กลุ่มต้านโลกร้อนป่วนสนามบินลอนดอน ปีนเครื่องบิน-ไม่ยอมนั่งเก้าอี้

Loading

นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมก่อเหตุประท้วงที่สนามบินในกรุงลอนดอน มีทั้งปีนขึ้นไปบนเครื่องบิน หรือไม่ยอมนั่งจนเครื่องบินขึ้นบินไม่ได้จนเครื่องดีเลย์ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักเคลื่อนไหวของกลุ่มรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม ‘Extinction Rebellion’ พยายามชัตดาวน์ท่าอากาศยานลอนดอนซิตี สนามบินใหญ่อันดับ 5 ของกรุงลอนดอนในอังกฤษ เพื่อประท้วงต่อต้านแผนขยายสนามบินแห่งนี้ ซึ่งพวกเขามองว่าจะทำให้เป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลอังกฤษจะบรรลุเป้าหมาย การลดก๊าซคาร์บอนในถึงระดับที่กำหนดภายในปี 2593 นักเคลื่อนไหวหลายร้อยคนรวมตัวปิดทางเข้าสนามบินแห่งนี้เอาไว้ ขณะที่คนอื่นๆ ไปก่อเหตุรบกวนเที่ยวบิน จนเดินทางล่าช้า โดยภาพจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นชายคนหนึ่ง ที่ทางกลุ่มระบุว่าชื่อ เจม์ บราวน์ นอนอยู่บนเครื่องบินของสายการบิน บริติช แอร์เวย์ส นานกว่า 20 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถนำตัวเขาลงมาได้ ขณะที่บนเครื่องบินโดยสายของสายการบิน เออร์ ลิงกัส ซึ่งกำลังจะบินไปกรุงดับลิน ชายคนหนึ่งก่อเหตุยืนอ่านคำปราศรัยรณรงค์เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเสียงดังในห้องโดยสาร โดยไม่ยอมนั่งเก้าอี้ ทำให้เครื่องบินไม่สามารถออกเดินทางได้จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัวเขาลงจากเครื่อง จากนั้นเที่ยวบินนี้จะได้เดินทางไปดูไบหลังจากดีเลย์นาน 2 ชั่วโมง นายนิโคลัส วัตต์ นักข่าวบีบีซีซึ่งอยู่บนเครื่องบินลำนี้ด้วยกล่าวว่า “สิ่งที่ย้อนแย้งในการประท้วงเพื่อสิ่งแวดล้อมบนเที่ยวบินของเราก็คือ เราไม่สามารถออกเดินทางได้จนกระทั่งเราต้องเติมน้ำมันเพิ่มเติม แทนที่น้ำมันที่เราใช้ระหว่างการประท้วง” ——————————————————- ที่มา : ไทยรัฐ ออนไลน์ / 11 ตุลาคม 2562…

ทำไมการประท้วงฮ่องกงจึงบานปลายจนควบคุมไม่อยู่

Loading

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com) Why Hong Kong protests are out of control By Ken Moak / 02/10/2019 สถานการณ์อันสลับซับซ้อนที่กำลังเกิดขึ้นในฮ่องกงเวลานี้ ไม่สามารถจัดการคลี่คลายได้อย่างง่ายๆ เนื่องจากมีต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างมากมาย, ผลกระทบของหลักสูตรการศึกษาที่ใช้กันในยุคที่ตกเป็นอาณานิคมถูกปกครองโดยอังกฤษ, ข้อจำกัดต่างๆ ภายใต้โครงสร้างแห่ง “หนึ่งประเทศ สองระบบ, และความแตกแยกกันภายในรัฐบาลฮ่องกงตลอดจนภายในประชากรของฮ่องกง เป็นเวลาหลายเดือนมาแล้ว ที่พวกนักเคลื่อนไหว “ฝักใฝ่ประชาธิปไตย” ได้สร้างความเดือดร้อนเสียหายอย่างมหาศาลให้แก่ทั้งเศรษฐกิจ, การเมือง, และสังคมของฮ่องกง โดยเริ่มแรกทีเดียวมาจากการประท้วงร่างแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ร่างกฎหมายที่ก่อให้เกิดการโต้เถียงขัดแย้งฉบับนั้นเวลานี้ได้ถูกถอนออกไปแล้ว กระนั้นความรุนแรงอย่างไร้สติก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่ได้ลดถอยลง แต่มันกำลังเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.theguardian.com/world/2019/sep/04/hong-kong-lam-to-withdraw-extradition-bill-say-reports) ในวันอังคาร (3 ต.ค.) ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงที่เป็นหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งได้ถูกตำรวจยิงด้วยกระสุนจริง จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอก (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.asiatimes.com/2019/10/article/hk-protester-shot-on-chinas-national-day/) ทว่าในประเทศจำนวนมากนั้น หากพวกเขากำลังเผชิญกับความรุนแรงอย่างที่ฮ่องกงกำลังอดทนอดกลั้นอยู่ในเวลานี้แล้ว ปฏิกิริยาเช่นนี้จากผู้มีอำนาจหน้าที่ย่อมเป็นสิ่งที่ได้รับการคาดหมายว่าจะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว โดยพวกซึ่งรับผิดชอบสำหรับความรุนแรงดังกล่าวจะต้องถูกจับกุมหรือกระทั่งถูกยิง ด้วยเหตุนี้จึงมีคำถามว่า ทำไมรัฐบาลฮ่องกงและรัฐบาลจีนจึงยอมปล่อยให้ความโกลาหลวุ่นวายนี้ดำเนินต่อไป? เห็นได้อย่างชัดเจนว่า สถานการณ์อันสลับซับซ้อนคราวนี้ไม่สามารถจัดการคลี่คลายได้อย่างง่ายๆ เนื่องจากมีต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างมากมาย, ผลกระทบของหลักสูตรการศึกษาที่ใช้กันในยุคที่ตกเป็นอาณานิคมถูกปกครองโดยอังกฤษ, ข้อจำกัดต่างๆ…

ข่าวลวงทำประท้วงป่วนปาปัว ตาย 20 เจ็บ 70

Loading

เจ้าหน้าที่จังหวัดปาปัวของประเทศอินโดนิเซียเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 70 คน ซึ่งจำนวนนี้ 3 รายถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดเหตุประท้วงที่ลุกลามกลายเป็นความรุนแรง โดยกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนออกมาร่วมการประท้วงเนื่องจากมีข่าวลือว่ามีครูคนหนึ่งได้ทำการเหยียดนักเรียนซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเรียกเด็กนักเรียนว่า “ลิง” กลุ่มผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาอาคารที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่น ร้านค้า บ้านเรือนของผู้คน รวมถึงรถและมอเตอร์ไซค์บนถนนหลายสายบนถนนหลายสายที่มุ่งหน้าไปยังสำนักงานท้องถิ่นของเมืองวาเมนา ที่มีการลือว่าเป็นต้นตอของเหตุดังกล่าว โดยผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตเพราะติดอยู่ในบ้านและร้านค้าที่เกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า หลังตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่พบว่ามีหลักฐานของการเหยียดชาติพันธุ์ต่อนักเรียนอย่างที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด ซึ่งตำรวจเชื่อว่าข่าวลวงนี้ถูกปล่อยออกมาด้วยความตั้งใจที่จะสร้างความวุ่นวายในสังคม —————————————————- ที่มา : มติชน / 24 กันยายน 2562 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_1683636