เปิดดูแผนสันติภาพ 10 ข้อของ ‘เซเลนสกี’

Loading

Congress Zelenskyy Washington   ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน หยิบแผนสันติภาพ 10 ข้อขึ้นมานำเสนอในโอกาสต่าง ๆ รวมทั้งเมื่อครั้งที่เขาหารือกับ ปธน. โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ โดยเขายังเรียกร้องให้บรรดาผู้นำประเทศจัดประชุมสุดยอดสันติภาพโลก (Global Peace Summit) และใช้แผนสันติภาพนี้เป็นบรรทัดฐานของการประชุม   รอยเตอร์ชวนดูรายละเอียดของแผนดังกล่าว ที่ผู้นำยูเครนประกาศครั้งแรกระหว่างการประชุมสุดยอดจี-20 เมื่อเดือนพฤศจิกายน   แผนดังกล่าวเรียกร้องให้มี:   1. ความปลอดภัยของนิวเคลียร์และกัมมันตภาพรังสี เน้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปที่เมืองซาปอริซห์เชีย ที่รัสเซียยึดครองอยู่ 2. ความปลอดภัยทางอาหาร รวมทั้งการรับประกันว่ายูเครนจะส่งออกธัญพืชไปยังประเทศที่ยากจนที่สุดได้ 3. ความปลอดภัยทางพลังงาน เน้นที่การจำกัดราคาแหล่งพลังงานรัสเซีย และการช่วยให้ยูเครนฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่ถูกรัสเซียทำลายไปครึ่งหนึ่ง 4. การปล่อยตัวนักโทษและผู้ถูกเนรเทศทุกคน รวมทั้งนักโทษสงครามและเด็ก ๆ ที่ถูกเนรเทศไปรัสเซีย 5. การฟื้นฟูบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน และการยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติของรัสเซีย 6. การถอนกองกำลังรัสเซียและการยุติการใช้ความรุนแรง ฟื้นฟูชายแดนยูเครน-รัสเซีย 7. ความยุติธรรม รวมถึงการจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อดำเนินคดีอาชญากรรมสงครามของรัสเซีย 8. การปกป้องสิ่งแวดล้อม…

‘แคสเปอร์สกี้’ เปิดบทสรุป อุบัติภัยไซเบอร์ปี 2565

Loading

  แคสเปอร์สกี้ เปิดรายงานเชิงวิเคราะห์กิจกรรมบนไซเบอร์สเปซ การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่น่าจับตามองในโลกความปลอดภัยทางไซเบอร์ ประจำปี 2565   ผู้เชี่ยวชาญของ “แคสเปอร์สกี้” รายงานว่า ปีนี้เป็นปีที่มีความขัดแย้งทางทหารแบบศตวรรษที่ 20 นำมาซึ่งความไม่แน่นอนและความเสี่ยงร้ายแรงที่กระจายไปทั่วทวีป   จากการวิเคราะห์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของความขัดแย้งในยูเครนในวงกว้างพบว่า เหตุการณ์ทางไซเบอร์จำนวนหนึ่งได้เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมาก   ผู้เชี่ยวชาญพบสัญญาณสำคัญและการเพิ่มขึ้นของสงครามไซเบอร์อย่างรวดเร็วในช่วงก่อนการปะทะกันทางทหารในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา รวมถึงแรนซัมแวร์ปลอมและการโจมตีไวเปอร์คลื่นลูกใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหน่วยงานของยูเครนอย่างไม่เจาะจง   ทั้งนี้ บางส่วนมีความซับซ้อนสูง แต่ปริมาณของการโจมตีไวเปอร์และแรนซัมแวร์ลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากระลอกแรก โดยมีรายงานเหตุการณ์ที่น่าสังเกตในจำนวนจำกัด กลุ่มที่มีแรงจูงใจในอุดมการณ์ซึ่งนำเสนอตัวเองในการโจมตีระลอกแรกดูเหมือนจะไม่เคลื่อนไหวในขณะนี้     สงครามไซเบอร์รูปแบบใหม่   สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นไฮไลต์ ซึ่งมีลักษณะสำคัญบางประการที่กำหนดถึงการเผชิญหน้าทางไซเบอร์ในปี 2565 มีดังนี้   นักเจาะระบบและการโจมตี DDoS : ความขัดแย้งในยูเครนได้สร้างแหล่งเพาะกิจกรรมสงครามไซเบอร์ใหม่ ๆ จากกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงอาชญากรไซเบอร์และนักแฮกข้อมูล ที่ต่างเร่งรีบที่จะสนับสนุนฝ่ายที่ตนชื่นชอบ   บางกลุ่มเช่นกองทัพไอทีของยูเครนหรือ Killnet ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล และช่องโทรเลขมีสมาชิกหลายแสนคน   ขณะที่การโจมตีโดยนักเจาะระบบมีความซับซ้อนค่อนข้างต่ำ ผู้เชี่ยวชาญพบว่ากิจกรรม…

ยูเครนเผย รัสเซียเริ่มโจมตีด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ แบบไม่ติดหัวรบระเบิด

Loading

  กองทัพยูเครนเผย รัสเซียเริ่มใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์โจมตีแบบไม่ติดหัวรบ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า มิสไซล์ในคลังแสงของรัสเซียอาจใกล้หมดหลังระดมโจมตีอย่างหนัก   สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า นายมีโคลา ดานีลีอุค เจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ธ.ค. 2565 ว่า รัสเซียเริ่มใช้ขีปนาวุธร่อน X-55 หรือที่นาโตเรียกว่า AS-15 ซึ่งมีขีดความสามารถในการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ใส่พวกเขาแล้ว แต่ไม่ติดตั้งหัวรบระเบิด   ในงานแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ยังจัดแสดงเศษชิ้นส่วนที่พวกเขาบอกว่ามาจากขีปนาวุธ X-55 ที่พบในแคว้นลวิฟ และ คเมลนิตสกี ทางตะวันตกของประเทศ โดยยืนยันว่า พวกเขาไม่พบระดับกัมมันภาพรังสีที่ผิดปกติจากชิ้นส่วนดังกล่าวแต่อย่างใด ทำให้เชื่อว่า กองทัพรัสเซียใช้หัวรบด้านที่ไม่ระเบิดแทน เพื่อตัดกำลังระบบป้องกันทางอาการของยูเครน   นายดานีลีอุคย้ำว่า แม้ขีปนาวุธจะติดหัวรบที่ไม่ระเบิด มันก็ยังมีความอันตรายอย่างมีนัยสำคัญ เพราะพลังงานจลน์ที่มันปล่อยออกมาและเชื้อเพลิงที่หลงเหลือ โดยมีหลักฐานปรากฏให้เป็นที่การโจมตีล่าสุดของรัสเซีย หลังจากมิสไซล์ X-55 ตกใส่อาคารที่อยู่อาศัย   ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในกองทัพยูเครนคาดว่า รัสเซียอาจเหลือขีปนาวุธในคลังแสงน้อยมากแล้ว หลังจากระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยูเครนหลายระลอกตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ต้องหันมาใช้จรวดด้านในการโจมตี ซึ่งยังสามารถสร้างความเสียหายได้มาก     ———————————————————————————————————————————- ที่มา…

ฝีมือใคร!? ส่งพัสดุระเบิดถึงสถานทูตยูเครนในมาดริด เคียฟผวาสั่งคุมเข้มความปลอดภัยในต่างแดน

Loading

  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายหนึ่ง ณ สถานทูตยูเครน ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ได้รับบาดเจ็บในวันพุธ (30 พ.ย.) หลังเปิดดูพัสดุระเบิดที่จ่าหน้าถึงสถานทูตแห่งนี้ กระตุ้นให้เคียฟสั่งยกระดับรักษาความปลอดภัยแก่สำนักงานผู้แทนทางการทูตของพวกเขาทุกแห่งในต่างแดน   พัสดุซึ่งส่งมาทางไปรษณีย์ปกติและไม่ได้ผ่านการสแกน ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ที่แกะพัสดุดังกล่าวบริเวณลานหญ้าของสถานทูตได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณนิ้วมือ จากการเปิดเผยของ มาเซเดส กอนซาเลซ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสเปน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เทเลมาดริด   ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา บริษัทอาวุธแห่งหนึ่งในซาราโกซา ทางภาคตะวันอกเฉียงเหนือของสเปน ได้รับพัสดุคล้ายกัน ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่นที่อ้างอิงแหล่งข่าวตำรวจ อย่างไรก็ตาม ทางรอยเตอร์ไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้   โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยูเครน เผยว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ ดมีโทร คูเลบา ออกคำสั่งให้สถานทูตเคียฟทุกแห่งในต่างแดนยกระดับรักษาความปลอดภัยเป็นการเร่งด่วน และเรียกร้องสเปนให้ดำเนินการสืบสวนเหตุโจมตี   เขากล่าวต่อว่า “คนร้ายจะไม่ประสบความสำเร็จในความพยายามข่มขู่คณะทูตยูเครน หรือหยุดการทำงานในทุกๆ วันของคณะทูต ในการเสริมความเข้มแข็งแก่ยูเครนและตอบโต้การรุกรานของรัสเซีย”   เชอร์ฮิล โปโฮเรลท์เซฟ เอกอัครราชทูตยูเครนประจำกรุงมาดริด ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวชนสเปน ในเวลาต่อมา ว่าเขายังคงทำงานตามปกติที่สถานทูต โดยปราศจากความหวาดกลัวใด ๆ “เราได้รับคำสั่งจากกระทรวงฯ ในยูเครน เราว่าจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ทุกความเคลื่อนไหวนอกประเทศของรัสเซีย” เขากล่าว  …

รัสเซีย ยูเครน : รัสเซียสร้างความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าของยูเครนมากแค่ไหน

Loading

GETTY IMAGES   นางโอเลนา เซเลนสกา สตรีหมายเลขหนึ่งของยูเครน กล่าวว่า ชาวยูเครนเตรียมเผชิญกับฤดูหนาวที่จะมีการตัดกระแสไฟฟ้า 2-3 ปี จากการที่ถูกรัสเซียโจมตีทางอากาศ   การที่รัสเซียโจมตียูเครนด้วยโดรนและขีปนาวุธ ทำให้ผู้คนหลายล้านคนทั่วประเทศยูเครนไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา และไม่สามารถใช้ระบบทำความร้อนในช่วงฤดูหนาวได้     รัสเซียสร้างความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าของยูเครนมากแค่ไหน   หลังจากเผชิญกับความล้มเหลวในสมรภูมิรบหลายครั้ง กองทัพรัสเซียได้มุ่งเน้นการโจมตีไปที่โรงไฟฟ้าของยูเครน คลังเก็บเชื้อเพลิง และสถานีประปา   ยูเครเนอร์โก (Ukrenergo) บริษัทพลังงานแห่งชาติของยูเครน ระบุว่า ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้ามีมากถึงขนาดที่ไม่สามารถตอบสนองต่อปริมาณความต้องการไฟฟ้าราว 50%   นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า ประชาชนราว 6 ล้านคนใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้งาน   โรงไฟฟ้าทั่วประเทศตั้งแต่กรุงเคียฟไปจนถึงเมืองโอเดสซาทางใต้และเมืองวีนนิตเซียทางตะวันตกต่างถูกโจมตี   กระแสไฟฟ้าขัดข้องทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถใช้ระบบทำความร้อน ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำลงกว่า 0 องศาเซลเซียสแล้วในหลายพื้นที่ของยูเครน   ยาสโน (Yasno) บริษัทไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ระบุว่า ชาวยูเครนน่าจะต้องเผชิญกับการถูกตัดไฟไปจนถึงเดือน มี.ค.   สหภาพยุโรป ได้มอบเงินผ่านกองทุนช่วยเหลือด้านพลังงานของยูเครน…

รับผิดชอบผลงาน! สื่อสหรัฐฯ ไล่ออกนักข่าว ปั่น ‘เฟกนิวส์’ รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่โปแลนด์

Loading

  สำนักข่าวเอพี สื่อมวลชนสัญชาติสหรัฐฯ ไล่ออกผู้สื่อข่าวที่อยู่เบื้องหลังคำกล่าวอ้างที่ว่า ขีปนาวุธที่พุ่งตกในโปแลนด์ ชาติสมาชิกนาโต้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นการยิงโดยรัสเซีย ก่อนที่สำนักข่าวแห่งนี้จะกลับลำในเวลาต่อมา   ข่าวคราวสำนักข่าวเอพีได้ยกเลิกสัญญากับ เจมส์ ลาปอร์ตา ผู้สื่อข่าวเชิงสืบสวน ถูกเผยแพร่ออกมา หลังจากหนังสือพิมพ์ Daily Beast รายงานในวันจันทร์ (21 พ.ย.) ว่าทางเอพีได้มีการสืบสวนกันภายในอย่างรวบรัด และต่อมาข่าวคราวเกี่ยวกับการไล่ออก ลาปอร์ตา ก็ได้รับการยืนยันจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ที่อ้างอิงแหล่งข่าวในสำนักข่าวเอพี   เมื่อวันอังคารที่แล้ว (15 พ.ย.) เอพีรายงานข่าวด่วน อ้างอิงเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสในหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่าขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งข้ามเข้าสู่ดินแดนของโปแลนด์ ชาติสมาชิกนาโต้ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน   เหตุการณ์ลักษณะนี้เท่ากับว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนได้ลุกลามบานปลายแล้ว เนื่องจากมันเป็นการโจมตีชาติสมาชิกของนาโต้ ซึ่งเสี่ยงโหมกระพือการตอบโต้จากกลุ่มพันธมิตรทหารแห่งนี้ เรื่องราวนี้ถูกสำนักข่าวอื่นๆ จำนวนมากหยิบยกนำไปเสนอต่อและกลายเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลก   รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการโจมตีใด ๆ ใกล้ชายแดนยูเครน-โปแลนด์ ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุในหมู่บ้านเชวาดูฟ (Przewodow) ก่อนต่อมาเจ้าหน้าที่จากโปแลนด์ สหรัฐฯ และอียู จะบอกว่ามีขีปนาวุธลูกเดียวที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่มันจะถูกยิงออกมาจากฝ่ายยูเครน   ในเวลาต่อมา…