สุดโหด!! ระเบิด ‘รถน้ำมัน’ ถล่มตลาดซีเรีย ชาวบ้านซื้อของ ‘ละศีลอด’ ตายเกลื่อน 46 ศพ

Loading

เอเอฟพี – คนร้ายใช้รถบรรทุกน้ำมันติดระเบิดโจมตีตลาดแห่งหนึ่งในภาคเหนือของซีเรียเมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 46 ราย รวมถึงนักรบกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกี เหตุระเบิดที่เมืองอาฟริน (Afrin) ซึ่งอยู่ในการควบคุมของกองกำลังตัวแทนตุรกี เกิดขึ้นในขณะที่ประชาชนจำนวนมากออกมาจับจ่ายซื้ออาหารเพื่อเตรียมละศีลอดในเดือนรอมฎอน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำแถลงประณามเหตุการณ์นี้ว่าเป็น “การกระทำที่ชั่วร้ายและขี้ขลาดตาขาว” ภาพจากหน่วยป้องกันพลเรือนซีเรียเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งสกัดไฟที่ลุกลามเผาไหม้อาคารและรถยนต์หลายคัน ขณะที่หน่วยกู้ชีพก็ช่วยกันขนย้ายร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก รามี อับดุลเราะห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวผ่านแหล่งข่าวในพื้นที่ ระบุว่ามีคนตายอย่างน้อย 46 คน และบาดเจ็บอีก 50 คน บางรายอาการสาหัส และเชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก ในกลุ่มผู้เสียชีวิตยังมีนักรบกบฏซีเรียที่สนับสนุนตุรกีรวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 6 คน และมีผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็กอีก 11 คน ล่าสุดยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุวินาศกรรมซึ่งถือว่าเลวร้ายที่สุดสำหรับเมืองอาฟริน นับตั้งแต่กองทัพตุรกีและกองกำลังพันธมิตรสามารถยึดพื้นที่นี้ไปจากกองกำลังเคิร์ดได้ในเดือน มี.ค. ปี 2018 กระทรวงกลาโหมตุรกีกล่าวโทษหน่วยป้องกันประชาชนเคิร์ด (YPG) ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ โดยอังการานั้นถือว่าพวก YPG เป็นกลุ่มก่อการร้ายในเครือเดียวกับพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ที่ก่อความไม่สงบในตุรกีมานานกว่า 30 ปี “ศัตรูของมนุษยชาติ พวก PKK/YPG ได้โจมตีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่เมืองอาฟรินอีกครั้ง” กระทรวงกลาโหมตุรกีแถลงผ่านทวิตเตอร์ มอร์แกน…

พบโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่อีก 6 ชนิดในค้างคาวเมียนมา

Loading

นักวิจัยค้นพบเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่อีกหกชนิดในค้างคาวที่ประเทศเมียนมา ในขณะที่กำลังศึกษาว่าโรคร้ายนี้สามารถถ่ายทอดจากสัตว์สู่มนุษย์ได้อย่างไร นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า โคโรนาไวรัสทั้งหกชนิดที่พบในค้างคาวเมียนมานั้น ยังไม่เคยถูกค้นพบที่ไหนในโลก แต่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ที่กำลังส่งผลกระทบต่อหลายส่วนของโลกอยู่ในขณะนี้ การวิจัยดังกล่าวนำโดยนักวิทยาศาสตร์จากโครงการ Global Health ของ Smithsonian ในกรุงวอชิงตัน ผลการวิจัยนี้ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร PLOS ONE ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) กล่าวว่า โคโรนาไวรัสเป็นไวรัสสายพันธุ์ขนาดใหญ่ที่พบได้ทั่วไปในคนและสัตว์หลายชนิด และว่า เป็นเรื่องยากที่โคโรนาไวรัสในสัตว์จะถ่ายทอดไปสู่คนแล้วแพร่กระจายในหมู่มนุษย์ อย่างไรก็ตาม มีการระบาดครั้งใหญ่ของโรคที่เกิดจากโคโรนาไวรัสในมนุษย์แล้วหลายครั้ง และค้างคาวก็เป็นส่วนหนึ่งของการระบาดเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น การระบาดของโรค SARS และ MERS และยังเชื่อกันว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งเป็นสาเหตุของ COVID-19 ก็มาจากค้างคาวเช่นเดียวกัน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพประเมินว่า มีโคโรนาไวรัสซึ่งยังไม่ถูกค้นพบอีกหลายพันชนิดในค้างคาว คณะนักวิจัยของ Smithsonian ทำงานร่วมกับนักวิจัยในประเทศเมียนมา ในโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุเชื้อโรคใหม่ที่สามารถถ่ายทอดจากสัตว์ไปสู่คน โครงการที่มีชื่อว่า PREDICT นี้ ได้รับการสนับสนุนจากองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) เป้าหมายของการวิจัย คือ การศึกษาว่าการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ป่าสามารถนำไปสู่การติดเชื้อโคโรนาไวรัสในมนุษย์ได้อย่างไร โดยศูนย์กลางของการวิจัยครั้งนี้อยู่ในพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่ามนุษย์จะเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ป่าในท้องถิ่นนั้น ๆ นักวิจัยได้เก็บตัวอย่างน้ำลายและของเสียจากค้างคาวจำนวน 759 ตัวอย่าง ในพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.…

เยเมนยิ่งป่วนพันธมิตรทิ้ง รัฐบาลคุมภาคใต้เอง

Loading

“สภาเปลี่ยนผ่านภาคใต้” (เอสทีซี) กองกำลังแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ของเยเมน ซึ่งเป็นพันธมิตรของรัฐบาลประธานาธิบดีอาเบด รับโบ มานซูร์ ฮาดี ของเยเมนที่นานาชาติให้การยอมรับ ประกาศเมื่อ 25 เม.ย.ว่า เอสทีซีได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน และจะเข้าควบคุมและปกครองดินแดนภาคใต้ทั้งหมดแต่ผู้เดียว รวมทั้งเมืองท่าเอเดนและจังหวัดอื่นๆ เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืน 25 เม.ย. โดยกล่าวหารัฐบาลนายฮาดีว่าคอร์รัปชันและบริหารประเทศผิดพลาด เอสทีซีซึ่งมีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) หนุนหลัง บรรลุข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลนายฮาดี ซึ่งมีซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรหนุนหลัง ที่กรุงริยาดในซาอุฯ เมื่อ พ.ย.2562 หลังเอสทีซียกทัพบุกยึดเมืองเอเดน ที่ตั้งรัฐบาลใหม่ของนายฮาดีเมื่อเดือน ส.ค.ปีเดียวกัน จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็ร่วมต่อสู้กับกบฏนิกายชีอะห์กลุ่ม “ฮูธี” ที่มีอิหร่านหนุนหลัง ซึ่งบุกยึดภาคเหนือรวมทั้งกรุงซานาเมืองหลวงได้ในปี 2557 ทำให้รัฐบาลนายฮาดีต้องหนีไปอยู่ที่เมืองเอเดน ด้าน รมว.ต่างประเทศของรัฐบาลนายฮาดีแถลงเตือนว่า การคว่ำข้อตกลงสันติภาพและตั้งรัฐบาลที่ภาคใต้เองของเอสทีซีจะนำไปสู่หายนะ ซึ่งเอสทีซีต้องรับผิดชอบ ความแตกแยกครั้งนี้ยิ่งทำให้สงครามกลางเมืองเยเมนสลับซับซ้อน ขณะที่เยเมนอาจเผชิญการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ยังพบผู้ติดเชื้อเพียง 1 ราย. ———————————————————————— ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / 27 เมษายน 2563 Link…

เผยกลุ่มอิทธิพลจีนเข้าไปตั้งบ่อนในรัฐกะเหรี่ยง ท่ามกลางสถานการณ์สันติภาพที่เปราะบาง

Loading

ที่มาภาพ: Sim Chi Yin/The New York Times (อ้างใน United States Institute of Peace) สถาบันสันติสุขแห่งสหรัฐอเมริกา (USIP) เผยแพร่รายงานเรื่องการเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนที่ฉวยโอกาสในตอนที่โลกกำลังเผชิญและให้ความสนใจกับการระบาดหนักของ COVID-19 ทุกวัน จีนก็กำลังแผ่อิทธิพลด้วยการเข้าไปทำธุรกิจจำพวกบ่อนคาสิโนใน “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ของพื้นที่ประเทศพม่า ส่งผลให้กลุ่มเครือข่ายแก๊งอาชญากรรมในจีนผูกสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่เหล่านั้น ตามตลิ่งแม่น้ำเมยที่เป็นเส้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า มีเมืองใหม่เกิดขึ้น 3 แห่งบนผืนดินที่เป็นพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้พื้นที่เหล่านี้เพิ่งจะมีการสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับกองทัพแห่งชาติกะเกรี่ยง แต่ในตอนนี้พื้นที่อดีตสมรภูมิก็กลับกลับกลายเป็นเมืองที่มีโรงแรม, บ่อนคาสิโน และคอนโดมิเนียม ผุดขึ้นในฐานะ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่ไม่ได้รับอนุญาต มีเจ้าของเป็นเครือข่ายธุรกิจจีนที่ทำสัญญาหุ้นส่วนกับคนในพื้นที่รวมถึงกลุ่มติดอาวุธที่ขัดแย้งกัน มีการเซ็นสัญญาเกี่ยวกับพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษใน 3 เมืองนี้ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. ที่ผ่านมาในขณะที่โลกกำลังมัวแต่สนใจเรื่อง COVID-19 แต่อย่างเดียว ทำให้ในตอนนี้พื้นที่เขตแดนพม่า 157 ตร.กม. ตกเป็นของธุรกิจจีนที่โยงใยกับการพนัน, การฟอกเงิน, การเงินแบบเข้ารหัส และกระทั่งเครือข่ายอาชญากรรม ถึงแม้ว่าโครงการสำหรับพื้นที่เหล่านี้จะมีแผนการมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะมีการเร่งโครงการในเดือน ส.ค. 2562 ในช่วงเดียวกับที่ตำรวจจีนและกัมพูชาเริ่มกวาดล้างบริษัทที่ทำบ่อนออนไลน์,…

COVID-19 กำลังเปลี่ยนโลกและท่าทีของเราต่อเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัว

Loading

The way we do business and interact could be fundamentally changed by Covid-19 (Credit: Getty Images) ที่มาภาพ: https://www.bbc.com/future/article/20200331-covid-19-how-will-the-coronavirus-change-the-world Written by Kim อนาคตหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนามีความเป็นไปได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของรัฐบาลและสังคมรวมทั้งสภาพเศรษฐกิจและผลที่ตามมา[1] ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบในระยะยาวของการแพร่ระบาด นักวิชาการ นักวางแผน ผู้นำทางความคิดและนักธุรกิจต่างก็เริ่มจัดทำรายการความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย หากการแพร่ระบาดยิ่งนานเท่าไรการเปลี่ยนแปลงจะยิ่งช้าลงเท่านั้น[2]           ข้อมูลสถิติและผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อยู่ที่เมืองอู่ฮั่นของจีนและปัจจุบันเริ่มถูกจำกัดวง (contain) โดยมีต้นทุนความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจและชีวิตมนุษย์ แม้ในช่วงเวลาก่อนการอุบัติขึ้นแบบฉับพลัน (outbreak)[3] ของเชื้อไวรัส พลเมืองชาวจีนอยู่ภายใต้การสอดส่องตรวจตราอย่างเข้มงวดโดยรัฐ (state surveillance) และมาตรการติดตามแกะรอยทางเทคโนโลยี (technology-driven tracking measures) ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในโลกตะวันตกคุ้นเคย ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง การบุกรุกชีวิตประจำวันของเราดูเหมือนกำลังขยายตัวมากขึ้น[4] เจ้าหน้าที่ทางการใช้หมวกนิรภัยติดกล้องตรวจจับแยกแยะอุณหภูมิฝูงชนและโทรศัพท์สมาร์ทโฟนติดตั้งแอป ซึ่งใช้หลักการเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning)[5] ประเมินค่า “ระดับความเสี่ยง” ของประชาชนด้วยรหัสสี (แดง เหลือง เขียว) เครื่องบินไร้คนขับควบคุมด้วยวิทยุทางไกล (drone) ติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อน ลำโพงขยายเสียงรวมทั้งเครื่องฉีดสารเคมีบินลาดตระเวณบังคับใช้ตรวจจับประชาชนที่ละเมิดกฎหมายกักตัวอยู่บ้าน มีรายงานว่าผู้อยู่อาศัยในอพาร์ทเมนต์จำนวนหนึ่งไม่สามารถกลับเข้าที่พัก เนื่องจากระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติตัดสินว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้มี “ความเสี่ยง”           ไม่เพียงแต่จีนเท่านั้น รัฐบาลอิหร่านสนับสนุนให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปที่ใช้วินิฉัยการแพร่กระจายของไวรัส โดยไม่บอกว่าแอปดังกล่าวสามารถใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ใช้รวมทั้งผู้ที่ติดต่อด้วย…

ทะเลจีนใต้ระอุ เวียดนามประท้วงปักกิ่ง จัดตั้งเขตปกครองบนหมู่เกาะพิพาท

Loading

ทะเลจีนใต้ระอุ – วันที่ 20 เม.ย. วีโอวี รายงานว่า นางเล ถิ ทู หั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามแถลงกรณีที่รัฐบาลจีนประกาศจัดตั้ง เขตซีซา บน หมู่พาราเซล หรือ หมู่เกาะหว่างซา ของเวียดนาม และ เขตหนานซา บน หมู่เกาะสแปรตลีย์ หรือหมู่เกาะ หมู่เกาะเจื่องซา ของเวียดนาม เมื่อวันที่ 18 เม.ย. เป็นการละเมิดอธิปไตยเวียดนามอย่างอุกอาจ ไร้คุณค่า และไม่เป็นที่ยอมรับ ส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ สร้างความวุ่นวายมากขึ้นต่อสถานการณ์ทะเลตะวันออก เวียดนามเรียกร้องให้จีนเคารพอธิปไตยเวียดนาม ยุติการตัดสินใจผิดพลาดต่างๆ และไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลัง ซีจีทีเอ็น โทรทัศน์ทางการจีน รายงานจากกระทรวงกิจการพลเรือนของจีนว่า สภาประชาชนจีนอนุมัติการจัดตั้งสำนักงานเขตซีซา บนเกาะฟู้เลิม ของหมู่เกาะพาราเซล และสำนักงานเขตหนานซา บนโขดหินจื๋อเถิบ ของหมู่เกาะสแปรตลีย์ ทั้งสองสำนักงานเขตอยู่ภายใต้การปกครองของมณฑลไห่หนานของจีน วีโอวีระบุว่า โขดหินจื๋อเถิบเป็นหนึ่งในโครงสร้างกายภาพ 7 แห่ง ของหมู่เกาะเจื่องซาของเวียดนาม ที่ถูกจีนใช้กำลังอาวุธยึดครองอย่างผิดกฎหมายเพื่อปรับปรุงเป็นเกาะเทียมหวังเข้าควบคุมทะเลตะวันออกเพียงฝ่ายเดียว แม้ว่าจีนประกาศไม่มีการเคลื่อนไหวทางทหารในทะเลตะวันออก แต่การกระทำของจีนกลับสวนทางกับคำพูดของจีน ——————————————————— ที่มา : ข่าวสดออนไลน์ / 20 เมษายน 2563 Link : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3986500