แพทย์ใหญ่สหรัฐฯ ประกาศให้ความรุนแรงจากอาวุธปืน เป็นวิกฤติด้านสาธารณสุขของประเทศ
นายแพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศว่า เหตุการณ์ความรุนแรงจากอาวุธปืนในประเทศกลายเป็นวิกฤตการณ์สาธารณสุขแล้ว พร้อมเรียกร้องให้มีการควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดขึ้น
นายแพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศว่า เหตุการณ์ความรุนแรงจากอาวุธปืนในประเทศกลายเป็นวิกฤตการณ์สาธารณสุขแล้ว พร้อมเรียกร้องให้มีการควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดขึ้น
เยอรมันเล็งควบคุมกฎหมายครอบครองอาวุธปืนให้รัดกุมมากขึ้นหลังสมาชิกขบวนการหัวรุนแรงขวาจัดวางแผนก่อรัฐประหาร หวังนำระบอบกษัตริย์กลับมาปกครองประเทศ จากเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว ส่งผลให้ตำรวจเยอรมันสามารถควบคุมตัวผู้อยู่เบื้องหลังแผนโค่นล้มรัฐบาลเพื่อเตรียมนำระบบกษัตริย์กลับมาปกครองประเทศได้ราว 25 ราย ซึ่งถือว่าสร้างความตกใจให้กับหลายฝ่ายเนื่องจากเยอรมันถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตยแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ตามคำกล่าวอ้างของอัยการ ผู้ต้องสงสัยหลายคนเป็นสมาชิกของขบวนการ “Reichsbuerger (พลเมืองของไรช์)” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เชื่อมั่นในการดำรงอยู่ของรัฐสมัยใหม่ในดินแดนเยอรมัน ขณะที่ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย Nancy Faeser ให้สัมภาษณ์เตือนว่า กลุ่ม Reichsbuerger เป็นหนึ่งในตัวแทนของภัยคุกคามต่อเยอรมนี ทั้งยังมีจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2,000 ถึง 23,000 คนในช่วงปีที่ผ่านมา อัยการให้ความเห็นเพิ่มเติมว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยมีความรู้เรื่องการใช้อาวุธปืน มิหนำซ้ำยังพยายามเฟ้นหาสมาชิกที่เคยร่วมงานกับกองทัพทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงมีการสะสมอาวุธปืนไว้ในครอบครอง “คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้วิกลจริตที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสังคม แต่พวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยว่าก่อการร้าย ซึ่งในขณะนี้กำลังถูกควบคุมตัวก่อนนำไปพิจารณาคดี เราต้องการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกดดันกฎหมายนี้อย่างสูงสุด เพื่อไม่ให้พวกเขามีอาวุธไว้ในครอบครอง และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลควรควบคุมกฎหมายเรื่องปืนให้มีความเข้มงวดมากขึ้น” Faeser กล่าว ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยบุกค้นเพื่อยึดอาวุธจากสมาชิกกลุ่ม Reichsbuerger มาได้แล้วกว่า 1,000 คน แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีสมาชิกอีกอย่างน้อย 500 คน ที่มีใบอนุญาตพกปืน แม้เยอรมันจะเป็นประเทศที่มีกฎควบคุมปืนเข้มงวดที่สุด และการออกใบอนุญาติพกปืนจะเป็นเรื่องยากในประเทศนี้ นอกจากนี้ หนึ่งในสิ่งที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นของชาวเยอรมันที่สุดคือพบว่า…
รอง ผบ.ตร.เตรียมปัดฝุ่นระเบียบปืนสวัสดิการ ขยายเวลาครอบครองปืนจาก 5 ปี เป็น 10-15 ปี หลังพบช่องโหว่ข้าราชการบางหน่วยใช้สิทธินำใบ ป.3 วนซื้อปืนมาจำหน่ายนอกระบบ นำเทคโนโลยี ติด QR Code มาใช้เพื่อตรวจสอบและติดตามปืนหลวง 30 ต.ค.2565 – พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมพิจารณาระงับ “โครงการปืนสวัสดิการตำรวจ” อย่างไม่มีกำหนด หลังพบข้าราชการบางหน่วยนำใบ ป.3 ไปวนซื้อปืนมาจำหน่ายนอกระบบ และทางออนไลน์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มตำรวจชั้นผู้น้อย ว่า ทางพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้แต่งตั้งตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานแก้ไขเรื่องอาวุธปืนของหลวงเนื่องจากพบปัญหามีอาวุธปืนถูกขโมยไปและนำไปจำหน่าย โดยแนวทางเบื้องต้นได้นำต้นแบบการตรวจเช็กสต็อกหรือของหน่วยปฏิบัติการพิเศษหรือคอมมานโดมาใช้ ซึ่งใช้คิวอาร์โค๊ดหรือบาร์โค๊ดที่ติดไว้ที่อาวุธปืนมาใช้ในการนับจำนวน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เพราะจะง่ายต่อการตรวจสอบ และง่ายต่อเจ้าหน้าที่งานธุรการถึงเวลาก็นำอุปกรณ์หรือมือถือมาสแกนก็จะเข้าไปที่แอพพลิเคชั่นที่ได้จัดทำไว้ โดยตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ จะต้องเร่งดำเนินการ อย่างไรก็ตามระบบนี้ในกองทัพสหรัฐอเมริกาก็ได้มีการนำมาใช้เรียกว่าสติกเกอร์มิลิเทอรรี่เกรด หรือแม้แต่การเช็กสต็อกอะไหล่เครื่องบินก็ใช้ระบบนี้ “โดยในคิวอาร์โค๊ดดังกล่าว จะระบุรุ่น,ซีรีย์อะไร เข้ามาประจำการณ์ในสารระบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อไหร่ ใครเบิกใช้-คืนเมื่อไหร่…
ทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สั่งการให้มีการคุมเข้มการควบคุมอาวุธปืนของพลเรือน หลังเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากนี้ ปธน.ปูตินยังได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตในเหตุกราดยิงครั้งนี้ สำนักข่าว TASS ของทางการรัสเซีย รายงานในวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 11 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กนักเรียน 9 ราย ขณะที่บาดเจ็บ 32 ราย หลังเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองคาซาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐทาทาร์สถานของรัสเซีย รายงานระบุว่า ผู้ก่อเหตุมี 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กวัยรุ่นอายุ 17 ปี ซึ่งขณะนี้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ส่วนอีกรายหนึ่งถูกวิสามัญฆาตกรรม ทั้งนี้ โรงเรียนทุกแห่งในเมืองคาซานจะยังคงปิดการเรียนการสอนในวันพรุ่งนี้ ——————————————————————————————————————————— ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ / วันที่เผยแพร่ 11 พ.ค. 2564 Link : https://www.infoquest.co.th/2021/86160
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องคองเกรส ผลักดันมาตรการควบคุมปืน หลังเหตุยิงกราดซูเปอร์มาร์เก็ต ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด คร่าชีวิต 10 ราย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้านตำรวจเมืองโบลเดอร์ตั้งข้อหาฆาตกรรมกับมือยิงกราด 10 กระทง ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารก่อนเดินทางไปรัฐโอไฮโอ แสดงความเสียใจต่อเหตุยิงกราดในซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด และให้ลดธงครึ่งเสาที่ทำเนียบขาวและอาคารสถานที่ราชการ เพื่อไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุยิงกราดครั้งล่าสุดนี้ ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้ผลักดันการปฏิรูปกฏหมายครอบครองปืน และห้ามซื้อขายปืนกลกึ่งอัตโนมัติทั่วประเทศ โดยระบุว่า ตนไม่ต้องการจะรอไปอีกแม้เพียงนาทีหรืออีกชั่วโมง เพื่อทำสิ่งที่ควรทำในการรักษาชีวิตของผู้คนเอาไว้ และเรียกร้องให้สมาชิกสภาสหรัฐฯ ให้ความสำคัญและเคลื่อนไหวเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้วุฒิสภา ลงมติในมาตรการที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ว่าด้วยการอุดช่องโหว่ทางกฏหมาย เรื่องการตรวจสอบประวัติของผู้ที่จะซื้อปืนในสหรัฐฯ ระหว่างที่ในวันอังคาร คณะกรรมาธิการตุลาการของวุฒิสภาสหรัฐฯ จะรับฟังและหารือถึงหนทางในการลดความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนในสหรัฐฯ หลังเหตุยิงกราด 2 ครั้งในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา Less than a week after the horrific…
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสคุมเข้มกฎหมายควบคุมอาวุธปืน โดยคำเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปีเหตุคนร้ายใช้ปืนกราดยิงในโรงเรียนมัธยมที่รัฐฟลอริดา เมื่อ 3 ปีที่แล้ว คนร้ายได้ใช้ปืนกราดยิงในโรงเรียนมัธยม “มาจอริตี้ สโตนแมน ดั๊กลาส” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปาร์คแลนด์ ทางตอนเหนือของเมืองไมอามี รัฐฟลอริดาของสหรัฐ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า คนร้ายซึ่งเป็นวัยรุ่นอายุประมาณ 18 ปี ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว ปธน.ไบเดน ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบประวัติการขายปืนทุกรายการ ห้ามขายอาวุธร้ายแรงและที่ใส่กระสุนความจุสูง และยกเลิกความคุ้มกันทางกฎหมายสำหรับผู้ผลิตปืน ปธน.ไบเดน ระบุในแถลงการณ์ว่า “รัฐบาลชุดนี้จะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุกราดยิงอีกครั้งถึงจะหันมาใส่ใจข้อเรียกร้องนี้อย่างจริงจัง เราจะดำเนินการเพื่อยุติความรุนแรงจากอาวุธปืน และทำให้โรงเรียนและชุมชนของเราปลอดภัยกว่าเดิม” ด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า สภาคองเกรสจะทำงานร่วมกับรัฐบาลของปธน.ไบเดน เพื่อออกกฎหมายตรวจสอบประวัติ 2 ฉบับ ได้แก่ กฎหมาย Bipartisan Background Checks Act และ Enhanced Background Checks…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว