นักสกีแชมป์โลก เกือบตายเพราะ “โดรนหล่นใส่” ระหว่างแข่งที่อิตาลี

Loading

นักสกีหนุ่มออสเตรียดีกรีแชมป์โลกเกือบเอาชีวิตไปทิ้งที่อิตาลี หลังโดรนถ่ายภาพทางอากาศตกใส่เฉียดหลังเจ้าตัวระหว่างแข่งห่างไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร ส่งผลสมาพันธ์สกีนานาชาติประกาศแบนโดรนจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกถาวร ระบุไร้ความปลอดภัย มาร์กแซล เฮอร์ชาร์ นักสกีดีกรีแชมป์โลกชาวออสเตรียเกือบต้องประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ระหว่างการแข่งขันอัลไพน์ สลาลม ที่อิตาลีเมื่อวันอังคารที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากในการแข่งรอบที่สองมีโดรน หรือ อากาศยานควบคุมจากระยะไกล ซึ่งผู้จัดการแข่งขันใช้ถ่ายภาพทางอากาศเกิดเสียการควบคุมหล่นลงมาเฉียดหลังเขาไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร “มันเป็นเรื่องที่แย่มาก” เฮอร์ชาร์ นักสกีหนุ่มวัย 26 ปีที่คว้าแชมป์โลกมาแล้วถึง 4 สมัยกล่าว และว่า “มันจะเกิดขึ้นไม่ได้อีก เพราะมันจะทำให้เกิดการบาดเจ็บอย่างหนักได้” สำหรับการแข่งขันครั้งนี้นักสกีออสเตรียจบเป็นอันดับที่สอง ช้ากว่าเฮนริก คริสตอฟเฟอร์เซน นักสกีจากนอร์เวย์ไป 1.25 วินาที อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์หวาดเสียวที่เกิดขึ้นกับเฮอร์ชาร์ทำให้สมาพันธ์สกีนานาชาติ หรือ เอฟไอเอส ประกาศว่าจะยกเลิกการใช้โดรนติดกล้องในการแข่งขันชิงแชมป์โลกทั้งหมด ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย “เพราะมันไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย ถือเป็นโชคดีมหาศาลที่มาร์กแซลไม่ได้รับบาดเจ็บ และผมรู้สึกโมโหกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก” มาร์คุส วาล์ดเนอร์ ผู้อำนวยการของสมาพันธ์สกีนานาชาติระบุ ทั้งนี้ตามระเบียบแล้ว โดรนจะต้องบินนอกเส้นทางสกีของนักแข่งและตามหลังนักสกีอย่างน้อย 15 เมตร นักสกีหนุ่มออสเตรียหลังแข่งจบ (ภาพเอเอฟพี) มาร์กแซล เฮอร์ชาร์ ซ้ายสุดกับแชมป์และอันดับสาม (ภาพเอเอฟพี)…

ฝรั่งเศสเพิ่มมาตรการ รปภ.ช่วงเทศกาลคริสต์มาส

Loading

์ สืบเนื่องจากกรณีสังหารหมู่ในกรุงปารีส ทางการฝรั่งเศสเพิ่มการกวดขันมาตรการการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นในช่วงคริสต์มาสนี้ อย่างเช่น การตรวจตราประชาชนกว่า 800 คนที่บริเวณทางเข้าโบสถ์เซ็นต์จอร์เมนเดสเพรส ในกรุงปารีส เพื่อร่วมการสวดมนต์ในช่วงคริสต์มาส เป็นเวลา 2 ชั่วโมง และวางกำลังทหารไว้ตามจุดต่างๆ รอบโบสถ์อีกด้วย  น.ส.พ.ฝรั่งเศสยังแจ้งอีกว่า ในระหว่างวันที่ 24-25 ธ.ค.นี้ มีกำลังทหาร 10,000 คนและตำรวจอีก 50,000 คน ประจำการตามโบสถ์ต่าง ๆ ที่มีประมาณ 50,000 แห่ง ที่มา : NHK WORLD News วันที่ 25 ธันวาคม 2558 Link : http://www3.nhk.or.jp/nhkworld/english/news/20151225_15.html

อังกฤษทบทวนเรื่องการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในอังกฤษและเวลส์

Loading

อังกฤษเล็งเพิ่มการคุ้มครองทางกฎหมายแก่ตำรวจในการใช้อาวุธปืน      บีบีซีได้รับข้อมูลว่า นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษได้สั่งการให้ทบทวนเรื่องการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในอังกฤษและเวลส์ โดยให้ประเมินว่า กฎหมายในปัจจุบันให้ความคุ้มครองและสนับสนุนตำรวจเพียงพอในการตัดสินใจใช้อาวุธปืนในเหตุฉุกเฉินหรือไม่ หลังเกิดเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีส      กระทรวงมหาดไทย สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงยุติธรรมอังกฤษจะประเมินว่ากฎหมายที่มีอยู่ให้การคุ้มครองตำรวจเพียงพอ และไม่ทำให้เกิดความลังเลใจในการใช้อาวุธปืนเมื่อเกิดเหตุร้ายหรือไม่      ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากนายตำรวจระดับสูงแสดงความวิตกว่า ตำรวจไม่ได้รับการสนับสนุนทางด้านกฎหมายเพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมั่นใจ เพราะเกรงว่าจะถูกสอบสวนหรือถูกดำเนินคดีในภายหลัง      ปัจจุบัน กฎหมายกำหนดให้ตำรวจใช้ “กำลังที่สมควรแก่เหตุ” และอนุญาตให้ใช้อาวุธปืนได้ในกรณีที่มีความ “เชื่ออย่างสุจริตใจและเชื่อโดยสัญชาตญาณ” ว่าการยิงเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ      ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า เหตุก่อการร้ายในกรุงปารีส ทำให้รัฐบาลและตำรวจอังกฤษต้องพิจารณาอย่างจริงจังถึงวิธีการรับมือกับเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ โดยปัจจุบันอังกฤษและเวลส์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 130,000 คน แต่มีผู้ได้รับการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนเพียง 6,000 คน ซึ่งรัฐบาลประกาศจะเพิ่มตัวเลขดังกล่าว      ขณะที่ตำรวจนครบาลลอนดอนก็มีแผนเพิ่มจำนวนตำรวจที่สามารถใช้ปืนช็อตไฟฟ้าด้วยเช่นกัน และคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรีคาเมรอน หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดไล่แทงผู้คนที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อไม่นานมานี้      ด้านพรรคแรงงาน เตือนว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับตำรวจได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/BBCThai/?fref=ts

เฟซบุ๊ก กูเกิลและทวิตเตอร์ตกลงกับรัฐบาลเยอรมันจัดการเฮทสปีช

Loading

เฟซบุ๊ก กูเกิลและทวิตเตอร์ทำข้อตกลงกับรัฐบาลเยอรมันที่จะลบข้อความที่แสดงหรือสร้างความเกลียดชัง หรือที่เรียกว่าเฮทสปีชออกจากเว็บไซต์ของตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของเยอรมันนี ไฮโก มาส กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะเป็นการรับประกันว่ากฎหมายของเยอรมันจะมีผลบังคับใช้ในโลกออนไลน์ และโซเชียลมีเดียจะต้องไม่ “กลายเป็นมหกรรมบันเทิงสำหรับฝ่ายขวาจัด” ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีรายงานถึงการเหยียดผิวที่พุ่งสูงขึ้นในโลกออนไลน์ในประเทศขณะที่เยอรมันกำลังจัดการรับมือกับการหลั่งไหลเข้ามาของผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเกือบหนึ่งล้านคนในปี 2558 และการที่เยอรมันต้อนรับผู้อพยพหลายแสนคนที่ส่วนใหญ่มาจากซีเรีย อิรักและอัฟกานิสถานได้ก่อให้เกิดปฏิกริยาความไม่พอใจจากฝ่ายชาตินิยมที่รวมถึงนีโอนาซี มาสบอกว่า การร้องเรียนเกี่ยวกับเฮทสปีชจะได้รับการพิจารณาโดย “คณะผู้เชี่ยวชาญ” ของบริษัททั้งสามที่ยังจะทำให้การร้องเรียนทำได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย คณะผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาข้อร้องเรียนโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานของกฎหมายเยอรมัน “และไม่ใช่แค่เงื่อนไขการใช้งานของผู้ให้บริการแต่ละเจ้าอีกต่อไป” มาสบอกว่า “เมื่อมีการละเมิดขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เมื่อเป็นการแสดงความเห็นในทางอาชญากรรม การปลุกปั่นก่อความไม่สงบ การยุยงให้กระทำความผิดที่ส่งผลคุกคามต่อผู้คน เนื้อหาเช่นว่านี้จะต้องถูกลบออกไปจากอินเตอร์เน็ต” และย้ำว่าเป็นข้อตกลงที่จะต้องดำเนินการภายในเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้มาสและนักวิจารณ์คนอื่นๆ ได้กล่าวหาเฟซบุ๊กว่าดำเนินการฉับไวในการลบภาพโป๊เปลือยออกจากหน้าเพจของผู้ใช้ แต่กลับปล่อยให้มีข้อความเหยียดผิวและเกลียดกลัวชาวต่างชาติอยู่ต่อไปได้ ขณะที่เฟซบุ๊กระบุว่าอาศัยผู้ใช้ในการรายงานหรือร้องเรียนเกี่ยวกับข้อความที่แสดงหรือสร้างความเกลียดชัง ที่มา : Facebook บีบีซีไทย – BBC Thai

ฝรั่งเศสรักษาความปลอดภัยเข้มงวดหลังครบ 1 เดือนที่เกิดเหตุโจมตีในกรุงปารีส

Loading

การรักษาความปลอดภัยในกรุงปารีส นครหลวงของฝรั่งเศสยังคงเข้มงวด หลังจากครบ 1 เดือนที่เกิดเหตุการณ์โจมตีโดยผู้ก่อการร้าย เหตุการณ์ โจมตีหลายระลอกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 130 คน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแจ้งว่ามีผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 60 คน ผู้คนกำลังพยายามกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เมื่อ วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม มีลูกค้าหลายคนที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งซึ่งตกเป็นเป้าโจมตี และร้านนี้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อต้นเดือนนี้ เจ้าหน้าที่ในฝรั่งเศสและบรรดาประเทศเพื่อนบ้านยังคงมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้ในระดับสูง รัฐบาลฝรั่งเศสได้ขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เจ้า หน้าที่ฝรั่งเศสกล่าวว่าได้เข้าตรวจค้นกว่า 2,500 ครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคมและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 311 คน พร้อมทั้งยึดอาวุธ 403 รายการ คนบางส่วนเป็นห่วงว่าการกีดกันต่อคนมุสลิมและผู้อพยพย้ายถิ่นอาจขยายวงกว้าง ที่มา : NHK WORLD วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม เวลา 18:59