“ม.ออสเตรเลีย” กลับไปสอบ “ปากกา-กระดาษ” สกัดนศ.ใช้ “AI” โกงข้อเขียน

Loading

  เทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่สามารถคิดและวิเคราะห์ได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ หากใช้ผิดทางย่อมนำมาซึ่งผลเสียมหันต์ เช่น มหาวิทยาลัยชั้นนำในออสเตรเลีย จำต้องเปลี่ยนกลับมาใช้วิธีสอบด้วย “ปากกาและกระดาษ” หลังพบนักศึกษาทุจริตใช้เอไอเขียนเรียงความแทน   เมื่อไม่นานนี้ มีปรากฏการณ์แชทบอทอัจฉริยะที่พัฒนามาจากปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่เรียกว่า “ChatGPT” ของบริษัท OpenAI ซึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก หลังจากเปิดตัวเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับความสามารถสุดน่าทึ่ง เช่น สนทนาโต้ตอบในหัวข้ออะไรก็ได้ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอยากรู้ ตั้งแต่ประเด็นเชิงประวัติศาสตร์ ปรัชญา ไปจนถึงวิทยาศาสตร์ และทฤษฎีวิชาการต่าง ๆ   ด้วยเหตุนี้ โรงเรียนรัฐหลายแห่งในนิวยอร์กของสหรัฐจึงสั่งห้ามนักเรียนใช้ ChatGPT ในทุกอุปกรณ์ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับ “ผลกระทบเชิงลบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน” และอาจมีการคัดลอกผลงานผู้อื่นด้วย   ล่าสุดในออสเตรเลีย สถาบันการศึกษาหลายแห่งได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับ ChatGPT และความสามารถของเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน ในการเลี่ยงซอฟต์แวร์ตรวจจับการคัดลอกผลงาน พร้อมกับช่วยนักศึกษาเขียนงานวิชาการได้อย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือเสมือนเขียนด้วยตัวเอง   Group of Eight หรือกลุ่ม 8 มหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยระดับชั้นนำของออสเตรเลีย ระบุว่า ได้แก้ไขวิธีสอบวัดผลในปีการศึกษานี้…

แฮ็กเกอร์สั่งให้เครื่องพิมพ์ของมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียพิมพ์จดหมายเรียกค่าไถ่ หลังโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่

Loading

  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ (QUT) มหาวิทยาลัยใหญ่เป็นอันดับ 2 ของรัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่จนทำให้เครื่องพิมพ์สั่งพิมพ์จดหมายเรียกค่าไถ่ออกมาเอง   ในเบื้องต้น ทาง QUT ต้องระงับการใช้งานระบบไอทีหลายระบบเพื่อเป็นการมาตรการป้องกันการถูกขโมยข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมระบุว่าระบบหลักที่เกี่ยวกับนักศึกษา บุคลากร และระบบการเงินยังปลอดภัยดี เพียงแต่ปิดใช้งานเอาไว้ก่อน   ศาสตราจารย์ มาร์กาเรต ชีล (Margaret Sheil) รองอธิการบดีของ QUT เผยว่าเครื่องพิมพ์ส่วนตัวก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน จนทำให้พิมพ์จดหมายเรียกค่าไถ่ออกมาจนไม่เหลือกระดาษให้พิมพ์อีก   ในจดหมายเรียกค่าไถ่ระบุว่ามาจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Royal ransomware ตามด้วยข้อความที่ชี้ว่าแฮ็กเกอร์ได้คัดลอกข้อมูลในระบบของ QUT ไปแล้ว และหากทางมหาวิทยาลัยฯ ไม่จ่ายค่าไถ่ ก็จะมีการเผยแพร่บนโลกออนไลน์ทันที   QUT ยังได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกในการตรวจสอบการแฮกที่เกิดขึ้น และได้แจ้งนักศึกษาและบุคลากรเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว โดยมีการติดต่อไปยังนักศึกษาที่ได้รับข้อเสนอให้มาศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยฯ แต่นักศึกษาเหล่านี้จะยังไม่สามารถกรอกเอกสารได้จนกว่าระบบไอทีจะกลับมาทำงานเป็นปกติ   ชีลยังบอกด้วยว่ามหาวิทยาลัยฯ มีแผนรองรับการโจมตีทางไซเบอร์ และได้แจ้งไปยังหน่วยงานของรัฐบาลกลางแล้ว ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลางออสเตรเลียยืนยันว่าได้รับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว   ก่อนหน้านี้ กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐอเมริกา (HHS) เคยออกคำเตือนโรงพยาบาลต่าง ๆ เกี่ยวกับ…