ญี่ปุ่นเล็งคุมบริษัทที่มีความสำคัญต่อความมั่นคง หวังสกัดการโจมตีทางไซเบอร์

Loading

  หน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะพิจารณาใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหวต่อความมั่นคง   ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ริเริ่มขึ้น เพื่อปกป้องความมั่นคงของเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ให้ถูกรุกรานจากจีน เช่น การป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีที่อ่อนไหว และสร้างห่วงโซ่อุปทานให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ยื่นรายงานเสนอต่อรัฐบาลญี่ปุ่น โดยเรียกร้องให้มีการร่างกฎหมายซึ่งจะเปิดทางให้รัฐบาลสามารถสั่งการให้บริษัทต่าง ๆ ส่งมอบข้อมูลล่วงหน้าเมื่อมีการอัปเดตซอฟต์แวร์หรือจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ ๆ และออกคำสั่งห้ามซื้ออุปกรณ์ที่อาจทำให้ญี่ปุ่นมีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีทางไซเบอร์   รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า หน่วยงานกำกับดูแลทางไซเบอร์จะพุ่งเป้าควบคุมบริษัทในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ เช่น พลังงาน , น้ำประปา , เทคโนโลยีสารสนเทศ , การเงิน และการขนส่ง   “เนื่องจากโลกได้เข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วในขณะนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจเกือบทุกภาคส่วนซึ่งรวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญนั้น อาจจะตกเป็นเป้าของการโจมตีทางไซเบอร์ อย่างไรก็ดี เราเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่าการกำกับดูแลกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะไม่เข้มงวดมากจนเกินไป”   หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์ของญี่ปุ่นระบุในรายงาน   หลายประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วซึ่งรวมถึงสหรัฐและญี่ปุ่น ต่างก็เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งรวมถึงประเทศที่มีความสัมพันธ์กับรัสเซียและจีน     โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 65)    …

ผู้นำญี่ปุ่นลั่นเสริมแกร่งกองกำลังป้องกันตนเอง

Loading

  โตเกียว (รอยเตอร์ส/เอ็นเอชเค) – นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นย้ำจะพิจารณาทางเลือกทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงการมีอาวุธที่มีความสามารถในการโจมตีฐานทัพของศัตรู และสัญญาว่าจะเสริมสร้างกองกำลังป้องกันตนเองให้แข็งแกร่งกว่าเดิมเพื่อปกป้องประเทศและรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากจีนและเกาหลีเหนือ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ตรวจแถวสวนสนามของทหารกองทัพญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกของเขาเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ระหว่างทำหน้าที่ผู้บัญชาการสูงสุดเป็นครั้งแรกในการสวนสนาม ซึ่งเป็นพิธีที่จัดขึ้นที่ฐานทัพอาซากะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว โดยมีทหารเข้าร่วมราว 800 นาย เขากล่าวปราศรัยกับสมาชิกกองกำลังป้องกันตนเองหลายร้อยคนที่สวมเครื่องแบบสีเขียวมะกอกและหมวก โดยเขาระบุว่า เขาจะพิจารณาทางเลือกทุกทาง ซึ่งรวมถึงการให้ได้มาซึ่งอาวุธที่มีแสนยานุภาพในการโจมตีฐานทัพของศัตรู เขาจะเดินหน้าเสริมสร้างกำลังทหารที่มีความจำเป็น นายคิชิดะ กล่าวว่า สถานการณ์ด้านความมั่นคงรอบๆ ประเทศญี่ปุ่นมีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากและสภาพความเป็นจริงมีความรุนแรงมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยเกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบปล่อยขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องและเพิ่มสมรรถนะมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่จีนก็เสริมสร้างกำลังกองทัพและเพิ่มกิจกรรมทางทหารในภูมิภาคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นลงมติเห็นชอบอนุมัติงบกลาโหมพิเศษเพื่อเร่งจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาอีกขั้นตอน ส่งผลให้งบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหมของญี่ปุ่น ในปีงบประมาณปัจจุบัน สูงขึ้นเป็นสถิติใหม่กว่า 6.1 ล้านล้านเยน (1,762,850 ล้านบาท) สูงขึ้น 15% จาก 5.31 ล้านล้านเยน ในปี 2020 แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ระบุว่า งบประมาณเพื่อเสริมขีดขั้นสมรรถนะทางทหาร และเร่งการจัดซื้ออาวุธ ถูกออกแบบเพื่อเร่งการประจำการ อุปกรณ์สำคัญบางส่วน…

“โทริหมะ” อาชญากรรมไม่เลือกหน้าในญี่ปุ่น

Loading

ภาพจาก www.sankei.com   สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน หลายท่านคงได้ข่าวหนุ่มญี่ปุ่นถือมีดไล่แทงผู้โดยสารบนรถไฟเมื่อวันฮาโลวีนที่ผ่านา อาชญากรรมแบบทำร้ายคนแบบไม่เลือกหน้าในที่สาธารณะเช่นนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วในญี่ปุ่น ทั้งที่ญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่แสนจะปลอดภัย เมื่อวันฮาโลวีนที่ผ่านมา (31 ต.ค.) เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญภายในรถไฟสายเคโอที่กรุงโตเกียว เมื่อหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งถือมีดแทงผู้คนภายในขบวนรถ ก่อนจุดไฟเผาตู้รถไฟ บรรดาผู้โดยสารต่างหนีเอาชีวิตรอด ปีนออกทางหน้าต่างกันจ้าละหวั่น เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บกว่า 10 ราย และมีคุณปู่วัย 70 ปีคนหนึ่งถูกคนร้ายแทงอาการสาหัส คนร้ายแต่งชุดคอสเพลย์เลียนแบบ “โจ๊กเกอร์” ตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง “แบทแมน” หลังก่อเหตุเขานั่งสูบบุหรี่ภายในตู้โดยสาร รอให้ตำรวจจับกุมอย่างไม่ประหวั่นพรั่นพรึง และยังบอกกับตำรวจว่าต้องการโดนประหารชีวิต พลางโอดครวญว่าตนเองมีปัญหาเรื่องงาน อีกทั้งความสัมพันธ์กับเพื่อนก็ไม่ดี ก่อนหน้านั้นไม่ถึง 3 เดือนก็มีคดีคล้ายกันเกิดขึ้นบนรถไฟสายโอดะคิว ซึ่งในคดีนั้นคนร้ายก็พยายามจะจุดไฟเผาขบวนรถไฟแต่ทำไม่สำเร็จ และในคดีโจ๊กเกอร์นี้คนร้ายก็บอกว่า คดีรถไฟสายโอดะคิวที่ผ่านมาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงมือของเขาในครั้งนี้ด้วย   ลักษณะเด่นของ “โทริหมะ” ผู้ก่ออาชญากรรมแบบไม่เลือกหน้า ญี่ปุ่นเรียกอาชญากรประเภทนี้ว่า “โท-ริ-หมะ” (通り魔) หมายถึงคนร้ายที่จู่โจมทำร้ายคนที่ผ่านไปมาทั้งที่ไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน แบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ก่อเหตุในจุดเดียว ก่อเหตุในหลายจุดภายในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน และก่อเหตุแบบต่อเนื่อง  …

ตำรวจญี่ปุ่นซ้อมรับมือ เหตุคุกคามด้วยมีดที่สถานีรถไฟ

Loading

  ตำรวจในกรุงโตเกียวซ้อมรับมือสถานการณ์คนร้ายใช้มีดข่มขู่และเตรียมทำร้ายผู้คน หลังเกิดเหตุชายแต่งกายเป็น “โจ๊กเกอร์” ใช้มีดไล่แทงประชาชนในขบวนรถไฟ เมื่อวันฮัลโลวันที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ว่าสำนักงานตำรวจกรุงโตเกียวจัดการซ้อมรับมือกับเหตุการณ์โจมตีประชาชนในระบบขนส่งสาธารณะ โดยใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของสถานีรถไฟชินจูกุ เมื่อวันอังคาร จำลองสถานการณ์ชายสองคนใช้มีดข่มขู่และมีท่าทีเตรียมทำร้ายประชาชน และเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาระงับเหตุ พร้อมทั้งควบคุมตัวคนร้าย   先月31日、京王線の車内で乗客が切りつけられるなど、電車内や駅で刃物を使用した事件が相次ぐ中、東京の新宿駅前では2人組の男が刃物を持って暴れているという想定の訓練が行われました。https://t.co/p6F8vNa3q8#nhk_video pic.twitter.com/9w8XkDwTeU — NHKニュース (@nhk_news) November 2, 2021   ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังนายเคียวตะ ฮัตโตริ วัย 24 ปี แต่งกายเลียนแบบตัวละคร “โจ๊กเกอร์” ใช้มีดไล่แทงประชาชน ซึ่งกำลังโดยสารบนขบวนรถไฟใต้ดินสายเคโอ ในฝั่งตะวันตกของกรุงโตเกียว แล้วยังวางเพลิงในขบวนรถด้วย ส่งผลให้ประชาชนในขบวนรถไฟหาทางหนีตายกันอย่างจ้าละหวั่น เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันฮัลโลวีนพอดี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 คน โดยผู้มีอาการสาหัสที่สุด เป็นชายวัย 70 ปี ซึ่งนั่งอยู่ใกล้กับคนร้าย ถูกแทงบริเวณด้านข้างลำตัวใกล้กับหน้าอก ขณะที่พนักงานสอบสวนให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าฮัตโตริให้การกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับ “ความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงที่ดีค่อยดี และไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน” โดยการวางแผนก่อเหตุอาจเกิดขึ้นล่วงหน้าตั้งแต่เดือน…

เผยโฉมมือคลั่งแทง-เผารถไฟญี่ปุ่น แต่งชุดโจ๊กเกอร์ ขนลุกคำให้การ

Loading

  เผยโฉมมือคลั่งแทง-เผารถไฟญี่ปุ่น – รอยเตอร์ รายงานผลการสอบสวนคดีชายญี่ปุ่นก่อเหตุคลั่งแทง และจุดไฟเผากลางตู้ขบวนรถไฟกรุงโตเกียว สยองขวัญช่วงค่ำวันฮัลโลวีน มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 17 คน ว่าชายผู้ก่อเหตุมีอายุ 24 ปี แต่งชุดโจ๊กเกอร์ ตัวละครวายร้ายในภาพยนตร์เรื่องแบตแมน     คลิปที่มีผู้บันทึกผู้ก่อเหตุไว้ได้ แสดงให้เห็นนาทีที่ชายหนุ่มคนนี้แต่งชุดโจ๊กเกอร์ เสื้อเชิ้ตสีเขียว และแจ๊กเก็ตสีม่วง นั่งสูบบุหรี่อย่างสบายใจ ระหว่างถูกตำรวจควบคุมตัวโดยไม่ขัดขืน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวในข้อหาพยายามฆ่า ให้ปากคำในเบื้องต้น ว่าอยากฆ่าคน ตนเองจะได้ถูกประหารชีวิต   ? #BREAKING – #Tokyo | #Japan#UPDATE on the Keiō train station attack Video shows the alleged attacker moments before he attacked people on the train with…

ลาก่อน! เจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นในโตเกียวตัดใจยอมเลิกใช้ฟลอปปีดิสก์

Loading

  ฟลอปปีดิสก์ (Floppy Disk) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีให้เห็นมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในสำนักงาน สถานศึกษาและภายในบ้าน ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยหน่วยจัดเก็บข้อมูลแบบอื่น เช่น ซีดีรอมและดีวีดีรอม จนล่าสุดที่ใช้กันทั่วไปก็คือ แฟลชไดรฟ์ หรือ SSD, HDD External เพราะมีความจุในการจัดเก็บข้อมูลได้มากกว่าและถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่า ในขณะที่หลายคนเลิกใช้ฟลอปปีดิสก์กันไปนานเป็นสิบปีแล้ว ล่าสุดมีข่าวจากแดนซามูไรว่ารัฐบาลกลางของญี่ปุ่นพยายามขับเคลื่อนให้ภาครัฐเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งต้องพบกับอุปสรรคเพราะเจ้าหน้าที่ของภาครัฐยังยึดถือกับการจัดเก็บและโอนย้ายข้อมูลด้วยฟลอปปีดิสก์มานานหลายสิบปี แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่สำนักงานท้องถิ่นของภาครัฐในโตเกียวเมืองหลวงของญี่ปุ่นได้เผยยอมตัดใจเลิกใช้ฟลอปปีดิสก์เสียที หลายคนถึงกับงงว่าหน่วยงานรัฐของญี่ปุ่นยังมีการใช้ฟลอปปีดิสก์เหลืออยู่อีกได้อย่างไรในเมื่อบริษัทโซนี (Sony) ผู้ผลิตฟลอปปีดิสก์ 3.5 นิ้วรายแรกได้หยุดการผลิตไปนานแล้วนับสิบปี ซึ่งเหตุผลคือทางหน่วยงานมีฟลอปปีดิสก์เก็บไว้ใช้งานมากมายและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ จึงพอจะยืดเวลาและประหยัดเงินค่าอัปเกรดระบบใหม่ เมะงุโระแขวงพิเศษของโตเกียวมีแผนที่จะนำงานทั้งหมดที่จัดเก็บด้วยฟลอปปีดิสก์และสื่ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ มาใช้บนระบบออนไลน์ภายในปีงบประมาณ 2021 ส่วนแขวงชิโยะดะจะปรับเปลี่ยนตามมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ และแขวงมินาโตะได้ย้ายการจัดเก็บข้อมูลระบบชำระเงินจากฟลอปปีไปอยู่บนระบบออนไลน์แล้วตั้งแต่ปี 2019 เจ้าหน้าที่จัดการกองทุนสาธารณะสำหรับแขวงเมะงุโระกล่าวอาลัยถึงฟลอปปีดิสก์ว่าแผ่นดิสก์ไม่เคยพังและทำให้ข้อมูลสูญหาย (แต่สมัยที่แอดใช้แผ่นดิสก์นี่มันพังเป็นว่าเล่นเลยนะ) ซึ่งทางแขวงได้ใช้ฟลอปปีดิสก์ 3.5 นิ้วจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินให้กับพนักงานส่งไปยังธนาคารมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเลิกใช้ตั้งแต่ปี 2019 เมื่อธนาคารมิซูโฮ (Mizuho Bank) แจ้งกับแขวงว่าจะเก็บเงินสำหรับการใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เช่น ฟลอปปีดิสก์ ในอัตรา 50,000 เยน (14,546.24…