อังกฤษทบทวนเรื่องการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในอังกฤษและเวลส์

Loading

อังกฤษเล็งเพิ่มการคุ้มครองทางกฎหมายแก่ตำรวจในการใช้อาวุธปืน      บีบีซีได้รับข้อมูลว่า นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษได้สั่งการให้ทบทวนเรื่องการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในอังกฤษและเวลส์ โดยให้ประเมินว่า กฎหมายในปัจจุบันให้ความคุ้มครองและสนับสนุนตำรวจเพียงพอในการตัดสินใจใช้อาวุธปืนในเหตุฉุกเฉินหรือไม่ หลังเกิดเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีส      กระทรวงมหาดไทย สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงยุติธรรมอังกฤษจะประเมินว่ากฎหมายที่มีอยู่ให้การคุ้มครองตำรวจเพียงพอ และไม่ทำให้เกิดความลังเลใจในการใช้อาวุธปืนเมื่อเกิดเหตุร้ายหรือไม่      ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากนายตำรวจระดับสูงแสดงความวิตกว่า ตำรวจไม่ได้รับการสนับสนุนทางด้านกฎหมายเพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมั่นใจ เพราะเกรงว่าจะถูกสอบสวนหรือถูกดำเนินคดีในภายหลัง      ปัจจุบัน กฎหมายกำหนดให้ตำรวจใช้ “กำลังที่สมควรแก่เหตุ” และอนุญาตให้ใช้อาวุธปืนได้ในกรณีที่มีความ “เชื่ออย่างสุจริตใจและเชื่อโดยสัญชาตญาณ” ว่าการยิงเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ      ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า เหตุก่อการร้ายในกรุงปารีส ทำให้รัฐบาลและตำรวจอังกฤษต้องพิจารณาอย่างจริงจังถึงวิธีการรับมือกับเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ โดยปัจจุบันอังกฤษและเวลส์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 130,000 คน แต่มีผู้ได้รับการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนเพียง 6,000 คน ซึ่งรัฐบาลประกาศจะเพิ่มตัวเลขดังกล่าว      ขณะที่ตำรวจนครบาลลอนดอนก็มีแผนเพิ่มจำนวนตำรวจที่สามารถใช้ปืนช็อตไฟฟ้าด้วยเช่นกัน และคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรีคาเมรอน หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดไล่แทงผู้คนที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อไม่นานมานี้      ด้านพรรคแรงงาน เตือนว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับตำรวจได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/BBCThai/?fref=ts

เฟซบุ๊ก กูเกิลและทวิตเตอร์ตกลงกับรัฐบาลเยอรมันจัดการเฮทสปีช

Loading

เฟซบุ๊ก กูเกิลและทวิตเตอร์ทำข้อตกลงกับรัฐบาลเยอรมันที่จะลบข้อความที่แสดงหรือสร้างความเกลียดชัง หรือที่เรียกว่าเฮทสปีชออกจากเว็บไซต์ของตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของเยอรมันนี ไฮโก มาส กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะเป็นการรับประกันว่ากฎหมายของเยอรมันจะมีผลบังคับใช้ในโลกออนไลน์ และโซเชียลมีเดียจะต้องไม่ “กลายเป็นมหกรรมบันเทิงสำหรับฝ่ายขวาจัด” ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีรายงานถึงการเหยียดผิวที่พุ่งสูงขึ้นในโลกออนไลน์ในประเทศขณะที่เยอรมันกำลังจัดการรับมือกับการหลั่งไหลเข้ามาของผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเกือบหนึ่งล้านคนในปี 2558 และการที่เยอรมันต้อนรับผู้อพยพหลายแสนคนที่ส่วนใหญ่มาจากซีเรีย อิรักและอัฟกานิสถานได้ก่อให้เกิดปฏิกริยาความไม่พอใจจากฝ่ายชาตินิยมที่รวมถึงนีโอนาซี มาสบอกว่า การร้องเรียนเกี่ยวกับเฮทสปีชจะได้รับการพิจารณาโดย “คณะผู้เชี่ยวชาญ” ของบริษัททั้งสามที่ยังจะทำให้การร้องเรียนทำได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย คณะผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาข้อร้องเรียนโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานของกฎหมายเยอรมัน “และไม่ใช่แค่เงื่อนไขการใช้งานของผู้ให้บริการแต่ละเจ้าอีกต่อไป” มาสบอกว่า “เมื่อมีการละเมิดขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เมื่อเป็นการแสดงความเห็นในทางอาชญากรรม การปลุกปั่นก่อความไม่สงบ การยุยงให้กระทำความผิดที่ส่งผลคุกคามต่อผู้คน เนื้อหาเช่นว่านี้จะต้องถูกลบออกไปจากอินเตอร์เน็ต” และย้ำว่าเป็นข้อตกลงที่จะต้องดำเนินการภายในเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้มาสและนักวิจารณ์คนอื่นๆ ได้กล่าวหาเฟซบุ๊กว่าดำเนินการฉับไวในการลบภาพโป๊เปลือยออกจากหน้าเพจของผู้ใช้ แต่กลับปล่อยให้มีข้อความเหยียดผิวและเกลียดกลัวชาวต่างชาติอยู่ต่อไปได้ ขณะที่เฟซบุ๊กระบุว่าอาศัยผู้ใช้ในการรายงานหรือร้องเรียนเกี่ยวกับข้อความที่แสดงหรือสร้างความเกลียดชัง ที่มา : Facebook บีบีซีไทย – BBC Thai

ฝรั่งเศสรักษาความปลอดภัยเข้มงวดหลังครบ 1 เดือนที่เกิดเหตุโจมตีในกรุงปารีส

Loading

การรักษาความปลอดภัยในกรุงปารีส นครหลวงของฝรั่งเศสยังคงเข้มงวด หลังจากครบ 1 เดือนที่เกิดเหตุการณ์โจมตีโดยผู้ก่อการร้าย เหตุการณ์ โจมตีหลายระลอกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 130 คน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแจ้งว่ามีผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 60 คน ผู้คนกำลังพยายามกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เมื่อ วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม มีลูกค้าหลายคนที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งซึ่งตกเป็นเป้าโจมตี และร้านนี้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อต้นเดือนนี้ เจ้าหน้าที่ในฝรั่งเศสและบรรดาประเทศเพื่อนบ้านยังคงมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้ในระดับสูง รัฐบาลฝรั่งเศสได้ขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เจ้า หน้าที่ฝรั่งเศสกล่าวว่าได้เข้าตรวจค้นกว่า 2,500 ครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคมและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 311 คน พร้อมทั้งยึดอาวุธ 403 รายการ คนบางส่วนเป็นห่วงว่าการกีดกันต่อคนมุสลิมและผู้อพยพย้ายถิ่นอาจขยายวงกว้าง ที่มา : NHK WORLD วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม เวลา 18:59

เว็บไซต์ของผู้นำญี่ปุ่นอาจถูกโจมตีทางไซเบอร์

Loading

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะแห่งญี่ปุ่นไม่สามารถเข้าได้ในวันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคมเนื่องจากการโจมตีทางไซเบอร์ แต่จากนั้น เว็บไซต์ก็ได้รับการกู้และกลับมาใช้ได้เกือบทั้งหมดแล้ว มีข้อความเผยแพร่บนทวิตเตอร์เมื่อราว 3.30 น. ของเช้าวันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคมตามเวลาในญี่ปุ่น ซึ่งระบุว่ากลุ่มแฮกเกอร์ หรือ นักเจาะระบบคอมพิวเตอร์นานาชาติที่เรียกตัวเองว่า Anonymous เป็นผู้ลงมือโจมตีทางไซเบอร์ต่อเว็บไซต์ของผู้นำญี่ปุ่น ดูเหมือนกลุ่มนี้ใช้กลวิธีที่เรียกว่า distributed denial-of-service attack หรือ การโจมตีแบบปฏิเสธการให้บริการแบบกระจาย ซึ่งเป็นการทำให้เว็บไซต์ใช้งานไม่ได้โดยการส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลเข้าไป เว็บไซต์ของนายกรัฐมนตรีอะเบะสามารถกลับมาใช้งานได้เป็นปกติเกือบทั้งหมดในตอนเย็นของวันเดียวกัน กองบัญชาการตำรวจกรุงโตเกียวกำลังสืบสวนเรื่องนี้ ด้านนายโยะชิฮิเดะ ซุงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการโจมตีโดยกลุ่ม Anonymous แต่เขากล่าวว่ารัฐบาลได้รับแจ้งเรื่องที่ดูเหมือนว่ากลุ่มนี้กล่าวอ้างว่าเป็นตัวการก่อเหตุโจมตี ที่มา : NHK WORLD News วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม เวลา 19:13 Link : http://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/201512102045_th_03/

ตุรกีควบคุมตัวสองผู้สื่อข่าวในข้อหาก่อการร้าย

Loading

            ผู้สื่อข่าวระดับนำของตุรกี 2 นายถูกทางการควบคุม เมื่อวันพฤหัสบดี (26พ.ย.58) เนื่องจากให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายโดยการเสนอข้อมูลว่า หน่วยงานข่าวให้การช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ซีเรีย           ซีเอ็นเอ็นเติร์กกล่าวว่า หลังจากที่พวกเขาตีพิมพ์ภาพที่อ้างว่าหน่วยงานข่าวกรองของรัฐได้ช่วยส่งอาวุธไปยังประเทศซีเรีย           สถานีโทรทัศน์กล่าวว่า ศาลตุรกีสั่งจับกุม จาน ดุลดารช์ บรรณาธิการใหญ่หนังสือพิมพ์ จุมฮูลิเยด และเออร์เดม กูล นักข่าวของหนังสือพิมพ์อังการา           สื่อตุรกีรายงานว่าทั้งสองต้องเผชิญกับหลายข้อกล่าวหา รวมทั้งการถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกขององค์กรก่อการร้ายติดอาวุธ และการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นการละเมิดต่อความมั่นคงของรัฐในการเผยแพร่ภาพดังกล่าวในเดือนพฤษภาคม           สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันข้อมูลจากรายงานนี้ได้ทันที           วิดีโอที่อ้างแสดงให้เห็นว่าตำรวจตุรกีเปิดลังอาวุธและคลังกระสุนให้กับซีเรียที่ด้านหลังของรถบรรทุกหน่วยงานความมั่นคง ประธานาธิบดี เทย์ยิป เออร์โดกัน ให้คำมั่นที่จะแก้แค้น เขากล่าวว่าจะไม่ยกโทษต่อการรายงานดังกล่าว           นักการทูตยุโรปกดดันโดยการวิจารณ์ถึงเสรีภาพของสื่อในประเทศตุรกี การปกครองเผด็จการที่มากขึ้นของเออร์โดกัน และการตอบรับต่อยุโรปที่ต้องการให้อังการา (ตุรกี) ช่วยเหลือในวิกฤตผู้อพยพและความร่วมมือกับพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ในการต่อต้านรัฐอิสลาม           ยุโรปคาดหวังที่จะได้ข้อสรุปในข้อตกลงกับอังการา (ตุรกี) – ซึ่งเป็นสมาชิกนาโตและผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป – เกี่ยวกับวิกฤตผู้ลี้ภัยในการประชุมสุดสัปดาห์นี้           (รายงานโดย เอเจะ ทอคซาบาย และ ฮูเมยรา…