AI ทำงานพลาด !! จับชาย 65 เข้าคุกข้อหาฆาตกรรม

Loading

  “AI ตรวจจับเสียงทำงานพลาด ทำชาย 65 เข้าคุกข้อหาฆาตกรรม” ในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2020 ณ ชิคาโก Michael Williams วัย 65 ปีต้องโดนจำคุก 11 เดือน หลังถูกตัดสินฆาตกรรม เชฟหนุ่ม Safarian Herring วัย 25 ปี เพราะมีหลักฐานเป็น AI ตรวจจับเสียงปืนของบริษัท ShotSpotter ที่ติดตั้งอยู่ทั่วเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐฯ แต่ภายหลังพบว่า AI ดังกล่าวนั้นทำงานผิดพลาด…     ตามคำให้การของ Michael Williams เขาระบุว่าวันที่เกิดเหตุ เขาขับรถออกไปซื้อบุหรี่ข้างนอก และพบเจอเข้ากับ Safarian Herring ซึ่งเป็นคนละแวกบ้าน เขาจึงรับขึ้นรถมาด้วย แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีรถอีกคันวิ่งเข้ามา และยิง Herring เสียชีวิตต่อหน้า Williams แต่แทนที่ตำรวจจะไปตามจับรถคันนั้นให้ได้ Williams กลับถูกตั้งข้อหาแทย…

ปฏิบัติการแอปลับ ‘ANOM’ อาชญากรติดกับโดนจับทั่วโลก

Loading

  FBI กับตำรวจออสเตรเลีย ร่วมมือผุดปฏิบัติการแอปแชตลับ ANOM อาชญากรในหลายสิบประเทศหลงกลใช้งาน สุดท้ายโดยจับทั่วโลกเกือบพันคน   ปฏิบัติการนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน เจ้าหน้าที่พยายามแพร่กระจายแอปเข้าสู่เครือข่ายใต้ดิน จนอาชญากรเริ่มใช้งานอย่างแพร่หลายใน 100 ประเทศทั่วโลก   เจ้าหน้าที่ยังได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากอาชญากรตัวเป้ง ซึ่งหลงกลตำรวจและนำแอปไปแนะนำต่อ จนมันกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น   เมื่อวันอังคารที่ 8 มิ.ย. 2564 หน่วยงานตำรวจในหลายประเทศทั่วโลก ประกาศข่าวการจับกุมตัวอาชญากรจำนวนกว่า 800 คน ซึ่งถูกหลอกให้ใช้แอปพลิเคชันส่งข้อความเข้ารหัสที่ชื่อว่า ‘ANOM’ (อานอม) ซึ่งดูเหมือนจะปลอดภัย แต่แท้จริงแล้ว แอปนี้กลับถูกบริหารจัดการโดย FBI ของสหรัฐฯ   ปฏิบัติการที่ว่านี้เป็นความร่วมมือระหว่าง FBI กับตำรวจออสเตรเลีย โดยแพร่กระจายแอป ANOM ไปในหมู่แก๊งอาชญากรรมอย่างลับๆ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถดักฟังข้อมูลต่างๆ ได้มากมายไม่ว่าจะเป็นแผนลักลอบขนยาเสพติด, การฟอกเงิน หรือแม้แต่แผนฆาตกรรม   นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังได้รับความช่วยเหลือโดยไม่ตั้งใจจากอาชญากรตัวเอ้ ซึ่งหลบหนีการจับกุมมานานกว่า 10 ปี แต่กลับหลงกลตำรวจและนำแอปไปแนะนำต่อ จนนำไปสู่ความสำเร็จของปฏิบัติการที่เอฟบีไอระบุว่า…

วุฒิสภาสหรัฐฯ ชี้ปัญหาด้านความปลอดภัย-งานข่าวกรอง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภา 6 ม.ค.

Loading

  คณะกรรมาธิการวุฒิสภา 2 ชุดร่วมกันออกรายงานที่แสดงให้เห็นถึง “ความล้มเหลวด้านงานรักษาความปลอดภัยและงานข่าวกรองจำนวนหนึ่ง” ที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและระหว่างการก่อการจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา รายงานร่วมดังกล่าวที่ได้รับการเปิดเผยออกมาในวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่า “วันที่ 6 มกราคม ปี ค.ศ. 2021 นั้นไม่เพียงแต่เป็นวันที่จะถูกจดจำว่าเป็นวันเกิดเหตุโจมตีระบอบประชาธิปไตย แต่ยังชี้ให้เห็นว่า องค์กรที่รับผิดชอบด้านการรักษาความปลอดภัยและการปกป้องอาคารรัฐสภาและทุกคนที่อยู่ในพื้นที่นั้น ไม่ได้มีการเตรียมตัวรับมือกับการโจมตีขนานใหญ่ แม้จะมีความตระหนักดีเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุรุนแรงที่พุ่งเป้ามายังอาคารรัฐสภาแล้วก็ตาม” คณะกรรมาธิการด้านกฎและด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของวุฒิสภาร่วมกันทำการสอบสวนเหตุจลาจลตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเชิญผู้รับผิดชอบดูแลหน่วยงานตำรวจประจำรัฐสภาและหน่วยงานรักษากฎหมายอื่นๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทั้งอดีตและปัจจุบันของกระทรวงกลาโหมและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เข้าให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และยังตรวจสอบเอกสารหลายพันชุด ประกอบเอกสารคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาอีก 50 นายด้วย รายงานดังกล่าวสรุปว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดในวันที่ 6 มกราคมนั้น คือ ความล้มเหลวของงานด้านข่าวกรอง ที่ไม่ได้ทำการวิเคราะห์ ประเมินและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุรุนแรงและภัยคุกคามต่อรัฐสภารวมทั้งสมาชิกทั้งหลายที่อยู่ในอาคารในวันดังกล่าวให้กับหน่วยงานรักษากฎหมาย     คณะกรรมาธิการทั้งสองยังชี้ด้วยว่า ความล้มเหลวที่กล่าวมานั้นรวมความถึง การที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) หรือกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ทำการประเมินภัยคุกคามใดๆ แม้จะมีเสียงเรียกร้องผ่านช่องทางออนไลน์ให้มีการก่อเหตุความรุนแรงที่อาคารรัฐสภามาสักระยะแล้ว รวมทั้งหน่วยงานด้านข่าวกรองของทีมตำรวจประจำรัฐสภาไม่ยอมแบ่งปันข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับภัยคุกคามรุนแรงให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เลย นอกจากประเด็นความล้มเหลวแล้ว คณะกรรมาธิการทั้งสองยังตำหนิทีมงานรักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภาที่ไม่ยอมร้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังสำรองของรัฐ ล่วงหน้าก่อนวันที่ 6…

‘สหรัฐ’ สั่งสอบข้อมูลนักธุรกิจดังรั่ว พบเลี่ยงจ่ายภาษีตาม ก.ม.

Loading

  “สหรัฐ” สั่งตรวจสอบข้อมูลภาษีนักธุรกิจชื่อดังหลายคนรั่วไหลสู่สาธารณะ พร้อมเอาผิดทางกฎหมาย หลังสื่อออนไลน์แฉ มีการเลี่ยงจ่ายภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังตรวจสอบว่าข้อมูลภาษีของบรรดานักธุรกิจชื่อดังที่ร่ำรวย อาทิ เจฟฟ์ เบซอส, อีลอน มัสก์ และ วอร์เรน บัฟเฟตต์นั้น รั่วไหลออกสู่สาธารณะได้อย่างไร นางลิลี่ อดัมส์ โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า “การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของรัฐบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย” เธอกล่าวเสริมว่า “เรากำลังส่งเรื่องนี้ไปยังสำนักงานตรวจการทั่วไป, ผู้ตรวจการคลังทั่วไปสำหรับการจัดเก็บภาษี (TIGTA), สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) และสำนักงานอัยการสหรัฐประจำเขตโคลัมเบีย ซึ่งทั้งหมดนี้มีอำนาจอิสระในการตรวจสอบ”   ———————————————————————————————————————————————————— ที่มา :  กรุงเทพธุรกิจ          / วันที่เผยแพร่  9 มิ.ย.2564 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/942598

ทำไปได้!สหรัฐฯขอโทษขอโพย ทหารซ้อมรบพลาดบุกจู่โจมโรงงานบัลแกเรีย(ชมคลิป)

Loading

  กองทัพสหรัฐฯรุดออกถ้อยแถลงขอโทษในวันอังคาร(2มิ.ย.) หลังทหารทำพลาดบุกจู่โจมโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งผลิตเครื่องจักรแปรรูปน้ำมันมะกอก ในบัลแกเรีย โดยไม่ตั้งใจ ระหว่าการซ้อบรบเมื่อเดือนที่แล้ว ทหารสหรัฐฯประจำกองพลพลร่มที่ 173 ทำการซ้อมรบปฏิบัติการยึดและคุ้มกันสนามบินเชชเนจิโรโวในบัลแกเรียเป็นเวลาหลายวัน ในนั้นรวมถึงภารกิจเคลียร์ที่กำบังทั่้วสนามบิน จากถ้อยแถลงของกองทัพสหรัฐฯประจำภาคพื้นยุโรปและแอฟริกาที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร(2มิ.ย.) ถ้อยแถลงระบุว่าระหว่างการซ้อบรบเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ทหารเข้าเคลียร์อาคารแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับสนามบิน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ซ้อมรบ แต่ข้อเท็จจริงคือมันเป็นอาคารพลเรือนบัลแกเรียที่มีธุรกิจเอกชนแห่งหนึ่งเป็นเจ้าของ “ไม่ได้มีการยิงออกไป” กองทัพสหรัฐฯชี้แจง “ทหารสหรัฐฯจริงจังกับการซ้อมรบ และให้ความสำคัญลำดับต้นๆกับความปลอดภัยของทหารของเขา พันธมิตรของเราและพลเมือง เราขอโทษด้วยความจริงใจต่อภาคธุรกิจดังกล่าวและลูกจ้างของพวกเขา” กองทัพสหรัฐฯระบุในถ้อยแถลง   US special forces mistakenly storm a factory producing machinery for olive oil during #NATO drills in #Bulgaria. The owner has filed a law suit pic.twitter.com/3NRM558Q7g — Dilyana Gaytandzhieva (@dgaytandzhieva)…

ทั้งที่ถูกแฉไม่รู้กี่ครั้ง สหรัฐก็ยังไม่หยุดสอดแนมพันธมิตร

Loading

  แม้จะเคยถูก เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน แฉว่าสอดแนมพันธมิตร แต่สหรัฐก็ไม่เคยยอมรับตรงๆ และไม่เคยหยุดจนกระทั่งถูกเปิดโปงอีกครั้ง ในเดือนสิงหาคม 2013 เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนให้ข้อมูลกับ The Guardian ว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (NSA) มีโครงการหนึ่งที่ชื่อ XKeyscore เป็นโปรแกรมขนาดใหญ่ที่ดูดข้อมูลอีเมล กิจกรรมโซเชียลมีเดีย และประวัติการท่องเว็บทั้งหมด ข้อมูลจะถูกวิเคราะห์, กรอง ละจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก โดยมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ใน 150 ไซต์โดยประมาณซึ่งเป็น “ความลับสุดยอด” หนึ่งในเซิร์ฟเวอร์นั้นตั้งอยู่ในประเทศไทย   ต่อมาในเดือนมกราคม 2014 (หรือไม่กี่เดือนก่อนรัฐประหารในไทย) Der Spiegel รายงานว่า NSA สามารถเจาะข้อมูลการสื่อสารตามเคเบิลใยแก้วนำแสงจำนวนมากที่มีต้นกำเนิดใกล้เมืองมาร์เซย์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส และเชื่อมโยงยุโรปกับแอฟริกาเหนือและประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ต่อเนื่องผ่านปากีสถานและอินเดียไปยังมาเลเซียและไทย เครือข่ายนี้เรียกว่า Sea-Me-We 4 และสหรัฐล้วงข้อมูลลับสุดยอดเอามาได้ Der Spiegel อ้างเอกสารของ NSA ที่บอกว่า “ในอนาคตจะมีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งนี้ (ระบบ Sea-Me-We 4 )…