หนุ่มนิวยอร์กโดนรวบ หลังข่มขู่ ‘ชาวเอเชีย’ ที่เป็นตร.นอกเครื่องแบบ ที่ดูแลเรื่องนี้

Loading

  เมื่อวันที่ 11 เมษายน เอบีซีนิวส์ ได้รายงานว่าชายชาวนิวยอร์กคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาก่ออาญากรรมจากความเกลียดชัง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ว่าเขาข่มขู่และต่อต้านชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ได้รับมอบหมายภารกิจ เพื่อจัดการกับอาชญากรรมจากความเกลียดชัง จูเวียน โรดริเกซ วัย 35 ปี ได้ถูกจับกุมเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังได้รับข้อกล่าวหาที่บริเวณใกล้กับสถานีเพนน์ เจ้าหน้าที่ทำรวจได้รายงานว่าโรดริเกซนั้นมีเจตนาข่มขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ “กลับประเทศจีนไปซะ ก่อนที่แกจะไปจบชีวิตลงในสุสาน” พร้อมทั้งขู่ว่าจะตบและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าที่ใบหน้า       จากการกระทำดังกล่าวทำให้เขาถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับความผิดทางอาญา รวมไปถึงการคุกคามและการล่วงละเมิดในฐานะอาชญากรรมแห่งความเกลียดชัง ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่าโรดริเกซนั้นเคยถูกจับและถูกดำเนินคดีมาแล้วเกือบ 30 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ปี 2545 โดยคดีที่เขาเพิ่งโดนมาครั้งล่าสุดก็คือคดีเกี่ยวกับการขนส่งเมื่อปี 2562 ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ และอาชญากรรมแห่งความเกลียดชัง ที่มีต่อคนเอเชียที่อาศัยอยู่ภายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางการของสหรัฐฯ เองก็ได้มีการยกระดับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย เพื่อลดการก่อเหตุอาชญากรรมลง ไม่ว่าจะเป็นการออกลาดตระเวน และการเพิ่มเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบในพื้นที่ที่มีประชากรชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก     ด้าน เดอร์มอท เชน ผู้บัญชาการตำรวจได้ฝากคำเตือนไปยังผู้ที่มีพฤติกรรมต่อต้านชาวเอเชียว่า คนที่พวกเขามองว่านั่นคือเป้าหมาย ที่จะเข้าไปทำให้เขาเกิดอันตรายทั้งวาจาและร่างกาย ตามทางเดิน ถนนหรือสถานีรถไฟนั้น พวกเขาอาจจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นคิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป อย่างไรก็ตามการแฝงเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป เพื่อจับตามองพฤติกรรมของผู้ที่ต่อต้านชาวเอเชียนั้นก็ได้ผลพอสมควร เพราะเมื่อวันที่ 8…

ตำรวจอเมริกันเพิ่มมาตรการคุ้มครองชุมชนเอเชียหลังอาชญากรรมจากความเกลียดชังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

Loading

    ตำรวจเมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย มากกว่า 10 คน ร่วมเดินตรวจตราในย่านชุมชนชาวเอเชียในเมืองซานโฮเซ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องชุมชนชาวเอเชียสืบเนื่องจากความหวาดกลัวเรื่องอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่มุ่งเป้ามายังชุมชนคนเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินตรวจย่านร้านค้าของชุมชนคนเชื้อสายเวียดนามและญี่ปุ่น ในเมืองซานโฮเซ่ เมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีการชุมนุมต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติและสีผิว หลังเหตุการณ์กราดยิงที่ร้านนวดและสปาในนครแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย เมื่อเดือนที่แล้ว แอนโธนี มาทา หัวหน้าตำรวจซานโฮเซ่ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเกิดกระแสความหวาดกลัวและความไม่พอใจในหมู่คนเชื้อสายเอเชีย และเป็นสิ่งสำคัญที่ตำรวจต้องพูดคุยและมีส่วนร่วมมากขึ้นกับชุมชนเหล่านี้       เวลานี้ตำรวจในหลายเมืองทั่วสหรัฐฯ กำลังพยายามเพิ่มมาตรการคุ้มครองชุมชนชาวเอเชียหลังจากที่เกิดความรุนแรงต่อประชากรกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นตั้งแต่เกิดการระบาดของโคโรนาไวรัสเมื่อหนึ่งปีก่อน รายงานสำรวจของ Center for the Study of Hate and Extremism ที่มหาวิทยาลัย California State วิทยาเขตซานเบอร์นาดิโน ชี้ให้เห็นว่า แม้ตัวเลขการเกิดอาชญากรรมในอเมริกาลดลงเล็กน้อยเมื่อปีที่แล้ว แต่อาชญากรรมต่อกลุ่มประชากรเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิกกลับเพิ่มขึ้นราว 145% รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีผู้สูงอายุชาวฟิลิปปินส์ถูกทำร้ายที่นครนิวยอร์ก และภาพวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ สร้างความตกใจและโกรธแค้นในกับชุมชนคนเอเชียจำนวนมาก นอกจากที่เมืองซานโฮเซ่แล้ว ตำรวจในนิวยอร์กและนครชิคาโก ต่างเพิ่มมาตรการคุ้มครองชุมชนชาวเอเชียมากขึ้นเช่นกัน รวมทั้งการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนและเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้าไปในย่านที่มีคนเอเชียหนาแน่นมากขึ้นด้วย   ———————————————————————————————————————————————————…

ชาวมะกันเชื้อสายเอเชียแจ้งเหตุจากความเกลียดชังเกือบ 3,800 ครั้งช่วงโควิด

Loading

  สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า องค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก (AAPI) ได้เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. 2563 จนถึง 28 ก.พ. 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางองค์กรได้รับแจ้งเหตุที่เกิดจากความเกลียดชังเกือบ 3,800 ครั้ง รายงานระบุว่า ทาง AAPI ได้รับการแจ้งเหตุเหยียดเชื้อชาติที่มุ่งเป้าที่ชาวเอเชียรวม 3,795 ครั้ง ตั้งแต่การคุกคามด้วยวาจา แสดงความรังเกียจ ทำร้ายร่างกาย การคุกคามทางออนไลน์ ตลอดจนการละเมิดสิทธิพลเมือง เหตุการณ์ที่ได้รับแจ้งมากที่สุดได้แก่ การคุกคามด้วยวาจา (68.1%) การแสดงความรังเกียจ (20.5%) และการทำร้ายร่างกาย (11.1%) ตามลำดับ จำนวนผู้แจ้งเหตุเป็นผู้หญิงสูงกว่าผู้ชาย 2.3 เท่า เป็นชาวจีน 42.2% ตามด้วยชาวเกาหลี 14.8% และชาวเวียดนาม 8.5% รายงานระบุว่าเหตุการณ์เหล่านี้มักเกิดขึ้นในสถานที่ทางธุรกิจ (35.4%) บนท้องถนน (25.3%) และสวนสาธารณะ (9.8%) ตามลำดับ และมีจำนวนเหตุการณ์ทางออนไลน์คิดเป็น 10.8% จากเหตุการณ์ทั้งหมด…

ไบเดนประณาม “อาชญากรรมจากอคติ” ต่อคนเชื้อสายเอเชีย

Loading

    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า “การก่ออาชญากรรม” ต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา “ไม่ใช่นิสัยพื้นฐานของความเป็นอเมริกัน” และ “ต้องยุติ” สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าสหรัฐมีอัตราการเกิด “อาชญากรรมจากอคติ” หรือ “อาชญากรรมจากความเกลียดชัง” ต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ในระดับที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา ทั้งในรูปแบบของการประทุษร้ายโดยตรงต่อร่างกาย การใช้วาจาเหยียดหยามดูหมิ่น และการโยนความผิดให้อีกฝ่าย “เป็นแพะรับบาป” ผู้นำสหรัฐกล่าวต่อไปว่า อเมริกาเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 มานาน 1 ปีแล้ว ทุกฝ่ายร่วมกันต่อสู้ด้วยความอดทน โดยเฉพาะบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า ที่จำนวนไม่น้อยมีเชื้อสายเอเชีย แต่ทุกคนพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อช่วยเหลือชาวอเมริกันทั้งประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งนี้ โดยไม่หวั่นเกรงว่า ตัวเองคือกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการได้รับเชื้อ   Biden calls out the rise in hate crimes against Asian Americans during…