมูล เผย ข้อมูลคนไข้โควิด-19 ยังไร้คนดูแล ห่วงเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีหน่วยงานรับช่วงต่อ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 64 คณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สภาผู้แทนราษฎร ที่มี น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ. ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณา เรื่อง กรณีภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของโรงพยาบาลในระบบสาธารณสุข โดยเชิญตัวแทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง   โดย นายอนันต์ กนกศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจง โดยยอมรับว่าการกำกับและดูแลจะมีกฎหมายเพื่อกำกับดูแลโรงพยาบาลเอกชน อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวล ต่อกรณีดิจิทัล เฮลท์ ที่ไม่มีกฎหมายกำกับ ดังนั้น แนวทางดูแลเบื้องต้น คือ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล หรือให้กลุ่มเฮลท์แทคขึ้นทะเบียน ทั้งนี้…