แฮ็กเกอร์ปล่อยข้อมูลของ Medibank ลงดาร์กเว็บ หลังไม่ได้รับค่าไถ่

Loading

  REvil กลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่นำข้อมูลละเอียดอ่อนของลูกค้าที่ขโมยมาได้จาก Medibank ผู้ให้บริการประกันสุขภาพรายใหญ่ของออสเตรเลียไปปล่อยลงดาร์กเว็บ หลังจากที่ Medibank ไม่ยอมจ่ายค่าไถ่   ข้อมูลที่ถูกนำมาปล่อยมีทั้ง ชื่อ ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เลขหนังสือเดินทาง และข้อมูล Medicare หรือข้อมูลประกันสุขภาพของลูกค้า   ในจำนวนนี้ยังมีข้อมูลประวัติการรักษาของเหยื่อด้วย ซึ่งในบางกรณีเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต และการติดยาเสพติด รวมถึงข้อมูลการทำแท้งด้วย   Medibank เผยว่าได้รับทราบกรณีดังกล่าวแล้ว และเชื่อว่าข้อมูลที่ REvil เอามาปล่อยนั้นเป็นข้อมูลลูกค้าของทางบริษัทจริง และย้ำว่าจะแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยละเอียด พร้อมให้คำแนะนำว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป   ก่อนหน้านี้ทาง REvil เรียกค่าไถ่สูงถึง 10 ล้านเหรียญ (ราว 368.9 ล้านบาท) ก่อนจะลดลงมาเหลือ 9.7 ล้านเหรียญ (ราว 357 ล้านบาท) ตามจำนวนของลูกค้าที่ถูกแฮ็กข้อมูล   ทรอย ฮันต์ (Troy Hunt) ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ให้ความเห็นว่าการปล่อยข้อมูลของ REvil…

Medibank ยืนยันไม่จ่ายค่าไถ่ให้กับแฮ็กเกอร์ที่เจาะข้อมูลลูกค้า

Loading

  Medibank ผู้ให้บริการประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย เผยว่าจะไม่จ่ายเงินค่าไถ่ให้กับแฮ็กเกอร์โจมตีบริษัทด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่เมื่อเดือนที่แล้ว   บริษัทเผยว่าลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรวมกันทั้งสิ้นราว 9.7 ล้านคน (ในจำนวนนี้มีลูกค้าของ ahm ซึ่งเป็นบริษัทลูกรวมอยู่ด้วย) การโจมตีครั้งนั้นทำให้แฮ็กเกอร์ได้ข้อมูลส่วนตัวที่มีทั้งชื่อ วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการรับสิทธิประกันสุขภาพ และข้อมูลประวัติการรักษา   นอกจากลูกค้าภายในประเทศแล้ว ข้อมูลหนังสือเดินทางของลูกค้าที่เป็นนักศึกษาจากนานาชาติยังถูกแฮ็กเกอร์เข้าดูด้วย   เดวิด ค็อกซ์คาร์ (David Koczkar) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Medibank ระบุเหตุผลที่ไม่จ่ายเงินค่าไถ่ในครั้งนี้เพราะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่าการจ่ายเงินไม่ได้เป็นสิ่งการันตีว่าอาชญากรจะยอมคืนข้อมูล หรือเก็บข้อมูลของลูกค้าเป็นความลับ   “ในความเป็นจริง การจ่ายเงินอาจให้ผลในตรงกันข้าม และยังเอื้อให้อาชญากรตัดสินใจกรรโชกทรัพย์จากลูกค้าได้โดยตรง และยังมีโอกาสมากที่การจ่ายเงินค่าไถ่จะทำให้ผู้คนอีกมากตกอยู่ในอันตราย เพราะออสเตรเลียจะกลายเป็นเป้าโจมตีที่ใหญ่ขึ้น” ค็อกซ์คาร์ระบุ   ทั้งนี้ Medibank จะคอยให้ความช่วยเหลือในด้านสุขภาพจิตและสุขอนามัย การปกป้องตัวตน และจะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงจะให้มีกระบวนการตรวจสอบจากภายนอกเพื่อถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเสริมความเข้มแข็งให้กับลูกค้าของเราต่อไป   Medibank ยืนยันว่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลออสเตรเลีย โดยเฉพาะศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (ACSC) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (AFP)     ที่มา Medibank…

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัยจากมิจฉาชีพแฝงตัวสร้างเว็บลอยกระทงออนไลน์หลอกกรอกข้อมูล

Loading

  เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสใช้สถานการณ์วันสำคัญก่อเหตุ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ดังนี้   เนื่องในวันที่ 8 พ.ย.2565 ถือเป็นวันลอยกระทง ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะออกมาทำกิจกรรม ร่วมกันสืบทอดประเพณีอันดีงาม และมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้เดินทางออกมาร่วมกิจกรรม เนื่องจากเหตุผลหลายๆ ประการ โดยจะใช้บริการลอยกระทงออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ของหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานเอกชน ซึ่งจะมีการให้ประชาชนกรอกข้อมูลต่างๆ เพื่ออธิษฐานขอพรออนไลน์   ในการลอยกระทงออนไลน์ เหล่ามิจฉาชีพอาจอาศัยโอกาสดังกล่าวสร้างเว็บไซต์ปลอมขึ้นมาทั้งหมดหรือเว็บไซต์ปลอมที่คล้ายคลึงกับเว็บไซต์จริง เพื่อหลอกลวงให้ประชนกรอกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลทางการเงิน เช่น ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต รหัสหลังบัตร 3 หลัก รหัส OTP เป็นต้น เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการนำข้อมูลไปเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊ก ไลน์ โดยมิชอบ แล้วไปหลอกยืมเงินผู้อื่น หรือใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้า หรือถูกโอนเงินจากบัญชีธนาคาร หรือไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย…

OPERA1ER อาชญากรไซเบอร์ฝรั่งเศสขโมยเงินจากมากกว่า 15 ประเทศ

Loading

  ทีมข่าวกรองภัยคุกคามของ Group-IB เผยรายงานที่จัดทำร่วมกับทีมเผชิญเหตุทางไซเบอร์ของ Orange ที่ระบุว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาหลักซึ่งมีรหัสเรียกขานว่า OPERA1ER ก่อเหตุโจรกรรมทางไซเบอร์ต่อธนาคารและองค์กรด้านโทรคมนาคมในแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา กว่า 15 ประเทศ ไปแล้วมากกว่า 30 ครั้ง   ปฏิบัติการของ OPERA1ER ขโมยเงินอยากเหยื่อรวมกันไปแล้วมากกว่า 30 ล้านเหรียญ (ราว 1,127 ล้านบาท) ในเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา   รูปแบบปฏิบัติการของทางกลุ่มเน้นการส่งอีเมลหลอกให้พนักงานของบริษัทต่าง ๆ ในการดาวน์โหลดมัลแวร์หลายประเภท อาทิ Backdoor (ช่องโหว่ทางลัดเข้าเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์ของเหยื่อ) Keylogger (ตัวติดตามการพิมพ์ของเหยื่อ) และ Password Stealer (ตัวขโมยรหัสผ่าน)   OPERA1ER ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ขโมยมาได้จากมัลแวร์เหล่านี้เข้าไปล็อกอินและควบคุมหลังบ้านขององค์กรต่าง ๆ เมื่อเจาะเข้าไปแล้ว อาชญากรกลุ่มก็จะใช้เครื่องมืออย่าง Cobalt Strike และ Metasploit ในการฝังตัวอยู่เป็นเวลาตั้งแต่ 3 – 12…

“บอริส จอห์นสัน” กลัวหน่วยข่าวกรองลับอังกฤษขายหน้า สั่งปิดข่าวโทรศัพท์ส่วนตัว “ลิซ ทรัสส์” โดนสปายรัสเซียแฮ็ก เชื่อมีความลับสุดยอดรั่วถึงหูปูติน

Loading

  เอเจนซีส์ – โทรศัพท์ส่วนตัวอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ ถูกแฮ็กโดยเอเยนต์ที่เชื่อว่าทำงานให้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ไปได้สำเร็จ เชื่ออาจมีความลับสุดยอดอังกฤษประเด็นเจรจายูเครน และเรื่องส่วนตัวถูกล้วงออกไปเกิดขึ้นระหว่างการแข่งเลือกผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟช่วงหน้าร้อน แต่นายกรัฐมนตรีเวลานั้น บอริส จอห์นสัน ปิดข่าวไว้กลัวชื่อเสียงหน่วยข่าวกรองลับอังกฤษป่นปี้   เดอะซัน สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (29 ต.ค.) ว่า เป็นการจารกรรมลับบรรลือโลกโดยแหล่งข่าวอ้างว่า สายลับรัสเซียสามารถแฮ็กโทรศัพท์ส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่เธอกำลังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และเชื่อว่ามีความลับอังกฤษถูกล้วงออกไปได้   โดยในรายงานที่ถูกเปิดเผยคืนก่อนหน้าชี้ว่า ข้อความที่ทรัสส์ ส่งไปให้ชาติมหาอำนาจโลกและรัฐมนตรีอังกฤษคนอื่นๆ ตกอยู่ในมือศัตรู เดลีเมล สื่ออังกฤษ เปิดเผยว่า ความลับรั่วไหลยังรวมไปถึงการสนทนาระหว่างทรัสส์ และอดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ ควาซี กวาร์เต็ง (Kwasi Kwarteng)   หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าวว่า โทรศัพท์ส่วนตัวของทรัสส์นั้นโดนจารกรรมอย่างหนักและในเวลานี้ถูกเก็บไว้ในที่ปลอดภัยในที่ตั้งพิกัดความมั่นคงในหน่วยงานรัฐบาลอังกฤษแล้ว   การจารกรรมโทรศัพท์ของทรัสส์ ถูกพบระหว่างการแข่งขันชิงตำแหน่งผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ หรือพรรคทอรี (Tory) ระหว่างที่เธอกำลังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ แต่ทว่าอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษในเวลานั้น บอริส จอห์นสัน…

กระอัก ออสเตรเลีย ถูกเจาะระบบซ้ำ ข้อมูลสุขภาพรั่วไหล 4 ล้านคน

Loading

  วันที่ 26 ต.ค. เอเอฟพี รายงานว่า นักเจาะระบบคอมพิวเตอร์หรือแฮ็กเกอร์ลักลอบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวทางด้านสุขภาพนับล้านรายการภายในบริษัทเมดิแบงก์ หนึ่งในเอกชนทำธุรกิจด้านการประกันสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ออสเตรเลีย คาดว่าข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลไปถึง 3.9 ล้านคน ส่งผลให้รัฐบาลออกมายอมรับว่าบรรดาเอกชนยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ   การเจาะระบบล่าสุดเกิดหลังการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่แฮกเกอร์ลักลอบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานของบริษัทออพตัส ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารรายใหญ่ในออสเตรเลีย ส่งผลให้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ากว่า 9 ล้านคนรั่วไหล นับเป็นหนึ่งในการเจาะระบบครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย   นายมาร์ก เดรย์ฟัส อัยการสูงสุดออสเตรเลีย กล่าวว่า บรรดาเอกชนเหล่านี้กำลังเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ามากเกินความจำเป็นและล้มเหลวในการปกป้องข้อมูลเหล่านี้ พร้อมขู่จะลงโทษบรรดาเอกชนขั้นสูงสุดด้วยค่าปรับกว่า 1.2 พันล้านบาท ขณะที่นางแคลร์ โอนีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน (เทียบเท่ามหาดไทย) ยอมรับว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกินเยียวยา     ———————————————————————————————————————————————— ที่มา :                          ข่าวสดออนไลน์       …