มะกันระบุภาพดาวเทียมชี้ จีนซุ่มเคลื่อนย้ายขีปนาวุธ เตรียมพร้อมยิงนุกตอบโต้รุนแรงจากใต้ดิน

Loading

  ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันระบุจีนดูเหมือนกำลังเคลื่อนย้ายขีปนาวุธนิวเคลียร์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีตอบโต้อย่างรุนแรงจากไซโลใต้ดิน สอดคล้องกับรายงานของเพนตากอนก่อนหน้านี้ ฮันส์ คริสเตนเซน ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันที่เฝ้าสังเกตการณ์กองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซียและจีนมายาวนาน ระบุว่า ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อปลายปีที่แล้วบ่งชี้ว่า จีนเริ่มสร้างไซโลใต้ดิน 11 แห่งในสถานที่ฝึกอบรมด้านนิวเคลียร์ บริเวณตอนกลางของประเทศ เพิ่มเติมจาก 5 แห่งที่เริ่มสร้างก่อนหน้านั้น และเพิ่มจากไซโลที่มีอยู่เดิม 18-20 แห่งที่จัดเก็บขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) แบบ ดีเอฟ-5 ซึ่งเป็นขีปนาวุธรุ่นเก่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่า จีนกำลังพยายามตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากอเมริกา ขณะที่ช่วงไม่กี่ปีมานี้วอชิงตันระบุว่า การพัฒนาศักยภาพนิวเคลียร์ของปักกิ่งเป็นเหตุผลสำคัญสำหรับอเมริกาในการทุ่มทุนนับแสนล้านดอลลาร์สร้างคลังแสงนิวเคลียร์ใหม่ในช่วง 2 ทศวรรษข้างหน้า อย่างไรก็ตาม คริสเตนเซนซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ที่ทำงานกับสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (Federation of American Scientists) สำทับว่า แม้จีนเพิ่มจำนวนไซโลไอซีบีเอ็มอีก 2-3 เท่า แต่ยังถือว่า น้อยมากเมื่อเทียบกับอเมริกาและรัสเซียที่มีไซโล 450 แห่ง และ 130 แห่งตามลำดับ ถึงแม้ไม่มีแนวโน้มว่า อเมริกากับจีนจะเปิดสงครามกัน แต่รายงานของคริสเตนเซนออกมาขณะที่สองชาติมีความขัดแย้งรุนแรงขึ้นตั้งแต่ประเด็นการค้าไปจนถึงความมั่นคงของชาติ และการยกระดับกองกำลังนิวเคลียร์ของจีนอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่สหรัฐฯต้องนำมาพิจารณา ในการตอบโต้ทางทหารต่อการดำเนินการก้าวร้าวของจีน เช่น ในไต้หวันหรือทะเลจีนใต้ ขณะเดียวกัน แม้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ของคริสเตนเซน…

กองทัพเมียนมาแก้ประมวลกฎหมายอาญาความมั่นคง

Loading

การปลุกระดมให้เกิดการล้มล้างรัฐบาลและรัฐธรรมนูญ “ถือเป็นกบฏ” เนื่องจากเป็นลักษณะความผิดที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสังคม ขณะเดียวกัน รัฐบาลทหารเมียนมายังกำหนดลักษณะความผิดอาญาด้านความมั่นคงอีกหลายรูปแบบ     สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ว่าคณะมนตรีการปกครองแห่งรัฐเผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับการแก้ไขบางมาตราของประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่าด้วย “พฤติการณ์เข้าข่ายก่อสงครามต่อสหภาพเมียนมา” ซึ่งเกี่ยวกับความมั่นคงภายในประเทศ ให้ครอบคลุมถึงการปลุกระดม การสนับสนุนหรือสมคบคิดกับกลุ่มบุคคลใด โดยมีเป้าประสงค์เพื่อล้มล้างรัฐบาลและอำนาจตามรัฐธรรมนูญ “ถือเป็นความผิดร้ายแรง ฐานเป็นกบฏต่อแผ่นดิน” Anti-coup protesters rally outside National League for Democracy party (#NLD) offices in #Yangon#Myanmar pic.twitter.com/Eba1b11VJ4 — Ruptly (@Ruptly) February 15, 2021 Protesters in Myanmar continued to demand for the release of ousted civilian leader…

ภัยคุกคามยังมี! เพนตากอนสั่งคงกองกำลังทหารในวอชิงตันถึงกลาง มี.ค.

Loading

  กระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศคงกองกำลังทหารรักษาดินแดนหลายพันนายไว้ในกรุงวอชิงตันต่อไปจนถึงกลางเดือนมีนาคมนี้ แม้ว่าจะเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไปแล้ว เนื่องจากภัยคุกคามต่อเนื่องยังคงดำรงอยู่ อย่างไรก็ดีกระทรวงกลาโหมสหรัฐไม่ได้ระบุชัดเจนถึงสิ่งที่เป็นภัยคุกคามที่ยังคงมีอยู่ว่าคืออะไร โดยบอกเพียงว่าข้อมูลดังกล่าวได้มาจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เท่านั้น และว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสี่ยงในหลายเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทางการสหรัฐยังคงวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังการบุกยึดอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเชื่อว่าความกังวลดังกล่าวยังคงอยู่ไปจนถึงวันที่วุฒิสภาสหรัฐจะเริ่มต้นพิจารณาถอดถอนทรัมป์ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้   —————————————————————————————————————————————————————- ที่มา :  มติชน    / วันที่เผยแพร่  26 มกราคม 2564 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2547850

เปิดโปง QAnon ลัทธิคลั่งเบื้องหลังสาวกทรัมป์

Loading

อธิบายชัดๆ ที่มาที่ไปของลัทธิ QAnon ที่กำลังเขย่าประชาธิปไตยสหรัฐ     การบุกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตันดี.ซี.ของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกตัวเองว่า “QAnon” เข้าร่วมวงด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เชื่อว่าเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มอย่าง เจค แองเจลี หรือ เจค็อบ แอนโธนี แชนสลีย์ ที่บุกเข้าไปถึงด้านในตัวอาคาร และแอชลีย์ แบบบิต อดีตทหารในกองทัพอากาศสหรัฐที่บุกคองเกรสจนถูกยิงเสียชีวิต คนเหล่านี้ทำให้ชื่อของ QAnon ถูกพูดถึงอีกครั้ง ต่อไปนี้คือสรุปที่มาที่ไปและความเชื่อของกลุ่ม QAnon 1. QAnon คือทฤษฎีสมคบคิดที่ปราศจากมูลความจริงของกลุ่มขวาจัดที่เชื่อว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐ ร่วมมือกับนักการเมืองพรรคเดโมแครต มหาเศรษฐี และคนดังในวงการฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น ฮิลลารี คลินตัน, บารัก โอบามา, จอร์จ โซรอส หรือโอปราห์ วินฟรีย์ พยายามสร้างรัฐซ้อนรัฐ (deep state) เพื่อครอบงำสหรัฐ และยังกล่าวหาว่าคนกลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก รวมถึงเชื่ออีกว่าทรัมป์กำลังทำสงครามกับคนกลุ่มนี้อย่างลับๆ เพื่อช่วยโลก 2. QAnon ยังเชื่อคำกล่าวอ้างอื่นๆ…

อึ้ง เผยทหารหน่วยรบพิเศษ SAS กำลังฝึกซ้อมต่อสู้ เอเลี่ยน อาจบุกโลก

Loading

  สื่ออังกฤษเผยทหารหน่วยรบพิเศษ SAS ประมาณ 20 นาย กำลังฝึกซ้อมต่อสู้กับภัยคุกคามทุกอย่าง ทั้งก่อการร้าย อาวุธชีวภาพ ไปจนถึงมนุษย์ต่างดาวที่อาจบุกโลก เมื่อ 11 มกราคม 2564 เว็บไซต์เดลี่สตาร์ รายงานอ้างแหล่งข่าว ถึงเหตุการณ์ที่ชาวโลกส่วนใหญ่คงไม่อาจรู้ว่าขณะนี้ทหารหน่วยรบพิเศษ SAS ชั้นหัวกะทิของอังกฤษ ประมาณ 20 นายกำลังมีการฝึกซ้อมทักษะการต่อสู้โดยไม่ใช้อาวุธร้ายแรงกับภัยคุกคามที่มีศักยภาพหลากหลาย ซึ่งรวมทั้งความเป็นไปได้ที่ เอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาวอาจบุกโลกมนุษย์ของเราด้วย แหล่งข่าวเผยกับเดลี่สตาร์ว่า หน่วยรบทหารพิเศษชั้นหัวกะทิของอังกฤษกำลังเตรียมตัวฝึกซ้อมรับมือกับภัยคุกคามทุกอย่างและทุกเรื่อง รวมถึงภัยจากการก่อการร้าย ภัยจากอาวุธชีวภาพปลิดชีวิตมนุษย์ ไปจนถึงภัยจากมนุษย์ต่างดาวที่มาจากดาวดวงอื่น     ‘ผมรู้ว่ามันฟังดูแล้วเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก แต่ขณะนี้ หน่วย SAS กำลังฝึกซ้อมรับมือในทุกภัยคุกคาม ทหารหน่วยรบ SAS นี้สามารถใช้อาวุธไม่ร้ายแรง อย่างสเปรย์ ในการป้องกันไม่ให้ศัตรูเคลื่อนไหว’ แหล่งข่าวเผย พร้อมกับเข้าใจว่าทหารหน่วยรบพิเศษอังกฤษนี้ได้ฝึกซ้อมทักษะการสู้รบครั้งนี้ ร่วมกับทหารจากหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ ส่วนแหล่งข่าวอีกคนหนึ่งยังพูดเสริมด้วยว่า คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น แม้แต่ไอน์สไตน์ ยังเคยกล่าวว่า ทำไมโลกถึงจะเป็นแค่ดาวเคราะห์ดวงเดียวที่มีมนุษย์อาศัยอยู่? และถ้าคุณเชื่อในเรื่องว่ามีสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น คุณต้องยอมรับว่าสักวันเอเลี่ยนอาจมายังโลกในฐานะภัยต่อมนุษย์อย่างหนึ่ง   —————————————————————————————————————————- ที่มา…

คาร์บอมบ์โจมตีภาคกลางอัฟกานิสถาน เจ้าหน้าที่ดับ 30

Loading

รอยเตอร์ – เกิดเหตุคาร์บอมบ์โจมตีจังหวัดกาซนี( Ghazni) ภาคกลางของอัฟกานิสถาน มีผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ 30 นาย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 ราย ยังไม่มีผู้ใดออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ รอยเตอร์รายงานวันนี้(29 พ.ย)ว่า นายแพทย์ บาซ โมฮัมหมัด เฮหมัด ( Baz Mohammad Hemat) ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำจังหวัดกาซนี(Ghazni) ภาคกลางของอัฟกานิสถาน กล่าวให้ข้อมูลว่า มีร่างผู้เสียชีวิต 30 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 คน ได้ถูกส่งตัวเข้ามาที่นี่ และชี้ว่า “เหยื่อทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคง” ทั้งนี้พบว่าการระเบิดมีเป้าหมายที่ตั้งของกองกำลังปกป้องสาธารณะซึ่งเป็นปีกของกองกำลังความมั่นคงอัฟกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผย การโจมตีสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนพลเรือนโดยรอบที่ตั้งกองกำลังปกป้องสาธารณะ พวกเขายังชี้ว่า อาจจะมีตัวเลขสูญเสียที่นั่นเพิ่มมากขึ้น ขณะที่โฆษกกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถานได้ออกมายืนยันเหตุโจมตีด้วยคาร์บอมบ์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดออกมา อย่างไรก็ตามในเวลานี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ รอยเตอร์รายงานว่า ซาบิฮุลลาห์ มูจาฮิด( Zabihullah Mujahid) โฆษกกลุ่มตอลิบานไม่ได้กล่าวยอมรับหรือปฎิเสธในความรับผิดชอบเมื่อถูกถามทางโทรศัพท์ นอกจากนี้ในวันอาทิตย์(29)ยังเกิดเหตุระเบิดอีกที่ในจังหวัดซาบูล( Zabul)ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน โดยมีเป้าหมายไปที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำจังหวัด แต่ทว่าการโจมตีทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1 คน และบาดเจ็บอีก…