ออสเตรียมีแผนการที่จะห้ามสตรีมุสลิมใช้สิ่งปกปิดใบหน้าทุกชนิด

Loading

เมื่อ ๓๑ ม.ค.๖๐ รัฐบาลออสเตรียมีแผนการที่จะห้ามสตรีมุสลิมใช้สิ่งปกปิดใบหน้าทุกชนิดเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ การดำเนินการนี้เป็นไปอย่างสอดคล้องกับที่รัฐบาลเยอรมันมีคำสั่งห้ามเช่นเดียวกันนี้เมื่อ ธ.ค.๕๙ แผนการดังกล่าวของออสเตรียจะมีผลบังคับใช้หลังจากรัฐสภาผ่านความเห็นชอบ  ฝรั่งเศสเป็นประเทศยุโรปชาติแรกที่สั่งห้ามสตรีมุสลิมคลุมหน้าในพื้นที่สาธารณะตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ ที่มา : CNN Updated 1319 GMT (2119 HKT) January 31, 2017 ลิงค์ :  http://edition.cnn.com//2017/01/31/europe/austria-face-veil-ban/index.html

ตำรวจตุรกีจับตัวมือปืนก่อเหตุกราดยิงไนต์คลับหรูได้แล้ว

Loading

ตำรวจตุรกีสามารถจับกุมตัวนายอับดุลกาดีร์ มาชาริปอฟ มือปืนผู้ก่อเหตุกราดยิงไนต์คลับหรูที่นครอิสตันบูลในคืนส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมาได้แล้ว โดยเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 39 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายมาชาริปอฟซึ่งมีสัญชาติอุซเบกิซสถานได้ ขณะกบดานหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเพื่อนชาวคีร์กิซสถานในย่านเอเซนเยิร์ตของนครอิสตันบูลนั่นเอง โดยพบว่าคนร้ายอยู่กับบุตรชายอายุ 4 ปีในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายมาชาริปอฟไปตรวจร่างกายและสภาพจิตใจกับแพทย์ก่อนนำตัวไปสอบสวน ซึ่งในการนี้ตำรวจยังได้ควบคุมตัวเพื่อนผู้ให้ที่หลบซ่อนพร้อมกับหญิงอีกสามคนไปสอบสวนพร้อมกันด้วย หนังสือพิมพ์ฮูร์ริเยตของตุรกีรายงานว่า นายมาชาริปอฟเดินทางมาจากอุซเบกิซสถานพร้อมครอบครัวซึ่งประกอบด้วยภรรยาและบุตรสองคน โดยมาตั้งรกรากที่เมืองคอนยาทางตอนกลางของตุรกีเมื่อต้นปีที่แล้ว และเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า เอบู มูฮัมเหม็ด โฮราซานี เขาเดินทางเข้ามายังนครอิสตันบูลเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ของปีที่แล้ว ก่อนก่อเหตุกราดยิงที่ไนต์คลับ “เรนา” ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาคลับที่หรูหราที่สุดในนครอิสตันบูล ก่อนหน้านี้ กลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาแถลงว่า นายมาชาริปอฟเป็นสมาชิกของกลุ่มตนที่ลงมือก่อเหตุเพื่อแก้แค้นต่อการโจมตีของกองทัพตุรกีซึ่งร่วมรบปราบปรามไอเอสในซีเรีย ที่มา :  BBCTHAI  17 ม.ค. 60 ลิงค์ : http://www.bbc.com/thai/international-38646744?ocid=socialflow_facebook

ไฟฟ้าดับที่ยูเครนยืนยันแล้วว่าเป็นการโจมตีไซเบอร์

Loading

นักวิจัยยูเครนได้รับการยืนยันว่าไฟฟ้าดับเมื่อเดือนที่ผ่านมาเป็นผลมาจาก cyberattack โดยกลุ่มเดียวกันกับที่โจมตีเมื่อเดือนธันวาคมปี 2015 การโจมตีเมื่อเดือนที่แล้วเป็นขนาดที่เล็กกว่าเมื่อปี 2015 โดยผู้อาศัยอยู่รอบ สถานีย่อย Pivnichna นอกเมืองหลวงเคียฟ นั้นประมาณ 230,000 คน ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับ, จากแหล่งที่มาบอกว่าเมนบอร์ด พวกเขาอ้างว่าการโจมตีเดียวกันมีความรับผิดชอบสำหรับแคมเปญอื่น ๆ ในโลกไซเบอร์เปิดตัวในเวลาเดียวกันกับผู้ให้บริการรถไฟของประเทศและกระทรวงการคลัง แฮกเกอร์ยังใช้กลยุทธ์เดียวกันทั้งในการโจมตีสถานีพลังงาน, การเขียนทับเฟิร์มแวร์ในหน่วยสถานีระยะไกล (RTUs) จึงทำให้เกิดความผิดปกติ นักวิจัยที่ iSight พาร์ทเนอร์อ้างว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมากลุ่มแฮกเกอร์ Sandworm ของรัสเซียอ้างรับว่าโจมตีเมื่อปี 2015 โดยใช้มัลแวร์ BlackEnergy ในการโจมตี ผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยกับทฤษฎีที่ว่ายูเครนจะถูกใช้สำหรับการทดลองก่อนจะโจมตีในประเทศอื่น ๆ “นี่แสดงให้เห็นว่ามีฝ่ายตรงข้ามที่มีทั้งความตั้งใจและความสามารถในการโจมตีและก่อให้เกิดความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของทุกประเทศทั่วโลกและภัยคุกคามนี้จะต้องไม่ถูกละเลย” ผู้ก่อตั้งเครือข่าย Nozomi Andrea Carcano ที่มา : infosecurity-magazine 12 มกราคม 2017 ลิงค์ : http://www.infosecurity-magazine.com/news/ukraine-power-outage-confirmed-as/

คณะกรรมาธิการยุโรปได้รับความเดือนร้อนจากการโจมตีทางไซเบอร์

Loading

คณะกรรมาธิการยุโรปได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น 20% ในการโจมตีในโครงสร้างพื้นฐานในปี 2016 โดยความพยายามของรัสเซียที่มีอิทธิพลต่อผลของการเลือกตั้งใหญ่ในประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากโลกไซเบอร์ แฮกเกอร์ต้องการที่จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับของสมาชิกสหภาพยุโรป 28 ประเทศบนเซิร์ฟเวอร์ของสำนักงาน ข้าราชการอาวุโสได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติตามการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดเช่นการใช้อีเมลที่เข้ารหัสลับ เซอร์จูเลียนคิง คณะกรรมาธิการการรักษาความปลอดภัยของสหภาพยุโรปกล่าวว่า cyberattacks สามารถทำลายกระบวนการประชาธิปไตย นักการเมืองได้แสดงความกังวลในฝรั่งเศสและเยอรมนีโดยการเจาะและการปล่อยข้อมูลที่มีความสำคัญทางการเมืองโดยใช้เครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ เช่น การแพร่กระจายข่าวเท็จบนเว็บไซต์สื่อสังคม กลยุทธ์ดังกล่าวดูเหมือนจะได้ทำหน้าที่ได้ดีในประเทศสหรัฐอเมริกากับหน่วยงานข่าวกรองอ้างในรายงานเมื่อวันศุกร์ที่รัสเซียนักแสดงรัฐสนับสนุนอยู่เบื้องหลังการแฮ็กที่มีอิทธิพลต่อผลของการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่มา : www.infosecurity-magazine.com 9 JAN 2017 ลิงค์ : http://www.infosecurity-magazine.com/news/european-commission-20-rise/

ตุรกีสอบสวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต 1 หมื่นคน

Loading

ทางการตุรกีสืบสวนสอบสวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศราว 10,000 คน ฐานต้องสงสัยใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อสนับสนุนการก่อการร้าย สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ว่ากระทรวงมหาดไทยของตุรกีออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ ว่ากำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศราว 10,000 คน ซึ่งมีพฤติกรรมต้องสงสัยใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย และโพสต์ข้อความหรือภาพที่มีเนื้อหา “ดูหมิ่น” เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามความมุ่งมั่นของรัฐบาลอังการาในการ “ปราบปรามการก่อการร้าย” ในประเทศ รายงานระบุด้วยว่า ตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของตุรกีควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว 3,710 คน โดยในจำนวนนี้  1,656 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหา “เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อหรือแก้ต่างให้กับกลุ่มก่อการร้าย” ขณะที่ผู้ต้องสงสัยอื่นส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวหมดแล้ว แต่ยังมีอีก 84 คนต้องถูกสอบปากคำต่อไปก่อน ทั้งนี้ รัฐบาลตุรกีมักจำกัดการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงในประเทศ ที่ล่าสุดคือเหตุตำรวจนอกเครื่องแบบลอบยิงสังหารเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงอังการา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา และมีรายงานด้วยว่าการเข้าถึงเว็บไซต์ยูทูบในตุรกีติดขัดมากขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังกลุ่มไอเอสเผยแพร่คลิกการเผาทั้งเป็นทหารชาวเติร์ก 2 นาย. คลิปประกอบจาก CNN ที่มา : เดลินิวส์ อาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2559 เวลา…

หนุ่มคลั่งขับรถกระบะพุ่งชนเครื่องบินโดยสารที่ท่าอากาศยานสหรัฐฯ

Loading

     เอบีซีนิวส์ – ชายคนหนึ่งถูกตำรวจไล่ล่า หลังล่วงล้ำประตูรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานเอปเลย์ แอร์ฟิลด์ ในโอมาฮา มลรัฐเนแบรสกา สหรัฐฯ เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดี(25ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยระหว่างนั้นได้ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์ ขโมยรถกระบะบนรันเวย์และขับรถพุ่งชนบริเวณจมูกของเครื่องบินโดยสารสายการบินเซาต์เวสต์ แอร์ไลน์ส      ทิม โคนาแฮน ผู้บัญชาการตำรวจของการท่าอากาศยานโอมาฮา เปิดเผยกับเอบีซีนิวส์ ว่าเหตุการณ์นี้เริ่มต้นตอนเวลาประมาณ 21.30น. เมื่อตำรวจ ณ สนามบินเอปเลย์ แอร์ฟิลด์ พบเห็นชายคนหนึ่ง มีพฤติกรรมประหลาดๆและกรีดร้องว่ามีคนพยายามฆ่าเขา      ต่อมาชายที่ยังไม่ทราบชื่อรายนี้ ก็วิ่งพรวดเข้าไปยังโรงจอดรถโดยมีเจ้าหน้าที่ไล่ตามไป ก่อนหนีออกไปทางประตูอีกด้านและปีนข้ามรั้วเข้าสู่รันเวย์ จากนั้นก็เขากระโดดขึ้นรถกระบะของสายการบินเซาต์เวสต์ที่ไม่ได้ล็อคประตูและติดเครื่องไว้ ตามการเปิดเผยของ โคนาแฮน พร้อมระบุว่าระหว่างการไล่ล่านั้น ชายคนนี้ได้ถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์      จากนั้นชายคนนี้ก็ขับรถกระบะข้ามไปทางเหนือ จนกระทั่งถูกตำรวจเข้าสกัด เขาจึงถอยกลับและขับเข้าหาสะพานเทียบเครื่องบินของสายการบินเซาต์เวสต์ที่กำลังจอดรับผู้โดยสารขึ้นเครื่อง และพุ่งชนจมูกเครื่องบินอย่างแรง      จากข้อมูลของเซาต์เวสต์ แอร์ไลน์ส ระบุว่าในตอนที่เกิดเหตุ มีผู้โดยสารขึ้นไปอยู่บนเครื่องบินโบอิ้ง 737 เที่ยวมุ่งหน้าสู่เดนเวอร์…