ศาลอังกฤษสั่งจำคุก 9 ปี ชายมีแผนปลงพระชนม์ “ควีนเอลิซาเบธที่ 2”

Loading

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่า ศาลอาญาแห่งอังกฤษและเวลส์มีคำพิพากษา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ให้นายจาสวานต์ สิงห์ ชาอิล วัย 21 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองเซาแธมป์ตัน รับโทษจำคุกเป็นเวลา 9 ปี โดยในระยะแรกจะเป็นการรับโทษอยู่ที่แผนกจิตเวชของโรงพยาบาลบรอดมัวร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานพยาบาลด้านจิตเวชเก่าแก่ที่สุดของสหราชอาณาจักร หลังจากนั้นจะมีการย้ายตัวเข้าสู่เรือนจำ

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 : ผิดไหมที่ประท้วงด้วย “กระดาษเปล่า” ในงานถวายความอาลัย

Loading

GETTY IMAGES   ในช่วงไม่กี่วันมานี้ มีคนหลายคนถูกจับกุมหลังไปทำการประท้วงที่งานถวายความอาลัยการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และพิธีประกาศขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3   พอล พาวส์แลนด์ ไม่ใช่หนึ่งในคนกลุ่มนั้น แต่ทนายคนนี้เป็นตัวละครหลักในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ทำให้เกิดกระแสถกเถียงอย่างแพร่หลาย เรื่องก็คือขณะที่เขากำลังยืนชูกระดาษที่ไม่ได้เขียนข้อความใด ๆ ที่จัตุรัสรัฐสภา เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาถามข้อมูลส่วนตัวของเขา   พาวส์แลนด์ได้อัดวิดีโอบทสนทนาบางส่วนไว้และนำไปโพสต์ลงทวิตเตอร์ เขาอ้างว่าเขาได้รับแจ้งว่าจะถูกจับกุมตัวหากเขียนข้อความว่า “ไม่ใช่กษัตริย์ของผม” ลงบนกระดาษ   มีการประท้วงด้วย “กระดาษเปล่า” แบบนี้เกิดขึ้นเช่นกันที่เมืองเอดินบะระของสกอตแลนด์ขณะขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่าน แต่ก็ไม่ได้มีรายงานการจับกุมใครแต่อย่างใด   อย่างไรก็ดี วิดีโอของพาวส์แลนด์ทำให้ตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนออกมาประกาศผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ว่าประชาชนมี “สิทธิที่จะประท้วง”   GETTY IMAGES การประท้วงด้วยกระดาษเปล่าที่เมืองเอดินบะระของสกอตแลนด์     ท้าทายอย่างเย้ยหยัน ?   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กระดาษเปล่าถูกนำไปใช้ในการประท้วง แต่เรามักเห็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์แบบนี้ในประเทศที่รัฐมีความเป็นเผด็จการและการเข้าปราบปรามประชาชนบ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่นเมื่อปี 2019 นักเคลื่อนไหววัยหนุ่มในคาซัคสถานชื่ออัสลาน ซากุตดินอฟ ถูกตำรวจควบคุมตัวไปหลังถือป้ายเปล่า ๆ ที่หน้าสำนักงานของสภาเมือง…

ผู้ที่อยู่ในคิวรอถวายความเคารพและรักอาลัยต่อสมเด็จพระราชินีนาถ บอกว่ามีคนร้องไห้ระงม และช็อกกันไปหมดที่ต้องประสบกับเหตุร้ายน่าสะเทือนขวัญ

Loading

  ชมคลิปดรามาระทึกไล่ล็อกตัวพัลวัน หนุ่มเฮี้ยนพุ่งฝ่าแนวพิทักษ์พระบรมศพควีน จะกระชากธงคลุมหีบ!!   ในจำนวนผู้คนหลายแสนชีวิตที่เข้าเฝ้าถวายคารวาลัยแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ณ ท้องพระโรง อาคารเวสต์มินสเตอร์ ฮอลล์ ของรัฐสภาอังกฤษ ปรากฏว่ามีวายร้ายออกปฏิบัติการเดี่ยว พุ่งตัวฝ่าตำรวจและทหารมากมายที่เฝ้าพิทักษ์ปกป้องพระบรมศพ หมายจะขึ้นไปกระชายธงพระอิสริยยศที่คลุมหีบพระบรมศพ แต่ชายจอมเฮี้ยนรายนี้กระทำการไม่สำเร็จ และถูกปราบอย่างเฉียบขาด ถูกจับกุมและนำตัวออกจากท้องพระโรงไปอย่างรวดเร็ว นับเป็นความโกลาหลที่สร้างความสะเทือนใจอย่างที่สุดที่มีคนบ้าบิ่นบังอาจกระทำการจาบจ้วงพระเกียรติยศของสมเด็จพระราชินีนาถผู้เป็นที่รักและเคารพของประชาชนชาวอังกฤษ   ประชาชนนับร้อยกรีดร้องดังก้องท้องพระโรงที่ประดิษฐานหีบพระบรมศพควีนอังกฤษ เนื่องจากเกิดเหตุโกลาหลที่แสนจะเหลือเชื่อว่าใครเลยจะกล้า ชายผู้บ้าบิ่นขั้นสุดพุ่งตัวออกจากแถวคิว วิ่งฝ่าตำรวจและทหาร หมายจะเข้าไปคว้าผืนธงคลุมหีบพระบรมศพซึ่งตั้งบนเวทียกพื้นตื้นๆ เพียงประมาณสองฟุต   ทีมเจ้าหน้าที่ซึ่งมีปฏิกิริยาฉับไวพากันกระโจนตามไล่คว้าตัวชายลึกลับเป็นพัลวัน พร้อมกับลากให้ออกห่างจากหีบพระบรมศพได้ภายในไม่กี่วินาที แม้จะมีการดิ้นรนวุ่นวายเพราะจะไม่ยอมถูกจับกุม เดอะมิเรอร์รายงาน   ตามคลิปสั้นๆ ที่มีคนตาไวบันทึกคลิปเหตุการณ์โกลาหลอันน่าระทึกใจไว้ได้นั้น ชายลึกลับร่างสันทัดนายนี้ปฏิบัติการได้รวดเร็วทีเดียว เขาสามารถทะยานขึ้นไปถึงยกพื้นเวทีขั้นที่ 3 ภายใต้ความพยายามจะเข้าไปคว้าธงพระอิสริยยศให้หลุดจากหีบพระบรมศพ โดยดูเหมือนว่าเขาได้แตะๆ เฉียดๆ ชายผืนธงพระอิสริยยศแบบแว่บๆ   ในวินาทีเดียวกันนั้น สุดยอดเจ้าหน้าที่ร่างสูงใหญ่ในเครื่องแบบสีดำผู้ทรงประสิทธิภาพในการถวายอารักขาอย่างอัศจรรย์ สามารถออกปฏิกิริยาพุ่งกายตามไปคว้าวายร้ายได้ทันควัน และใช้พละกำลังกับความชำนาญในการปะทะที่เหนือชั้น ล็อกและดันวายร้ายจอมระห่ำให้ถอยกรูด จนกระทั่งถลาล้มกองไปบนพื้นหินด้วยกันอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ ศักยภาพขั้นสูงของเจ้าหน้าที่ทำให้ปฏิบัติการของคนร้ายล้มเหลว หลังจากที่จวนเจียนจะสามารถจาบจ้วงเบื้องพระยุคลบาทได้ แบบว่าเกือบจะสำเร็จอย่างหวุดหวิด ชนิดที่ว่าอีกเพียงหนึ่งวินาที วายร้ายผู้ฉับไวใจคอบ้าบิ่นนายนี้อาจจะสามารถฉวยชายผืนธงพระอิสริยยศได้อยู่มือ และอาจกระทำการอันร้ายกาจได้อย่างที่ไม่น่าจินตนาการกันเลย  …

ใหญ่สุดใน ปวศ.! อังกฤษระดมจนท.ฝ่ายความมั่นคงทั่วปท. คุมเข้มรักษาความปลอดภัยงานพิธีพระบรมศพ

Loading

เอเอฟพี   ใหญ่สุดในปวศ.! อังกฤษระดมจนท.ฝ่ายความมั่นคงทั่วปท. คุมเข้มรักษาความปลอดภัยงานพิธีพระบรมศพ   ตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน แถลงต่อผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (16 ก.ย.)ว่า พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเป็นงานรักษาความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของกรุงลอนดอน โดยจะมีผู้นำจากทั่วโลกและประชาชนนับหลายแสนคนที่พากันมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของสหราชอาณาจักรแห่งนี้   สจ๊วต คันดี รองผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน กล่าวว่า ตนยืนยันได้ว่านี่จะเป็นงานรักษาความสงบเรียบร้อยครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ตำรวจนครบาลลอนดอนเคยดำเนินการมา งานนี้ใหญ่กว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2012 และใหญ่กว่างานฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปี โดยจะมีการเกณฑ์กำลังเจ้าหน้าที่มากกว่า 2,000 นายจากทั่วประเทศ เพื่อมาสมทบกำลังกับตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดในการรักษาการณ์   เอเอฟพี   เจ้าหน้าที่ตำรวจจะระดมวางแนวกั้นเป็นระยะทางมากกว่า 36 กิโลเมตรในใจกลางกรุงลอนดอน โดยคาดว่าจะมีประชาชนหลายแสนคนที่จะมาเฝ้ารอรับขบวนอัญเชิญพระบรมศพตลอดเส้นทางการเคลื่อนพระบรมศพ   รองผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจฯกล่าวอีกว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฝูงชนและจำนวน การเพิ่มขึ้นและการเบียดเสียด นั่นเป็นสิ่งที่ตำรวจจะคอยจับตาดูอยู่เสมอ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีที่มี เราจึงสามารถเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากมุมต่างๆ ได้ นี่เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในแง่ของการควบคุมฝูงชน แต่ไม่ใช่เพียงแค่จำนวนผู้คนเท่านั้นที่เป็นสิ่งท้าท้ายที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่นี่จะเป็นปฏิบัติการคุ้มครองด้านความปลอดภัยระดับโลกครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ตำรวจนครบาลลอนดอนเคยดำเนินการมา   เอเอฟพี   ทั้งนี้คาดว่าจะมีแขกบุคคลสำคัญระดับโลกมากกว่า 2,000 คน ที่จะมาร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2…

รอยันหลานบวช! ‘จดหมายลับควีนเอลิซาเบธ’ ฝากไว้ที่ ‘ซิดนีย์’ ห้ามเปิดอ่านจนกว่าจะถึงปี 2085

Loading

  อีกหนึ่งเรื่องราวปริศนาที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ โดยครั้งหนึ่งทรงมีพระราชหัตเลขา “ลับสุดยอด” ฝากไว้ให้ชาวนครซิดนีย์ในออสเตรเลีย และทรงกำชับหนักหนาว่า “ห้ามเปิดอ่านเด็ดขาด” จนกว่าจะถึงปี ค.ศ.2085   สมเด็จพระราชินีนาถซึ่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะมีพระชนมายุ 96 พรรษา ได้พระราชทานพระราชหัตถเลขาฉบับนี้ไว้เมื่อปี 1986 เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองการบูรณะอาคารควีนวิกตอเรีย (Queen Victoria Building) ซึ่งเกิดขึ้นในปีเดียวกัน   อาคารหลังนี้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1898 และได้รับการตั้งชื่อตามพระนามของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย และถือเป็นหนึ่งในอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดของนครซิดนีย์   สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงฝากพระราชหัตถเลขาปิดผนึกไว้กับนายกเทศมนตรีซิดนีย์ และทรงมีพระราชเสาวนีย์ว่า “ณ วันที่ท่านคิดว่าเหมาะสมในปี ค.ศ.2085 ขอให้ท่านช่วยเปิดจดหมายนี้ออกอ่าน และแจ้งเนื้อความให้พลเมืองซิดนีย์ได้ทราบด้วย”   แม้ข้อความในพระราชหัตถเลขาจะยังคงเป็นความลับอยู่ แต่มีผู้คาดเดาว่าพระองค์น่าจะทรงขอบใจชาวซิดนีย์ที่ได้เก็บรักษาและซ่อมแซมอาคารประวัติศาสตร์เอาไว้ หลังจากที่มันเกือบจะถูกรื้อทิ้งเพื่อทำเป็นลานจอดรถ   เมื่อปี 1986 บริษัทสัญชาติมาเลเซียได้ทำสัญญาเช่าอาคารควีนวิกตอเรียเป็นระยะเวลา 99 ปี หรือเท่ากับว่าจะสิ้นสุดสัญญาในปี 2085 ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่พระราชหัตถเลขาของสมเด็จพระราชินีนาถจะถูกเปิดอ่านพอดี   ปัจจุบัน…

อังกฤษกำหนดให้ผู้นำโลกนั่งรถบัสมางานพระบรมศพควีน ยกเว้น ‘ไบเดน’​ เป็นกรณีพิเศษ

Loading

  ผู้นำสหรัฐฯ ได้เป็น “ข้อยกเว้น” ไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบการเดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพควีนเอลิซาเบธที่ 2   หลังจากที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ว่า ทางการสหราชอาณาจักรได้ขอให้ผู้นำต่างชาติใช้การเดินทางโดยเครื่องบินพาณิชย์และรถบัสมาร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นั้น   ล่าสุด The Times สื่ออังกฤษเผยว่า จะมีผู้นำบางคนที่ได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับยกเว้นให้ใช้รถประจำตำแหน่ง ซึ่งเป็นรถหุ้มเกราะที่มีชื่อเล่นว่า The Beast ในการเดินทางไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สถานที่จัดพระราชพิธีได้   พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นับเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีของสหราชอาณาจักร เป็นการรวมผู้นำจากทั่วโลกเข้ามาอยู่ในที่เดียวกัน จึงต้องมีการวางระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด   นอกจากประธานาธิบดีไบเดนแล้ว ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ก็เป็นผู้นำอีกคนที่มีรายงานว่าจะสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้   โดยโฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ลิซ ทรัสส์ ของสหราชอาณาจักรชี้แจงว่า ระเบียบเรื่องการเดินทางนั้นเปรียบเสมือนคำชี้แนะมากกว่าที่จะตั้งเป็นกฎ ซึ่งรูปแบบการเดินทางของผู้นำขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละคน ต้องดูเรื่องอื่นๆ เช่น ความปลอดภัย ประกอบด้วย     ที่มา:…